ดาราน็อต กราบรถ โผล่สน.ยานนาวา ให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่เอาผิดกับหนุ่มคู่กรณีเรื่องชนแล้วหนี ยืนยันรู้สึกเสียใจจริงๆ ไม่ใช่เพราะถูกกดดัน ยังจะรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดเหมือนเดิม ที่ผ่านมาทั้งโทรศัพท์และพยายามไปเยี่ยมคู่กรณีแล้ว แต่ไม่ได้พบกัน เข้าใจว่าคงโกรธมาก ส่วนเรื่องที่อัดวิดีโอวันที่เจรจาบนสน. เพราะกลัวมาก จากนี้จะไปปฏิบัติธรรมสักระยะ ขณะที่ตร.เผย เป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องหนุ่มคู่กรณีข้อหาขับรถโดยประมาทและชนแล้วหนี

201611141528463-20030315184117

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่สน. ยานนาวา นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล อายุ 28 ปี หรือ‘น็อต เวคคลับ’ ดารา-พิธีกรหนุ่ม เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.อดิเรก พันธุ์ใย รอง ผกก. (สอบสวน) เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ เจ้าตัวแจ้งความเอาผิดกับนายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือบอย คู่กรณีที่ขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถมินิคูเปอร์ สีเหลือง-ดำ ทะเบียน ญย 8585 กทม. ของตนแล้วหลบหนี เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา

ภายหลังให้ปากคำกว่า 1 ชั่วโมง นาย อัครณัฐกล่าวว่า วันนี้ที่เดินทางมาสน.ยาน นาวา เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีรถชนเท่านั้น และตนได้ยืนยันกับพนักงานสอบสวนว่าจะไม่ติดใจเอาเรื่องหรือดำเนิน คดีใดๆ กับนายกิตติศักดิ์แล้ว อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วตั้งแต่ต้นตนก็ไม่ได้แจ้งความเอาผิดนายกิตติศักดิ์ไว้ และตอนนี้ตนก็ไม่ต้องการหรืออยากได้อะไรจากนายกิตติศักดิ์ด้วย ตอนนี้ ตนรู้สึกผิดมากๆ กับนายกิตติศักดิ์ และยืนยันว่าที่ตัดสินใจมาในวันนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสสังคม เป็นความรู้สึกผิดจากตนเองล้วนๆ จึงอยากจะขอโทษทุกๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ผู้ใหญ่ที่เอ็นดู พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ตนทำอะไรไปโดยไม่มีสติ ทำให้ผิดหวัง รวมถึงสถาบันที่เคยศึกษา ที่ทำให้เสียชื่อเสียง ตนอยากขออโหสิกรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งหมด และต้องขอขอบคุณทุกคำติเตือนจากทุกคน ตนจะนำคำแนะนำไปปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ทั้งนี้ ตนยังยืนยันคำเดิมว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับนายกิตติศักดิ์ โดยก่อนหน้านี้ตนได้โทรศัพท์ไปหาแม่ของนายกิตติศักดิ์แต่ก็ติดต่อไม่ได้ และตนได้ไปเยี่ยม นายกิตติศักดิ์ที่ร.พ. แต่ก็ไม่ได้เจอ เพราะไม่มีใครยอมมารับ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ตนเข้าใจอาจจะเพราะทุกคนคงโกรธตนมาก

เมื่อถามว่าวันแรกที่เกิดเหตุ นายอัครณัฐและนายกิตติศักดิ์ได้เจรจาไกล่เกลี่ยกัน ที่สน. ยานนาวา เหตุใดนายอัครณัฐจึงถ่ายคลิปไว้ นายอัครณัฐกล่าวว่า ตนกลัวว่าทางแม่ของนายกิตติศักดิ์จะผิดสัญญาตนกลัวมากจึงได้ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ดีหลังจากนี้ ตนคิดว่าจะไปปฏิบัติธรรมสักระยะหนึ่ง ในส่วนของข้อหาและรายละเอียดทางคดี ตนไม่สามารถตอบได้ ขอให้ไปสอบถามกับทางตำรวจว่าเป็นเช่นไร

201611141528462-20030315184117

ด้านพ.ต.ท.อดิเรกกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ นายอัครณัฐได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะปรากฏเหตุการณ์ตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชี่ยล ก่อนที่วันนี้เจ้าตัวจะประสานมาว่าต้องการเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมระบุว่า ไม่ติดใจเอาความกับนายกิตติศักดิ์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายอัครณัฐจะประสงค์เช่นนั้นแต่ในทางคดีแล้ว คดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้ตามพ.ร.บ.จราจร ทางบก ดังนั้น ทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ ในข้อหาขับรถโดยประมาท เฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย และหลังเกิดเหตุหลบหนี ไม่หยุดช่วยเหลือและไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะสอบปากคำนาย อัครณัฐในฐานะพยานทางคดี ทั้งนี้ได้สอบปากคำนายกิตติศักดิ์ในฐานะผู้ต้องหาไปเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่าถูกรถแท็กซี่ชนก่อนที่รถจักรยานยนต์จะไปเฉี่ยวชนกับรถของนายอัครณัฐ อย่างไรก็ดีขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการศาลแขวงพระนครใต้เพื่อดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน