เรียกได้ว่าเป็นการเปิดฉากมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับทัพนักกีฬาไทย หลังสามารถคว้าเหรียญทองแรกได้ตั้งแต่เปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการวันแรก เมื่อ 19 ส.ค. ซึ่งชัยชนะของทีมชาติไทย มาจาก ทีมเทควันโดสาว พุมเซ่ ทีมหญิง จาก “เจล” เพ็ญกัญญา ไพศาลเกียรติกุล , “ออมสิน” อรนวีย์ ศรีสหกิจ และ “ออนซ์” กชวรรณ ชมชื่น ด้วยการเอาชนะ ต้นตำรับอย่าง เกาหลีใต้ในรอบชิงฯ อย่างหวุดหวิด

ก่อนหน้านี้ เทควันโด ถือเป็นกีฬาความหวังของทัพนักกีฬาไทยในหลายทัวร์นาเมนต์ และคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการเทควันโดไทย ในประเภทต่อสู้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “โค้ชเช” เช ยองซอก

อย่างไรก็ตามการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งนี้ ทางเจ้าภาพได้บรรจุเทควันโดประเภทพุมเซ่ (ร่ายรำ) เข้ามาชิงชัยเหรียญกันเป็นครั้งแรก และทำให้ไทยเราไม่ต้องลุ้นจนถึงรอบต่อสู้ ก็สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ทันที

สำหรับการแข่งขันในประเภทพุมเซ่ โค้ชที่คอยดูแล และ ปลุกปั้นเด็กๆทั้งสามคน คือ อี นายอน โค้ชสาวโสมขาว ที่เปิดเผยหลังจากที่ไทยได้เหรียญทองว่า ดีใจมากเพราะถือเป็นของขวัญในการทำงานกับเด็กๆครบรอบ 2 ปี

ช่วงเวลาไม่ถึง 800 วัน อี นายอน สามารถพาทีมพุ่มเซ่ไทยกวาดความสำเร็จมาแล้วมากมาย แต่หากจะเจาะลงไปให้ลึกว่าเหตุผลที่เธอสามารถเข้ามาพัฒนาทีมไทยได้อย่างรวดเร็วนั้นต้องบอกว่าส่วนหนึ่งคงมาจากประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมของเธอ

ก่อนจะหันมารับงานโค้ช อี นายอน เคยเป็นผู้ครองตำแหน่งแชมป์โลก เทควันโด พุมเซ่ มาแล้วถึง 3 สมัย ในตอนที่เธอยังเป็นผู้เล่น โดยครองบัลลังก์ดังกล่าว เมื่อปี 2004, 2006 และ 2007

ด้วยผลงานที่เรียกว่าเคยเป็นเบอร์ 1 ของโลก มาแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่โค้ชสาวเกาหลีใต้คนนี้จะเข้าช่วยถ่ายทอดวิชาจนทีมพุมเซ่ไทยสามารถคว้าเหรียญทองเอชี่ยนเ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน