การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น เอเชียนเกมส์ 2018 ที่จาการ์ตา อินเตอร์เนชันแนล เอ็กซ์โป เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เป็นการชกในรอบรองชนะเลิศ รุ่น 60 กก. หญิง “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี พบกับ ฮัสวาตุน ฮาซานาห์ ขวัญใจเจ้าถิ่นอินโดนีเซีย

ไฟต์นี้เป็นสาวไทยที่คุมระยะการชกได้ดี ออกหมัดเข้าเป้าและชกได้เหนือชั้นกว่า ชนะคะแนนเอกฉันท์ 5-0 เสียง ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ พร้อมการันตีเหรียญเงินเป็นคนแรกของทีมกำปั้นไทย โดยจะเข้าไปพบกับ โอ ยอนจี จากเกาหลีใต้ เจ้าของแชมป์เอเชีย 2 สมัย ในเวลา 16.15 น. วันที่ 1 ก.ย. นี้

หลังการชก แต้ว เผยว่า “วันนี้ต่อยกับเจ้าภาพค่อนข้างกดดัน รวมถึงการที่ผู้ชายของเราแพ้ไปก่อน 3 รุ่น ทำให้ยิ่งกดดันมากขึ้น แต่โค้ชบอกว่าไม่ต้องกดดัน คนอื่นแพ้ไปแล้วก็แพ้ไป เราต้องอยู่ในเกมของเรา ต่อยตามแผนของเรา พยายามเช็ตระยะ ใช้หมัดหน้านำ นี่เป็นครั้งแรกที่แต้วมีเหรียญเอเชียนเกมส์ รู้สึกมีความสุขและตื้นตันใจมาก ตอนนี้เป้าหมายเดียวคือต้องสู้เพื่อเหรียญทอง ตอนนี้อายุทางกีฬาของแต้วก็เยอะแล้ว แต้วก็อยากรับราชการมีงานที่มั่นคง ขอก็ฝากผู้ใหญ่ใจดีช่วยรับอุปการะเด็กบ้านๆคนหนึ่งเข้าไปรับราชการด้วยนะคะ”

รุ่น 69 กก. ชาย “ลม” สายลม อาดี กำปั้นมากประสบการณ์ วัย 32 ปีของไทย ดวลฝีมือกับ โบโบ อุสมอน บาตูรอฟ ดาวรุ่งวัย 23 ปี จากอุซเบกิสถาน เอเชียนเกมส์

“สำหรับเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเพราะทำได้อย่างตั้งใจไว้ว่าอยากได้สักเหรียญไปฝากคนไทย แต่เสียดายที่เป็นแค่เหรียญทองแดง เพราะผมก็อยากเข้าชิงฯ ต้องขอโทษพี่น้องชาวไทยด้วย วันนี้ผมทำหน้าที่สุดความสามารถของตัวเองแล้ว ไฟต์นี้ถือว่าสูสี ใครชนะก็ได้ แต่ผลตัดสินเป็นของกรรมการ ผมก็ยอมรับคำตัดสิน จากนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะคัดตัวไปโอลิมปิก แต่ถ้าไม่ได้ไปก็เลิกเล่นแน่นอนครับ” สายลม กล่าวหลังการชก

“ดัง” ยุทธพงษ์ ทองดี ขึ้นชกในรุ่น 52 กก. ชาย พบกับ โรเกน ลาดอน ดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2015 จากฟิลิปปินส์

เอเชียนเกมส์

คู่นี้ ยุทธพงษ์ เดินหน้าบุกและปล่อยหมัดมากกว่าตลอดการชก และปล่อยหมัดจนคู่แข้งคิ้วขวาแตกในช่วงยกที่ 3 แต่กำปั้นฟิลิปปินส์ อาศัยความแม่นยำจากการดักชิงจังหวะ สุดท้าย ยุทธพงษ์ แพ้คะแนนเอกฉันท์ 0-5 ได้แค่เหรียญทองแดง

หลังการชก ยุทธพงษ์ กล่าวว่า “อยากแรกต้องขอโทษทุกคนที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้ ขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจเสมอมา วันนี้ทำเต็มที่ ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว ยอมรับว่าอาจจะต่อยไม่ค่อยแม่น และกังวลกับแผลแตกมากเกินไป เราต่อยเขาแตกเยอะเลยพยายามจะย้ำ แต่กรรมการก็ไม่ได้เช็คอะไร อีกส่วนนึงอาจจะประมาทไปหน่อย เพราะเราตั้งเป้าไว้ที่เหรียญทอง แต่ผู้แพ้ก็คือผู้แพ้ ไม่มีข้อแก้ตัว”

เอเชียนเกมส์

ต่อด้วย รุ่น 60 กก. ชาย รอบตัดเชือก “กี้” รุตชการญ์ จันทร์ตรง ดวลกำปั้นกับ ชุนกอร์ อับดูราซูลอฟ ดาดาวรุ่งวัย 20 ปี ดีกรีเหรียญทองแดงเยาวชนโลก เมื่อปี 2016 จากอุซเบกิสถาน

คู่นี้ทั้งสองฝ่ายแลกหมัดกันอย่างสูสี โดย รุตชการญ์ ปล่อยหมัดเข้าเป้าหลายหน แต่เสียบเปรียบที่เรื่องความเร็ว ขณะที่ ชุนกอร์ เน้นการโจมตีด้วยหมัดชุด และมาโกยแต้มในช่วงยกที่ 3

ผลสุดท้าย รุตชการญ์ แพ้คะแนน 0-5 ได้แค่เหรียญทองแดง

หลังการชก “กี้” ให้สัมภาษณ์ ว่า “วันนี้ทำเต็มที่แล้ว ครั้งนี้มาเอเชียนเกมส์ครั้งแรกได้เหรียญกลับไปก็ถือว่าพอใจ จากนี้อยากไปโอลิมปิก จะทำให้เต็มที่ วันนี้ไม่รู้ส่วนตัวไม่รู้ว่าแพ้เพราะอะไร แต่คิดว่าผมต่อยแม่นกว่า ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน