พบมีมูลลงโทษเกินเหตุ พ่อแม่เหยื่อลุยแจ้งจับ

กรมราชทัณฑ์ส่งผู้ตรวจราชการคลี่ปมน.ช.เสียชีวิตปริศนา คาคุกคลองด่าน พบเบาะแสเจ้าหน้าที่ทำโทษผู้ต้องขังพร้อมกันหลายคน เพราะเกี่ยวข้องกับการลอบนำยาเสพติดเข้าไปในคุก เบื้องต้นพบข้อมูลว่าอาจทำเกินกว่าเหตุ ส่วนจะผิดวินัยระดับใดยังต้องขอตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ญาติรุดแจ้งความให้ตำรวจช่วยหาคนผิดมาดำเนินคดี พร้อมวอนชาวโซเชี่ยลเลิกแชร์ภาพศพเพราะกระทบ จิตใจลูกๆ ของผู้ตาย

จากกรณีน.ช.พัฒนชิรพงฐ์ บุญญะเสมา อายุ 34 ปี ต้องโทษในความผิดฐานพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ กำหนดโทษ 3 ปี 9 เดือน เหลือโทษจำคุกต่อ 1 ปี 8 เดือน ซึ่งเป็นโทษครั้งที่ 2 ควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางสมุทร ปราการ แพทย์ชันสูตรศพพบว่า เสียชีวิตจากอาหารติดหลอดลม แต่เนื่องจากมี บาดแผลตามร่างกาย จึงทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตเกิดความไม่เข้าใจ และเรียกร้องความยุติธรรมว่า การเสียชีวิตของน.ช.พัฒนชิรพงฐ์ อาจมีสาเหตุมาจากการลงโทษของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 เม.ย. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทางเรือนจำสืบทราบว่าผู้ต้องขังที่เสียชีวิตรายนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับยาเสพติด เข้ามาภายในเรือนจำจึงเรียกตัวมาสอบสวนจากนั้นลงโทษทางวินัย แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทางเรือนจำกระทำเกินกว่าเหตุจนทำให้ ผู้ต้องขังรายนี้เสียชีวิตหรือไม่

กรมราชทัณฑ์แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นได้ออกคำสั่งย้ายนายกฤษณ์ วงษ์เวช ผบ.เรือนจำกลางสมุทรปราการ ให้ไปรักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรม สังกัดสำนักผู้ตรวจราชการกรม และให้นายวิชัย โชติปฏิเวชกุล ผบ.เรือนจำกลางนครสวรรค์ ไปรักษาการในตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ

“กรมราชทัณฑ์ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ที่จะยกเลิกการลงโทษที่โหดร้ายทารุณ รวมทั้งเน้นย้ำกำชับให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกระดับ กำกับดูแลและเลิกการกระทำดังกล่าวโดยเด็ดขาด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรมราชทัณฑ์มิได้นิ่งนอนใจ และได้เดินทางไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ เพื่อแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต พร้อมที่จะเยียวยาให้กับผู้เสียหายหากการตรวจสอบพบว่าผู้เกี่ยวข้องมีความผิดจริงก็จะดำเนินการตามวินัยและทางคดีอาญาต่อไป” อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังสั่งการให้ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์เข้าสอบปากคำเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังเรือนจำกลางสมุทรปราการ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี ได้ข้อเท็จจริงตรงกันว่าก่อนเกิดเหตุมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปใน เรือนจำ เจ้าหน้าที่จึงเรียกตัวนักโทษ 16-18 คน ออกไปสอบถามแล้วสั่งซ่อม

เบื้องต้นมีมูลว่ากระทำเกินกว่าเหตุ ส่วนจะผิดวินัยระดับใดยังต้องขอตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องย้ายเจ้าหน้าที่บางส่วนออกไปประจำในส่วนอื่นระหว่างการสอบสวน เพื่อให้ผู้ต้องขังกล้าที่จะให้ข้อมูลกับกรรมการสอบสวน นอกจากนี้หากพบว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่มีความผิดทางอาญา จะส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์จะไม่ปกป้องเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด เพราะไม่มีนโยบายกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุกับผู้ต้องขัง

“หลังเกิดเหตุผมได้เดินทางไปร่วมงานศพของน.ช.พัฒนชิรพงฐ์ โดยเข้าไปขอโทษและแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมและเยียวยาความเสียหาย ทำให้ญาติรู้สึกสบายใจและคลายความกังวล ในส่วนของเรือนจำหลังเกิดปัญหาดังกล่าวทำให้ทุกเรือนจำตระหนักถึงมาตรการในการควบคุมดูแล ผู้ต้องขัง ซึ่งส่วนใหญ่หรือเกินกว่า 70% เป็นนักโทษคดียาเสพติด คนกลุ่มนี้ล้วนแต่มีปัญหายากจน ขาดอาชีพ ไม่ได้รับการศึกษา จึงไม่ควรได้รับการกระทำที่โหดร้ายทารุณ ระหว่างการคุมขังเรือนจำควรให้การศึกษา ฝึกอาชีพ และสงเคราะห์ดูแลเพื่อให้กลับตัวกลับใจ” อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า น.ช.พัฒนชิรพงฐ์ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ประมาณ 10 คน สั่งซ่อมด้วยการให้ถอดเสื้อมัดมือไพล่หลังกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นคอนกรีตภายในแดนของ เรือนจำ อ้างว่าต้องการขยายผลยาเสพติดที่น.ช.พัฒนชิรพงฐ์ไปนำเข้ามา สำหรับระยะเวลาในการซ่อมใช้เวลาครึ่งวันเช้า ก่อนจะปล่อยให้ไปรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตาม การซ่อมนักโทษในเรือนจำนั้นจะกระทำบางเรือนจำที่เป็นเรือนจำความมั่นคงสูงที่คุมขังนักโทษสูง และลักษณะการซ่อมคล้ายการฝึกกำลังของเจ้าหน้าที่ทหาร

วันเดียวกัน นายอนันต์ บุญญะเสมา อายุ 64 ปี และนางมะลิ บุญญะเสมา อายุ 70 ปี พ่อและแม่ของนายพัฒนชิรพงฐ์และทนายความ เข้าพบพ.ต.ท.ปภาณ วงศ์ชนเดช รอง ผกก.สอบสวน สภ.คลองด่าน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีให้เจ้าหน้าที่นำคนกระทำความผิดมาลงโทษ เพราะเชื่อว่านาย พัฒนชิรพงฐ์เสียชีวิตผิดธรรมชาติ

ด้านพ.ต.อ.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ให้เข้ามากำกับดูแลการทำคดีอย่างใกล้ชิด ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คดีดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกันในสองท้องที่ คือ สภ.บางบ่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นายพัฒนชิรพงฐ์เสียชีวิตที่ร.พ. บางบ่อ และสภ.คลองด่าน ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำกลางสมุทรปราการ จึงให้ พ.ต.อ.สรวิศ สุขแพทย์ ผกก.สภ.บางบ่อ และพ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน ผกก.สภ.คลองด่าน นำพนักงานสอบสวนทั้งสองสถานีตำรวจมาทำงานร่วมกัน และสอบปากคำญาติของนายพัฒนชิรพงฐ์ไว้ก่อน แต่ทั้งนี้ต้องรอผลผ่าพิสูจน์จากนิติเวชมาประกอบเพื่อยืนยันว่าเสียชีวิตผิดธรรมชาติหรือไม่

นางปทุมมา บุญญะเสมา อายุ 43 ปี พี่สะใภ้ของนายพัฒนชิรพงฐ์ กล่าวว่า ทางญาติขอให้ชาวโซเชี่ยลหยุดแชร์ภาพศพ ทางญาติอยากยุติเรื่องทั้งหมด อยากให้เป็นไปตามกระบวน การทางกฎหมาย การที่มีภาพศพหลุดไปในโซเชี่ยลทางญาติไม่ได้อนุญาตให้เอาไปลง ยิ่งมีการแชร์ต่อทำให้ญาติทำใจได้ลำบาก สงสารลูกๆ ของนายพัฒนชิรพงฐ์ ที่ต้องมารับรู้เรื่องของพ่อและถูกเพื่อนถามตลอด ไม่อยากให้เด็กมีความทรงจำแบบนี้ของพ่อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน