เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ห้องประชุมชั้น 2 คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ บ้านอัมพวัน ถนนศรีอยุธยา พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมหารือการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 แข่งขันที่ประเทศรัสเซีย ช่วงวันที่ 14 มิถุนายน-13 กรกฎาคม
อ่านข่าว : ‘ทรูวิชั่นส์’แจง”ร้านอาหาร-ผับ-บาร์” ถ่ายสดบอลโลก ผ่านฟรีทีวีไม่มีค่าลิขสิทธิ์
การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), ตัวแทนจาก 9 องค์กรภาคเอกชนที่ร่วมกันซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2018 ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด รวมทั้งตัวแทนจาก 3 ช่องสถานีโทรทัศน์ คือ ทรูโฟร์ยู ช่อง 24, อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เข้าร่วมการประชุมด้วย
ภายหลังการประชุม นายสกล วรรรพงษ์ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ทาง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้มาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมร่วมกับ 9 บริษัทเอกชนพันธมิตรที่ร่วมกันซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 เพื่อพูดคุยกันสรุปอีกครั้งในเรื่องการถ่ายทอดสด ขณะที่ตัวเองนั้นทำหน้าที่เป็นผู้ประสานออกหนังสือเชิญประชุม และทำหน้าที่เป็นเลขาในการประชุมครั้งนี้
นายสกล กล่าวอีกว่า วาระสำคัญของการประชุมเป็นเรื่องตารางการถ่ายทอดสด บอลโลก 2018 ในจำนวน 3 ช่องคือ ทรูโฟร์ยู, อมรินทร์ทีวี และ ททบ.5 ซึ่งแผงผังตารางถ่ายทอดสดลงตัวหมดแล้วทั้ง 3 ช่อง แต่วันนี้ก็ได้ให้ทั้ง 3 ช่องไปคุยกัน เพื่อปรับอีกนิดหน่อย แต่ยืนยันว่าทั้ง 64 แมตช์ คนไทยจะได้รับชมอย่างแน่นอน
“ขณะนี้ได้ให้ทั้ง 3 ช่องไปพูดคุยเพิ่มเติมกันนิดหน่อย เพราะบางช่องถ่ายซ้ำ และจะทำอย่างไรให้มีการถ่ายครบทั่วถึงกัน ไม่ต้องซ้ำกัน หรือหากซ้ำกันจะทำอย่างไรให้เกลี่ยกันได้คู่ดีๆ กันทุกช่อง ยืนยันว่าตารางการถ่ายทอดสดจะออกตรงเวลาแน่นอนภายวันถึงสองวันนี้” นายสกลกล่าว
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวอีกว่า ตารางการถ่ายทอดสดจริงๆ ออกมาแล้ว แต่ให้ไปพูดคุยเกลี่ยกันให้ลงตัวก่อน โดยสัดส่วนจำนวนนัดการถ่ายทอดสดของทั้ง 3 ช่องนั้น ขณะนี้ที่ออกมาคือ นัดเปิดสนาม วันที่ 14 มิถุนายน, นัดชิงอันดับ 3 วันที่ 12 กรกฎาคม และนัดชิงชนะเลิศ วันที่ 13 กรกฎาคม 3 นัดนี้ทั้ง 3 ช่องจะถ่ายทอดสดพร้อมกันหมด ขณะที่นัดที่เหลือ อมรินทร์ทีวี 31 คู่ และทรูโฟร์ยู 30 คู่ ส่วน ททบ.5 ให้ถ่ายคู่ขนาน 30 คู่ โดยไปพูดคุย เพื่อเลือกคู่ถ่ายทอดสดจากอมรินทร์ทีวี 15 คู่ และจากทรูโฟร์ยูอีก 15 คู่ ซึ่งอาจจะมีการถ่ายทอดสดซ้ำกันบ้างก็ต้องไปคุยกันอีกที และให้แต่ละช่องได้ปรึกษาผู้ใหญ่ของแต่ละก่อน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
“คิดว่าเรื่องตารางถ่ายทอดสดน่าจะเป็นไปในทิศทางทีดี เพราะทั้ง 9 บริษัทไม่มีปัญหา หลังจากนั้นค่อยไปจัดผังการโฆษณากันที ดังนั้นไม่ต้องตกใจกัน เพราะยืนยันว่าได้รับชมฟุตบอลโลกสดครบ 64 แมตช์แน่นอน ส่วนคลิปไฮไลต์ของแต่ละช่องอื่นๆ ก็ให้ไปคุยกับทางทรูวิชั่นส์” นายสกลกล่าว
นายสกล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวาระอื่นยังมีการหารือกันถึงเรื่องโครงสร้างของการถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันทั้งหมด 105 นาที คือ เกมครึ่งแรก 45 นาที ช่วงพักครึ่ง 15 นาที และเกมครึ่งหลัง 45 นาที จะไม่มีโฆษณาระหว่างแข่งขัน แต่จะโฆษณาระหว่างช่วงพัก 15 นาทีเท่านั้น โดยจะมีการพรีวิวก่อน และหลังแข่งขัน 30 นาที เพื่อพรีวิวข้อมูลคู่ที่แข่งขัน และออกโฆษณาก่อนของทั้ง 9 บริษัท ซึ่งทั้ง 3 ช่องนี้จะต้องเจียดเวลามาให้
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกันถึงเรื่องการรีรันเทปการแข่งขันภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งตัวเองได้เสนอว่า ถ้ามีการรีรันแต่ละช่องก็ต้องหาเวลากันมาอีกที่จะไปเบียดเวลารายการอื่น จึงได้เสนอว่า ให้มีการนำมารีรันที่ช่องที-สปอร์ตของการกีฬาแห่งประเทศไทยให้รีรันเกมการแข่งขันแต่ละคืน ส่วนเรื่องการจัดกิจกรรมออนกราวน์ต่างๆ ทางทรูวิชั่นบอกว่า ได้อนุญาติให้การกีฬาแห่งประเทศไทยเกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดสดยังบริเวณจอแอลอีดีขนาดใหญ่บริเวณงานพลาซ่าภายในศูนย์กีฬาหัวหมากแล้วอีกด้วย
