การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. คู่ 19.00 น. ที่สนาม เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นการลงสนามนัดที่สองของกลุ่ม อี “แซมบ้า” บราซิล พบ “กล้วยหอม” คอสตาริกา ล่าสุดรายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง สองทีมได้ออกมาแล้ว
สำหรับ บราซิล ประเดิมสนามนัดแรกไม่ดีนัก ทำได้เพียง เสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ขณะที่ คอสตาริกา ลงสนามนัดแรกด้วยการ พ่าย เซอร์เบีย 0-1 ทำให้ยังไม่มีคะแนนติดมือ
บราซิล มาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู ยังคงเป็น อลิสสัน เบคเกอร์, แผงแบ็คโฟร์ มาร์เซโล, เชา มิรันดา, ติอาโก ซิลวา และ ฟากเนอร์ กลาง เปาลินโญ จับคู่กับ คาเซมิโร กลางรุกเป็น ฟิลิเป คูตินโญ ยืนประสานงานกับ วิลเลียน โดยมี เนย์มาร์ ยืนเป็นหน้าต่ำประคอง กาเบรียล เชซุส
ด้าน คอสตาริกา ของ ออสการ์ รามิเรซ กุญซือใหญ่ จัดผู้เล่นมารับเต็มตัวในระบบ 5-4-1 ผู้รักษาประตู เกย์ลอร์ นาบาส, ส่วนแผงหลัง 5 คน ประกอบด้วย คริสเตียน กัมบัว, จานการ์โล กอนซาเลซ, ยอห์นนี อคอสตา, ออสการ์ ดูอาร์เต และ ไบรอัน โอเบียโด แผงกลาง เซลโซ บอร์เกส, ดาบิด กุซมัน, ไบรอัน รูอิช โดยมี โยอัน เบเนกาส ยืนประคอง มาร์โก อูเรนญา ล่าตาข่าย
เปิดฉากเริ่มเกมเพียง 3 นาที บราซิล ได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะ ฟิลิเป คูตินโญ ลองส่งไกลหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว จากนั้น บราซิล ยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 9 มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย เนย์มาร์ เปิดโด่งๆไปกลางประตู แต่แผงหลัง คอสตาริกา ยังช่วยกันสกัดออกมาได้
นาทีที่ 13 คอสตาริกา ได้บุกขึ้นมาลุ้นบ้าง ดาเนียล โกลินเดรส ได้กดเต็มข้อหน้าประตู บอลพุ่งผ่านเสาไกลออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
จากนั้นนาทีที่ 26 บราซิล บุกขึ้นมาตรงกลาง มาร์เซโล ได้จังหวะยิงไกลหน้าเขตโทษ บอลกระดอนมาเข้าทางปืน กาเบรียล เชซุส ได้ซ้ำดาบสอง ส่งบอลเข้าประตูไป ทว่า ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า บราซิลยังไม่ได้ประตูออกนำ
ขุนพลแซมบ้า ยังบุกเป็นชุด นาทีที่ 31 เนย์มาร์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว กระชากบอลเข้าในเขตโทษ ไปสุดเส้นหลัง ก่อนจะตักข้ามไปที่เสาสอง ที่มี กาเบรียล เชซุส ยืนรออยู่ ทว่ากองกลัง คอสตาริกา ยังตามมาโหม่งทิ้งไว้ได้หวุดวิด
ช่วงท้ายครึ่งแรก บราซิลยังคงบุกขึ้นมาเป็นชุดหวังทำประตูออกนำ ส่วนคอสตาริกา อาสัยตั้งรับแล้วสวนกลับเร็ว ทว่าจังหวะทีเด็ดทีขาดยังไม่คมพอ หมดเวลาครั้งแรก บราซิล ยังเสมอ คอสตาริกา 0-0
ครึ่งหลัง บราซิล เปิดฉากบุกเป็นชุดทันที นาทีที่ 47 เนย์มาร์ ได้บอลในเขตโทษ ก่อนจะจับห่างตัวไปนิด บอลลึกไปเข้ามือ เกย์ลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูคอสตาริกา ถัดมา 2 นาที เปาลินโญ ได้ยิงเต็มข้อหน้าเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบ ทว่า เกย์ลอร์ นาบาส ยังปัดออกหลังไปได้
นาทีที่ 56 บราซิลขึ้นเกมมาริมเส้นทางขวา เปาลินโญ ก่อนจะเปิดไปที่กลางประตู ให้ เนย์มาร์ ได้ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งตรงกรอบ แต่นาบาส ยังปัดไว้ได้ปลายนิว
หลังบุกอยู่พักใหญ่ แต่ยังไม่สามารถทำประตูออกนำได้ บราซิล แก้เกมด้วยการส่ง โรแบร์โต ฟีร์มิโน ลงสนามมาแทน เปาลินโญ ในนาทีที่ 68 จากนั้น นาทีที่ 72 บราซิล น่าจะได้ประตูออกนำจากความผิดพลาดของแผงหลังคอสตาริกา บอลกระดอนมาเข้าทาง เนย์มาร์ หลุดเข้าไปบรรจงปั่นด้วยขวา ทว่าบอลยังหลุดเสาออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาทีที่ 78 แฟนบอลบราซิล ต้องเฮเกอร์ ในจังหวะ จนาการ์โล กอนซาเลซ ไปดึง เนย์มาร์ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ผู้ตัดสินตัดสิน จะตัดสินใจขอดู Video assistant referee (วีเออาร์) ก่สุดท้ายก็กลับคำตัดสินในเวลาต่อมา เพราะมองว่าเนย์มาร์ทิ้งตัวไปเอง
เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเวสมอกันไป ทว่า นาทีที่ 90 มาร์เซโล เปิดบอลโด่งเลยไปถึง โรแบร์โต ฟีร์มิโน โหม่งชงมาตรงกลาง กาเบรียล เชซุส พยายามจับบอล แต่ไม่อยู่ กลายเป็นดี ไปตั้งให้ ฟิลิเป คูตินโญ สอดเข้ามาจิ้มเข้าประตูไป ให้บราซิล ออกนำ 1-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 บราซิลได้ประตูตอกฝาโลง 2-0 ในจังหวะ ดักลาส คอสตา ได้บอลในเขตโทษ ก่อนปาดเข้ากลางให้เนย์มาร์แปเน้นๆ เข้าประตูไป จบเกม บราซิล เอาชนะ คอสตาริกา 2-0 ทำให้ลงสนาม 2 นัด มี 3 คะแนน ส่วน คอสตาริกา ลงสนาม 2 นัด แพ้รวด ตกรอบเป็นทีมที่ 5 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกหนนี้
สำหรับโปรแกรมนัดสุดท้ายของกลุ่ม อี บราซิล ลงสนามพบ เซอร์เบีย ส่วน คอสตาริกา พบ สวิตเซอร์แลนด์ โดยทั้งสองคู่จะแข่งขันในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เวลา 01.00 น.
