ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงโพสต์ภาพขณะยังทรงพระเยาว์ประทับอยู่ในอ้อมแขนพระบิดา พร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนพระองค์ “nichax” 1 เดือนเสด็จสู่สวรรคาลัย ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์ ยังคงให้กำลังใจจากบนฟากฟ้าให้เดินไปข้างหน้าสู่อนาคตด้วยกัน สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนเดินทางเข้าสักการะพระบรมศพ 15 วัน 436,891 คน ยอดถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลกว่า 29,252,779 บาท ร.พ.ศิริราช-กองทัพเรือจัดพิธีน้อมรำลึกสุดยิ่งใหญ่ เชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์บรรเลง ประชาชนร่วมงานร่วมขับร้องเนืองแน่น ร่ำไห้ซาบซึ้งตื้นตัน พสกนิกรยังหลั่งไหลขึ้นสักการะพระบรมศพหน้าพระบรมโกศ หัวหินจัดอลังการขบวนเรือยาว 119 ลำเทิดพระเกียรติในอ่างเก็บน้ำเขาเต่าที่รับสั่งให้สร้างขึ้น

รวมปชช.15วันล้นหลาม4.3แสนคน

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นวันที่ 16 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเฝ้ารอต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ ในเวลา 05.00 น. จากนั้นได้เปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี

ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอกตลอดเวลา และเมื่อได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมโกศพระบรมศพ พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

ขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รด. และอาสากู้ภัย ได้ตั้งจุดคัดกรองตามประตูทางเข้ารอบพื้นที่พระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวงรวม 8 จุด โดยตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งตรวจบัตรประชาชน และหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติด้วย

วันเดียวกันนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 29,563 คน รวม 15 วันมีจำนวน 436,891 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,345,704 บาท รวม 15 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 29,252,779 บาท

พระบรมฯพระราชทานเลี้ยง4มื้อ

ต่อมาเวลา 12.00 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหารและวัดบวรนิเวศวิหารสวดพระอภิธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ในสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาแสดงความอาลัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ นำอาหาร ขนม ผลไม้ ของว่างและน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน

สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชน ประกอบด้วย มื้อเช้าเวลา 07.00 น. เกี๊ยวหมูน้ำใส 1,500 ถ้วย นม หนองโพ 2,000 กล่อง มื้อกลางวัน 11.00 น. ข้าวหมูแดง 1,000 ชุด ข้าวต้มมัดไฮโซ 1,000 ชิ้น ทอดมันปลาทะเล 500 กิโลกรัม ผัดหมี่ป้าน้อย 2,000 จาน เต้าฮวยฟรุ้ตสลัด 1,000 ชุด ขนมฟักทอง 300 ชิ้น มื้อบ่ายเวลา 16.00 น. ขนมไทย 1,000 กล่อง ข้าวเหนียวหมู-ไก่ทอด 1,000 ชุด ไข่ต้ม 450 แพ็ก มื้อเย็นเวลา 18.00 น. ข้าวแกงส้ม ไข่ยางมะตูม 2,000 ชุด ผัดไทย 1,000 จาน น้ำดื่มสมุนไพร 500 ลิตร และน้ำดื่มจิตรลดาให้บริการประชาชนตลอดทั้งวัน ทั้งยังมีร่ม 500 คัน บริการด้วย

นอกจากนี้ยังมีนักเรียนจากมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสา ธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จำนวน 20 คน มาเป็นจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ ด้วยการเดินเสิร์ฟน้ำให้กับผู้ที่มาต่อแถวรอ สักการะ และเข็นรถเข็นให้กับผู้ป่วยและคนชรา ทั้งนี้นักเรียนทุนพระราชทานจะสลับผลัดเปลี่ยนกันมาประจำการและคอยอำนวยความสะดวกที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ไปตลอดจนครบ 100 วัน โดยนักเรียนทุนที่ได้รับคัดเลือกมาทำกิจกรรม จะต้องส่งเรียงความเรื่องความประทับใจโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในจังหวัดของตัวเอง เพื่อให้คณะกรรมการของมูลนิธิคัดเลือก

ทูลกระหม่อมโพสต์ถึงพระบิดา

วันเดียวกันทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์ภาพขณะยังทรงพระเยาว์ประทับอยู่ในอ้อมแขนพระบิดา พร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนพระองค์ “nichax” ความว่า 1 เดือนที่แล้วที่พ่อของเราเสด็จสู่สวรรคาลัย ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์ เหมือนดังเพลงพระราชนิพนธ์ “ในดวงใจนิรันดร์” หรือ “Still on my Mind” ท่านไม่จากเราไปไหน ยังคงให้กำลังใจเราจากบนฟากฟ้าให้เราเดินไปข้างหน้า รวมใจช่วยกันเดินสู่อนาคตด้วยกัน

ทูลกระหม่อมเสด็จพบประชาชน

เมื่อเวลา 19.15น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จออกจากประตูเทวาพิทักษ์ พระบรมมหาราชวัง มายังเต็นท์มูลนิธิโครงการทู บี นัมเบอร์วัน สนามหญ้าด้านหน้าทำเนียบองคมนตรี เพื่อประทานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ผ้าพันคอ และเซ็ตของว่างประกอบด้วย ขนม ส้ม และน้ำผลไม้ แก่ประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณโดยรอบพระมหาราชวังและท้องสนามหลวง

ทันทีที่เสด็จถึงทรงทักทายประชาชนอย่างไม่ถือพระองค์ โดยประชาชนต่างเข้าแถวรอรับของประทานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” เมื่อประทานพระบรมฉายาลักษณ์หมดสิ้น ทรงแย้มพระโอษฐ์ก่อนมีรับสั่งกับประชาชนว่า “ขอบคุณทุกคนที่มา”

ต่อคิวยาวรับข้าวเหนียวไก่ทอด

บริเวณหน้ากรมศิลปากร รถหน่วยเคลื่อนที่เพื่อนพึ่ง(ภา)ช่วยด้วยใจคนไทยไม่ทิ้งกัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะองค์นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย รับสั่งให้ เจ้าหน้าที่แจกจ่ายไก่ทอดและข้าวเหนียวให้แก่พสกนิกร โดยพสกนิกรเข้าแถวมารับอาหารกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เตรียมไก่ทอด 1,300 กิโลกรัม และข้าวเหนียว 500 กิโลกรัม โดยมีคณะอาจารย์และบุคลากรจากสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสม สวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จำนวน 20 คน และทหารจากกองพลทหารม้าที่ 2 จำนวน 10 นาย มาช่วยทอดไก่และบริการโดยรวม รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสภากาชาดไทยมาช่วยห่อข้าวเหนียวไก่ทอดตลอดทั้งวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวันที่ 13 พ.ย.นี้ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยากจะหยุดให้บริการแจกจ่ายอาหารเป็นวันสุดท้ายตามกำหนดการ และจะให้บริการแจกจ่ายอาหารอีกครั้งในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) ถวายพระบรมศพ ระหว่างวันที่ 1-5 ธ.ค. ซึ่งระหว่างนี้ยังมีเครือข่ายของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก อาทิ ศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ เครือเดอะมอลล์ มาแจกจ่ายอาหารสำเร็จรูปในบริเวณจุดเดิมอย่างต่อเนื่อง

ผบช.น.กำชับตร.บริการปชช.

วันเดียวกัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า เป้าหมายหลักในการปฏิบัติหน้าที่มี 3 ส่วน แบ่งออกเป็น 1.เรื่องจราจร 2.ความปลอดภัย 3.การบริการ โดยการจราจรมีความจำเป็นที่ต้องปิดทั้งหมด 27 เส้นทางโดยรอบพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรืออุบัติเหตุ ทั้งนี้ประชาชนกว่าร้อยละ 90 เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน ส่วนด้านความปลอดภัย ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันที่ 13 พ.ย.นี้มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รวมวันละ 4,000 คน ซึ่งปกติตัวเลขยืนยันในวันหยุดราชการจะมีประชาชนเดินทางมาวันละ 150,000 คนขึ้นไป แต่เมื่อวานที่ผ่านมานับจำนวนรวมผู้ที่มาร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรประมาณ 140,000 คน อย่างไรก็ตาม ประชาสัมพันธ์ให้ทราบด้วยว่าช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. คนค่อนข้างน้อย จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. แทบจะไม่ค่อยมีคนเหลืออยู่แล้ว สามารถเดินทางมาได้ โดยจะต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีอาชญากรรมที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเกิดขึ้นในบริเวณโดยรอบที่ยังไม่มาถึงจุดคัดกรองที่มีการตรวจยึดของมีคมจึงทำให้ไม่มีเกิดเหตุในบริเวณที่ประชาชนมารอถวายสักการะพระบรมศพ เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยในพื้นที่ ต้องตรวจค้นหมดทุกราย โดยใช้วิธีการสุภาพ ส่วนการดูแลบุตรหลานสามารถแจ้งตำรวจที่อยู่บริเวณโดยรอบทั้งสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถจักรยาน สายตรวจรถจักรยานยนต์ พบตำรวจที่ไหนแจ้งที่นั่น เขียนชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ติดตัวบุตรหลานไว้ แม้แต่ผู้ใหญ่คนแก่ก็มีเดินพลัดหลง ต้องช่วยกัน และขอความร่วมมืออย่านำทรัพย์สินมีค่ามาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโอกาสการกระทำความผิด

“ได้กำชับสั่งการให้ตำรวจนครบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องกระตือรือร้น ทำงานด้วยใจ ทุกเวลาทุกคนต้องมาทำให้เป็นประโยชน์ ให้คำแนะนำบริการพี่น้องประชาชน ตรวจสอบกรณีเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต และตรวจสอบข้อมูลการกระทำความผิดของบุคคลต้องสงสัย ผู้สื่อข่าวนักท่องเที่ยวต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน ทุกคนต้องถูกตรวจค้น โดยจะต้องอธิบายเหตุผล ภารกิจของตำรวจทุกคนทำให้พื้นที่เหล่านี้ปลอดภัย พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวก” ผบช.น. กล่าว

รักษาความปลอดภัยตรวจเข้มข้น

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่บริเวณเต็นท์มหาดเล็กหน่วยทหารรักษาพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พล.ต.ต. อิทธิพล พิริยะภิญโญ รรท.ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบก.จร. รับมอบร่มจำนวน 500 คัน จากอรสา ยุทธารักษ์ เจ้าของร้านเพชรอรสา และทีมงานแฟนคลับนูโว ผ่าน ผู้แทนข้าราชบริพารในพระองค์ กองกิจการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำบริการประชาชนต่อไป

พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า ในส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย เน้นดูความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีสายตรวจนอกเครื่องแบบลงเต็มพื้นที่ เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามีแก๊งล้วงกระเป๋าเข้ามาในพื้นที่ด้านนอกจุดคัดกรองสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันตรวจยึดอาวุธมีดของมีคมได้กว่า 400 ชิ้น ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยตามเต็นท์และบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง เดินเท้าตรวจสอบ โดยเฉพาะการตรวจพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) พร้อมสุนัขตำรวจ 4 ชุด ลงพื้นที่ตรวจตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนให้ประชาชนเข้ามา

พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดกำลังสายตรวจ 16 ชุดด้านในรั้วเหล็ก ชุดละ 3 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กล้องส่องทางไกลดูแลจุดละ 2 คน เข้ามาช่วยตรวจสอบเฝ้าระวังทำพื้นที่ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สั่งเพิ่มการปฏิบัติหน้าที่กำลังสายตรวจที่อยู่บริเวณท้องสนามหลวง ต้องเดินตรวจโดยติดตั้งเพิ่มอุปกรณ์มาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีโอดีด้วย อย่างไรก็ตาม ขอประชาชนระมัดระวังทรัพย์สินมีค่าด้วย

น้อมรำลึก - ร.พ.ศิริราช ร่วมกับกองทัพเรือ และประชาชนจำนวนมาก จัดแปรอักษรเลข ๙ น้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงาน "น้อมดวงใจชาวศิริราช...ตามรอยพระราชปณิธานพระภูมิพล" ที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ ร.พ.ศิริราช เมื่อวันที่ 13 พ.ย.

น้อมรำลึก – ร.พ.ศิริราช ร่วมกับกองทัพเรือ และประชาชนจำนวนมาก จัดแปรอักษรเลข ๙ น้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงาน “น้อมดวงใจชาวศิริราช…ตามรอยพระราชปณิธานพระภูมิพล” ที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ ร.พ.ศิริราช เมื่อวันที่ 13 พ.ย.

ศิริราช-ทร.จัดน้อมรำลึกยิ่งใหญ่

เวลา 15.00 น. ที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ร.พ.ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับกองทัพเรือ (โดยฐานทัพเรือกรุงเทพ) จัดกิจกรรม “น้อมดวงใจชาวศิริราช…ตามรอยพระราชปณิธานพระภูมิพล” โดยมี ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธาน ร่วมกับ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยบุคลากร นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล กำลังพลฐานทัพเรือกรุงเทพ และประชาชนร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก และ เจ้าหน้าที่ร.พ.ศิริราช ได้แจกเทียนและพระบรมฉายาลักษณ์ให้กับผู้มาร่วมงาน

จากนั้นเวลา 16.00 น. วงดุริยางค์ราชนาวีบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ โดยนำเครื่องดนตรี 130 ชิ้น พร้อมนักดนตรีและนักร้อง 160 คน มี น.อ.ภาสกร สุวรรณพันธ์ ผู้บังคับกองดุริยางค์ทหารเรือ เป็นผู้ควบคุมวง ร่วมด้วยสมาชิกหลายรุ่นจากชมรมประสานเสียงศิริราช 45 คน เพลงที่นำมาบรรเลง ได้แก่ เพลงแสงเทียน อาทิตย์อับแสง ชะตาชีวิต ลมหนาว ในดวงใจนิรันดร์ แผ่นดินของเรา ยามเย็น ในหลวงของแผ่นดิน ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป แสงทิพย์ แสงเดือน ของขวัญจากก้อนดิน ยามค่ำ แว่ว สายฝน พร้อมกันนี้วงดุริยางค์ราชนาวีได้ประพันธ์เพลง แสงเทียนแสงฟ้า ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช โดยตลอดการบรรเลงเพลง ประชาชนที่ร่วมงานต่างร่วมร้องเพลงและหลายคนร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง

เวลา 17.15 น. เป็นพิธีถวายสักการะต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 4 ชุด ชุดแรก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา นำผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลากรศิริราช ชุดที่ 2 กองทัพเรือ โดยกำลังพลฐานทัพเรือกรุงเทพ นำโดยพล.ร.ต.วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ ชุดที่ 3 ฝ่ายการพยาบาล ร.พ.ศิริราช นำโดยนางทิพยา ถนัดช่าง หัวหน้าฝ่ายการพยาบาล และชุดที่ 4 เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตบางกอกน้อย นำโดยนายพีรพล เรี่ยวแรงศรัทธา นายกสโมสรนักศึกษาแพทย์ศิริราช

เวลา 17.25 น. กำลังพลฐานทัพเรือกรุงเทพ และเหล่าพยาบาล ฝ่ายการพยาบาล ร.พ.ศิริราช จำนวน 140 คน ร่วมกันแปรอักษรเลข ๙ และบนหลังคาอาคารศาลาศิริราช 100 ปี ยังมีการแปรอักษรด้วยการจุดเทียน 1,700 เล่ม เป็นข้อความ ขอตามรอยพระราชปณิธาน อย่างสวยงาม

ขอนแก่นแสดงภาพ10,089แผ่น

วันเดียวกัน ที่อาคารพุทธศิลป์ ข้างบึงสีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีเจดีย์ 5 ชั้น ความสูง 16 เมตร เทียบเท่าอาคาร 5 ชั้น จัดแสดงภาพในหลวงที่ประชาชนชาว จ.ขอนแก่นร่วมกันวาดขึ้นจำนวน 10,089 แผ่น มีพิธีแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจังหวัดขอนแก่นร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดขึ้นในชื่อ “เสด็จฟ้า สถิตไทย” โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น นายกิตติชัย ไตยรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น นำข้าราชการ พ่อค้าประชาชนทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป สวดพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศล

ต่อมาเวลา 17.09 น. มีพิธีเปิดนิทรรศการแสดงผลงาน 89 ศิลปินอีสานเพื่อพ่อหลวง ณ หอศิลปวัฒนธรรม จากนั้นเปิดนิทรรศการโคมไฟนานาชาติตามรอยประทีปอัครศิลปิน นำขบวนแห่ผ้าภาพวาดพระราชกรณียกิจความยาว 89 เมตร จากหอศิลปวัฒนธรรมเข้าสู่บึงสีฐาน และเปิดนิทรรศการแสดงภาพในหลวง 10,089 ภาพ ที่ติดอยู่ตามชั้นต่างๆ ของเจดีย์ 5 ชั้น

บุรีรัมย์จัดกันตรึมแสดงความอาลัย

เวลา 18.30 น. วันเดียวกัน นางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดงาน มหกรรมกันตรึม พลังศิลปินรวมใจแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สวนรมย์บุรี จ.บุรีรัมย์ โดยมีศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน เครือข่ายวัฒนธรรม นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวบุรีรัมย์แต่งกายไว้ทุกข์เดินทางไปร่วมชมการการแสดงเหล่าศิลปินกันอย่างเนืองแน่น ประกอบด้วยการขับร้องเพลงของศิลปินกันตรึมร่วมกับตัวแทนเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงการขับร้องเพลงล้นเกล้าเผ่าไทย ร้องนำโดยครูประยงค์ ชื่นเย็น ศิลปินแห่งชาติ

จากนั้นเป็นการแสดงของวงกันตรึม คณะ ส.สไบทอง ศิลปินกันตรึมจังหวัดบุรีรัมย์ ต่อด้วยการแสดงเจรียง ของคณะสมหวัง จากจังหวัดสุรินทร์ การแสดงของวงสะไน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ การถวายเพลงโคราชแสดงความอาลัยของศิลปินพื้นบ้านจากจังหวัดนครราชสีมา การแสดงดนตรีพื้นบ้านดีดพิณของครูทองใส ทับถนน จังหวัดอุบลราชธานี การแสดงของวงกันตรึมของโรงเรียนสินรินทร์วิทยา ทั้งนี้ ภายในงานจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

หัวหินจัดขบวนเรือ 119 ลำ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งเรือยาวรายการพิเศษ เรือยาวร่วมใจถวายพ่อหลวง ที่อ่างเก็บน้ำเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วยชาวเรือยาวประเพณีทั่วประเทศจำนวน 119 ลำ ตลอดจนส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมงาน ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหินจัดขึ้นแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมชมขบวนเรือเทิดพระเกียรติ 119 ลำ และชมการแข่งขันเรือยาวครั้งประวัติศาสตร์ โดยจัดแข่งขันเรือยาวเที่ยวเกียรติยศ เทิดพระเกียรติ จำนวน 9 เที่ยว พร้อมขบวนเห่เรือ จำนวน 119 ลำ โดยมีเรือสุพรรณหงส์ และเรืออนันตนาคราชจำลอง นำขบวน ณ อ่างเก็บน้ำเขาเต่า ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่รับสั่งให้สร้างอ่างเก็บน้ำให้กับชาวบ้านเขาเต่า

นายนพพร นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า การจัดแข่งขันเรือยาวในครั้งนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจระหว่างทีมแข่งเรือที่เคยได้รับโล่พระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากการแข่งขันเรือยาวสนามต่างๆ ซึ่งมีเพียงจำนวน 4 ทีมทั้งประเทศ ได้แก่ ทีมเรือจาก อ.เมือง จ.น่าน, อ.เมือง จ.นครพนม, อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และ อ.หลังสวน จ.ชุมพร รวมทั้งทีมเรือประเภทต่างๆ ที่ได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เข้าร่วมด้วยใจภักดี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ด้าน พ.อ.วสันต์ สวนแก้ว รองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารสื่อสาร กรมการทหารสื่อสาร ในฐานะผู้จัดการทีมเรืออัครนาวา จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ทีมอัครนาวาได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และที่สำคัญยิ่งในวันนั้นได้มีโอกาสพายเบื้องพระพักตร์ของในหลวงที่เสด็จพระราชดำเนินมาชมการแข่งขันเป็นการส่วนพระองค์ และได้รับรางวัลจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่านเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2551 ยังความปลื้มปีติมาสู่ฝีพายทีมอัครนาวาอย่างหาที่สุดมิได้ นับเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตของฝีพายทุกคน แม้ว่าทีมจะต้องหยุดพักไม่ได้ร่วมลงแข่งขันแล้วเนื่องจากฝีพายทุกคนต่างรับราชการไม่มีเวลาฝึกซ้อม แต่ยังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงไม่เสื่อมคลาย ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสเรื่องความสามัคคีมาใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

ถวายในหลวง - เรือสุพรรณหงส์(จำลอง) และเรืออนันตนาคราช(จำลอง) พร้อมเรือแข่ง ชั้นนำทั่วประเทศรวม 119 ลำ ร่วมขบวนแห่ในพิธีเปิดการแข่งเรือยาวรายการพิเศษ ที่อ่างเก็บน้ำ เขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.

ถวายในหลวง – เรือสุพรรณหงส์(จำลอง) และเรืออนันตนาคราช(จำลอง) พร้อมเรือแข่ง ชั้นนำทั่วประเทศรวม 119 ลำ ร่วมขบวนแห่ในพิธีเปิดการแข่งเรือยาวรายการพิเศษ ที่อ่างเก็บน้ำ เขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน