การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น เอเชียนเกมส์ 2018 ที่จาการ์ตา อินเตอร์เนชันแนล เอ็กซ์โป กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 1 ก.ย. เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ รุ่น 60 กก. หญิง “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกวัย 26 ปีของไทย ดวลกำปั้นกับ โอ ยอนจี แชมป์เอเชีย 2 สมัย จากเกาหลีใต้

การชกยกแรก สุดาพร ออกหมัดได้ค่อนข้างมาก ขณะที่กำปั้นโสมขาวพยายามตอบโต้ด้วยการชิงจังหวะ ขณะที่ยกที่ 2 และ 3 ทั้งสองฝ่ายยังต่อยกันได้อย่างสูสี มีจังหวะชัดเจนที่ควรได้แต้มทั้งคู่ ขณะที่ปลายยก โอ ยอนจี โดนตัดแต้มจากการไปกดนักชกไทย

ผลสุดท้ายเป็น โอ ยอนจี จากเกาหลีใต้ ชนะคะแนน 4-1 เสียง โดยมีกรรมการ 2 คน ให้เสมอกัน แต่เกาหลีใต้ชนะคะแนนดิบ

ส่งผลให้ สุดาพร พลาดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย และกลายเป็นนักชกหญิงคนที่ 2 ที่ได้เหรียเงินเอเชียนเกมส์ ต่อจาก ทัศมาลี ทองจันทร์ ที่เคยคว้าเหรียญเงิน ในเอเชี่ยนเกมส์ที่กว่างโจว เมื่อปี 2010

หลังการชก สุดาพร กล่่าวด้วยเสียงสั่นเครือและพยายามกลั้นน้ำตา ว่า “วันนี้ค่อนข้างกดดันบ้าง การชกไฟต์นี้คิดว่าสูสีกัน แต่ที่แพ้อาจจะเป็นเรื่องความเร็ว แต้วทำที่ดีสุด ทำสุดความสามารถแล้ว หลังจากนนี้ยังเหลือเวลาในการกลับไปฝึกซ้อมเพื่อลุ้นไปโอลิมปิก”

สรุปผลงานนักชกไทยในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ 10 รุ่น ได้ 1 เงิน 5 ทองแดง ไม่ได้แม้แต่เหรียญทองเดียว โดยครั้งสุดท้ายที่ไทยไม่มีเหรียญทองในกีฬามวยสากลสมัครเล่น คือ เอเชียนเกมส์ 1986 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

ขณะที่รุ่นฟลายเวท 51 กก.หญิง เกิดความวุ่นวายขึ้นหลังจากที่ ปัง โชลมี นักชกสาววัย 24 ปีจากเกาหลีเหนือ รองแชมป์เอเชีย 2017 รัวหมัดใส่ หยวน ฉาง กำปั้นสาวดาวรุ่งวัย 21 ปีจากจีน แต่ครบ 3 ยก กรรมการชูมือให้ หยวน ฉาง เฉือนชนะคะแนน 3-2 ไปแบบค้านสายตา จนนักชกสาวเกาหลีเหนือไม่พอใจ และไม่ยอมลงจากเวที ส่วนสต๊าฟโค้ชกระโดดขึ้นไปประท้วงบนเวที จนฝ่ายจัดการแข่งขันต้องส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปควบคุมเหตุการณ์จนทีมเกาหลีเหนือยอมลงจากเวทีในที่สุด

สรุปผลงานชาติต่าง ใน 10 รุ่น นักชกอุซเบกิสถาน ได้ไปเยอะสุด 5 ทอง, จีน 2 ทอง, มองโกเลีย, อินเดียและ เกาหลีใต้ 1 เหรียญทอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน