เพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9 เตะ เอซบิรี่ สลบเหมือด ในกลอรี่ 53 ที่ฝรั่งเศส
เวลคัม ซาฮี (ซ้าย) ช่างภาพอิสระจากตูลูส ชาวฝรั่งเศส จะเป็นตากล้องมืออาชีพ ที่ตามเก็บภาพสิทธิชัย ในการชกที่ฝรั่งเศส
ย้อนหลังไปไม่ถึงสิบปี ศิลปะการต่อสู้หลากผลายผสมผสานที่เรียกกันว่า อัลติเมตไฟติ้ง หรือ”มวยกรง” หรือ แม้กระทั่ง การต่อสู้ที่เรียกกันว่า “คิกบ๊อกซิ่ง” ดูจะห่างไกลต่อการ”ยอมรับ”ในสังคมไทย ด้วยถูกมองว่า เป็นการต่อสู้ที่ไร้ซึ่งสปิริตบ้าง หรือ แม้แต่ คิกบ๊อกซิ่ง ช่วงปี พ.ศ.2515 ก็เคยถูก “โอซามุ โนกูจิ” คนญี่ปุ่น ลอกเลียนแบบจากมวยไทยแล้วนำไปเผยแพร่ปู้ยี่ปู้ยำให้เสียหาย กลายเป็นฟางเส้นเดียวที่ฝังแค้นในความทรงจำชาวไทยมานานนม
ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป วิวัฒนาการ ของการต่อสู้ได้รับการพัฒนา ไปพร้อมๆกับเชิงธุรกิจ เมื่อฝรั่งออกไอเดีย นำการต่อสู้ชนิดๆต่างๆ รวมทั้ง “มวยไทย” มาประยุกต์ใส่ใน “มวยกรง” ทุ่มโหมประชาสัมพันธ์ไปพร้อมกับการถ่ายทอดสด ได้รับความนิยมไปทั่วโลก สิ่งสำคัญเมื่อ มีการต่อสู้ มีซุปตาร์ มีคนดู ย่อมมีเม็ดเงิน รายได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว กลายเป็นธุรกิจครบวงจรของการถ่ายทอดสดไปในหลายๆประเทศ รวมทั้งข้ามทวีป
สิ่งที่น่าสังเกตุคือ ในบรรดานักสู้เหล่านั้น ส่วนใหญ่เกินกว่าครึ่ง ล้วนรู้จัก และผ่านการเรียนรู้ศึกษา “มวยไทย” มาแทบทั้งสิ้น ยอดมวยกรง หรือแม้แต่นักสู้คิกบ๊อกซิ่ง อย่าง”กลอรี่” GLORY หลายคนเคยแอบมาฝึกมวยในเมืองไทย ตั้งแต่ค่ายแถวย่านพัทยา ลงไปจนถึงพังงา ภูเก็ต ไปจนถึง เกาะสมุย ฯลฯ ภาพที่เห็นได้ชัดคือ ยามที่นักมวยต่างชาติขึ้นเวทีต่อสู้ บางรายมีการ”วันทา” ยกมือไหว้กรรมการและผู้ชม และก็มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่นักชกต่างชาติเหล่านั้น เต็มใจที่จะเข้ามาฝึกฝนวิชามวยไทยเต็มรูปแบบ ทั้งแม่ไม้ การออกอาวุธไปจนถึง การไหว้ครู ศึกษาศิลปะมวยไทยแบบตามตำราแต่โบราณ ชนิดที่ว่า นักมวยไทยแท้ๆในปัจจุบัน บางรายยังแทบไหว้ครูไม่เป็นเสียด้วยซ้ำไป !!
อาซิซ นาบิ (กลาง) เทรนเนอร์ อเมริกัน เชื้อสายโมร็อกโก ผู้ดูแลสิทธิชัย ทุกไฟต์ในการชกต่างแดน
“เจ้าเมย์” สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ไม่ใช่นักมวยไทยรายแรก ที่ไปบุกเบิกในต่างแดน แต่นับเป็นเรื่องแปลกและน่าทึ่ง เมื่อเจ้าตัว เดินทางไปชกมวยไทยในยุโรปครั้งแรกเมื่อ 9 ปีที่แล้วในฝรั่งเศส ด้วยอายุย่าง 18 ปี เอาชนะคู่ต่อสู้เจ้าถิ่นทั้งที่ตัวอายุยังน้อย แถมยังปราบยอด,มวยแถวหน้าในยุโรปจนราบเรียบ ตลอดระยะเวลาดังกล่าว สิทธิชัย คว้าชัยจนได้สิทธิ์ ขึ้นชิงแชมป์”กลอรี่” พิกัด 70 กก. กับ โรบิน “โปเกอร์ เฟซ” ฟานรุสมาเลน เจ้าของตำแหน่งชาวดัตช์ เป็นครั้งแรก
แม้ “เจ้าเมย์” ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “คิลเวอร์ คิด” จะพ่ายแพ้ลงจากเวทีในการชกครั้งแรก ทว่ากลับมีกระแสโจมตีวิพากษ์กันไปทั่วในโลกโซเชียล ถึงความพ่ายแพ้แบบค้านสายตาของนักมวยไทยในครั้งนั้น จนต้องมีการล้างตากันใหม่อีกครั้ง ซึ่งสิทธิชัยก็ไม่ทำให้แฟนเหล่านั้นผิดหวัง เขาสามารถคว้าชัยชนะในการรีแมตช์ คว้าเข็มขัดแชมเปี้ยนโลกกลับเมืองไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ ซ้ำยังกลายเป็น นักมวยไทยคนแรกที่ได้แชมเปี้ยน”กลอรี่”อีกด้วย
ชื่อเสียงของ “สิทธิชัย” กลายเป็นที่รู้จักทั่วยุโรป อเมริกา รวมไปจนถึงจีนแผ่นดินใหญ่ ผ่านการชกในยุโรปมาไม่ต่ำกว่า 30 ไฟต์ ในทวีปอเมริกา 1 ไฟต์ และยังไม่นับรวม ในประเทศจีนอีก ไม่น้อยกว่า 14 ไฟต์
ทว่าเป็นเรื่องน่าแปลก ที่ชื่อเสียงของ นักชกจากบุรีรัมย์รายนี้ กลับไม่เป็นที่คุ้นหูของแฟนชาวไทยทั่วไปแต่อย่างใด ถึงขนาด “มิสเตอร์ ทิม” ทิมาธี ธรรมมาชีวะ หัวหน้าคณะศิษย์สองพี่น้อง ยังต้องเปรยให้ฟังว่า บ่อยครั้งที่สิทธิชัยไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนๆนักมวยร่วมค่าย แต่กลับไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ ผิดกับนักชกคนอื่นๆ ทั้งๆที่ สิทธิชัย ซึ่งผ่านการต่อยชกในต่างแดนมาไม่น้อยกว่าสามสิบถึงสี่สิบครั้งเข้าไปแล้ว
ทีมงานเทรนเนอร์ ระดับมืออาชีพ ซึ่งมีทั่ง ครูมวยชาวไทย และ ชาวต่างชาติ ของสีเสื้อ “ศิษย์สองพี่น้อง”
สิทธิชัย เพิ่งจะมาแจ้งเกิดจริงๆ ก็คราวที่เดินทางไปเตะก้านคอน็อก “อี้ หลง” หลวงจีนเส้าหลินหมดสภาพยก 2 ที่เมืองจีนเมื่อปีก่อน กิตติศัพท์ของเค้าเริ่มขจรขจายไปในต่างแดนอีกครั้ง เมื่อเดินทางไปป้องกันแชมป์กลอรี่ที่สหรัฐอเมริกา การไล่เตะ คริสเตียน บาย่า คู่ชกหมัดหนักผิวสีแทนแบบแทบจะหมดทางสู้ และการต้อนรับจากแฟนชาวอเมริกัน ตลอดจนเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยทั้งใน มหานครนิวยอร์ก และชิคาโก้ รวมทั้งภาพของเจ้าหนูอเมริกันที่หอบเข็มขัดแชมเปี้ยนเยาวชน มาร่วมถ่ายรูปขอลายเซ็นต์ยอดมวยไทย กลายเป็นภาพที่ติดตา และได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนในเวลาอันรวดเร็วๆ ภาพของผู้ชมในสนามเข้ามาแสดงความยินดีในชัยชนะของนักมวยไทย ทั้งที่สิทธิชัยเพิ่งมาชกในอเมริกาเป็นครั้งแรก ล้วนเป็นประจักษ์พยานในความโด่งดังในทวีปอเมริกาเป็นอย่างดี
กับไฟต์ล่าสุด ตลาดมวยกลอรี่เปิดกว้างขึ้น นอกจากสิทธิชัยแล้วยังจะมี “ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง” และ “เพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9” รวมทั้ง “ลีโอ ปินโต”นักชกฝรั่งเศสขวัญใจชาวไทย ขึ้นชกร่วมรายการเดียวกัน
นับเป็นครั้งแรกที่มีนักมวยไทยได้ชกในรายการใหญ่ของกลอรี่
สิทธิชัย และ ธงชัย สองนักชกไทย สังกัด “ศิษย์สองพี่น้อง”
โรงยิมมวย “แพนเธอร์ส” ที่เมืองลีลล์ ประเทศฝรั่งเศส
“เจ้าเมย์” ปัจจุบันอายุ 27 ปี ทว่ามีค่าตัวจากการชกแต่ละไฟต์ในต่างแดน เป็นตัวเลข 7 หลัก (เงินบาท) และค่าตัวจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวจากชัยชนะในแต่ละครั้ง
เค้าเคยกล่าวถึง การใช้มวยไทยเป็นใบเบิกทางเข้าร่วมแข่งขันกลอรี่ว่า “ในการต่อสู้ แรกๆก็ค่อนข้างยุ่งยากไม่น้อย เพราะเราต้องปรับตัวให้เข้ากับกฏกติกาของเขา อย่างเช่นการห้ามใช้ศอก ห้ามคีบคอแทงเข่า หรือเบิ้ลเข่าเกิน 5 วินาที แต่เมื่อเราพยายามเรียนรู้และศึกษาข้อห้ามให้ถูกวิธีแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อสู้กับเขา..”
สิ่งที่สิทธิชัยกำลังสื่อนั้น หมายถึงโอกาสและประตูสำหรับนักมวยไทยที่เริ่มจะเปิดกว้างขึ้น ในเมื่อบ้านเรานั้นมีทรัพยากรนักมวยมากมาย พร้อมจะออกไปประกาศศักดาสู่ตลาดโลก
ขอเพียงโปรโมเตอร์เมืองไทย เปิดโอกาสไม่ปิดกั้น ไม่กดขี่นักมวยให้อยู่แต่ในอาณัติของตัว รวมไปจนถึงทัศนะของคนไทย ยอมรับและหันไปเรียนรู้การปรับตัวให้เข้ากับกติการการแข่งขันในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น มวยกรง หรือ คิกบ๊อกซิ่ง เรียนรู้ อย่างถ่องแท้และยอมรับกฏ กติกา เพื่อเข้าร่วมธุรกิจกับชาวต่างชาติ นั่นจะเป็นการเปิดโลกตลาดมวยไทย เหมือนกับ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ที่ก้าวสู่ระดับนานาชาติอย่างแท้จริง..!!
ภาพโดย – Welcome Zachee
เรื่อง – สอดสร้อย สาวสังเวียน
