การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปีนี้เป็นแมตช์ระหว่าง 2 ทีมจากสเปน “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด ในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก พบกับ “ตราหมี”แอตเลติโก มาดริด ในฐานะแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

สำหรับปีนี้เตะกันที่สนามอา. เลอ ค็อก อารีนา ของเอสโตเนีย โดยฝั่งเรอัล มาดริด มีดีกรีเป็นอดีตแชมป์รายการนี้ 4 สมัย และยังครองแชมป์ต่อเนื่อง 2 หนหลังสุด ส่วนแอตฯมาดริดเคยได้แชมป์รายการนี้ 2 สมัย

มาดริดชุดนี้ไร้ซูเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ซึ่งย้ายออกไปแล้ว ขณะที่ผู้รักษาประตูคนใหม่ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ ยังไม่มีชื่อแม้แต่เป็นตัวสำรอง แต่ยังมี แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซมา, อิสโก เป็นดาวเด่น ทั้งนี้ยังเป็นการคุมทีมแมตช์ทางการนัดแรกของ ยูเลน โลเปเตกี กุนซือคนใหม่

ด้านแอตฯมาดริดส่งแข้งใหม่อย่าง โธมาส์ เลอมาร์ ลงผนึกกำลังร่วมกับดาวเด่นเดิมทั้ง ดิเอโก คอสตา, อ็องตวน กรีซมันน์, โกเก แต่ไม่มีกุนซือ ดิเอโก ซิเมโอเน ที่ยังติดโทษแบนห้ามคุมทัพข้างสนาม หน้าที่แก้เกมจึงต้องยกให้ผู้ช่วยอย่าง เกร์มัน บูร์โกส

เริ่มเกมยังไม่ทันครบนาที ดิเอโก โกดิน วางยาวจากแดนตัวเองไปข้างหน้าให้ ดิเอโก คอสตา ขึ้นโหม่งเช็ดเหนือกองหลังแล้วควบตามไปเล่นต่อทางริมกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนสับไกมุมแคบดื้อๆ ผ่านนายทวารเข้าไปแบบตะลึงกันทั้งสนาม “ตราหมี” ออกนำก่อน 1-0

อย่างไรก็ตาม นาที 27 แกเร็ธ เบล ได้เปิดจากฝั่งขวาพุ่งเข้าไปหน้าประตูให้ คาริม เบนเซมา โขกอย่างเหมาะเหม็งไม่เหลือ “ราชันชุดขาว” ตีเสมอเป็น 1-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 62 เรอัล มาดริด โยนบอลเข้าหน้าประตูแล้ว ฆวนฟราน การ์เซีย พยายามโหม่งสกัด แต่บอลมาโดนแขนที่ยืดออกพอดี ผู้ตัดสินจึงเป่าเป็นจุดโทษในข้อหาแฮนด์บอล เซร์คิโอ รามอส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด “ราชันชุดขาว” แซงนำ 2-1

นาที 79 แอตฯมาดริดลุยเข้ามาทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเป็น อังเคล คอร์เรอา ตบเข้าไปให้ ดิเอโก คอสตา เข้าฮอร์สอย่างเด็ดขาด สกอร์กลับมาเสมอกัน 2-2

จากนั้นทั้ง 2 ทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้อีก หมดเวลา 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลานาที 98 โธมัส ปาร์เตย์ ตามไปเก็บบอลทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนเปิดย้อนหลังมาเข้าทางปืน ซาอูล ญิเกซ ซัดตูมเดียวไม่ต้องจับส่งเข้าตุงตาข่าย แอตฯมาดริดขึ้นนำอีกหน 3-2

นาที 104 ดิเอโก คอสตา แย่งบอลจากความผิดพลาดของกองหลังคู่แข่งแล้วจ่ายต่อให้ บิโตโล ซึ่งเบิ้ลเร็วต่อไปให้ โกเก ยืนตั้งป้อมรอก่อนยิงเหน่งๆเข้าไป แอตฯมาดริดนำห่างเป็น 4-2

ครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ เรอัล มาดริด พยายามดาหน้าบุกใส่หวังไลตาม แต่แอตฯมาดริดต้านทานไว้ได้หมด จบเกมเป็น “ตราหมี” ชนะไป 4-2 คว้าแชมป์สมัยที่ 3 จากการเข้าชิงชนะเลิศ 3 ครั้ง ขณะที่ ดิเอโก คอสตา ได้รางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน