เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายธาตรี ริ้วเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการกิจการสังคม กฟผ. และนางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวการแข่งขัน อีแกต ยกน้ำหนักเยาวชนนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 10-15 ตุลาคม ที่จังหวัดราชบุรี พร้อมกันนี้ยังมีพิธีมอบเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาชาติ ย้อนหลังให้กับ วันดี คำเอี่ยม และเพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล ทองแดง สองนักยกน้ำหนักที่ได้ขยับมาคว้าเหรียญทองแดง ในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน คนละ 4 ล้านบาท เนื่องจากคู่แข่งขันถูกตรวจพบสารต้องห้าม และถูกริบเหรียญ จนได้เลื่อนอันดับขึ้นมา
“มาดามบุษ” บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เผยว่า ยกน้ำหนักเยาวชนนานาชาติครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลแก่สมาคม ซึ่งเวทีนี้จะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของนักยกน้ำหนัก เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นสู่การเป็นทีมชาติ อยากให้นักกีฬาทุกคนตั้งใจ และมุ่งมั่นเต็มที่ แม้ครั้งนี้อาจทำได้ไม่ดี แต่ให้คิดว่าเป็นเวทีที่จะใช้พัฒนาตัวเอง เพื่อจะได้ถูกคัดเลือกในอนาคต
“มาดามบุษ” เผยอีกว่า การแบ่งรุ่นน้ำหนักใหม่ เพื่อคัดเลือกจอมพลังไปโอลิมปิก 2020 สำหรับไทยแล้วถือว่าส่งผลดี เพราะจะทำให้เราได้เปรียบไม่ต้องแบกน้ำหนักมากเหมือนเก่า ส่วนการคิดคะแนนเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์ จะเป็นแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ โกลด์ ซิลเวอร์ และบรอนซ์ ซึ่งจากนี้มีเวลาอีก 18 เดือน ก่อนถึงโอลิมปิกเกมส์ โดยนักกีฬาที่จะควอลิฟายทุกๆ 6 เดือนจะต้องลงแข่งขันในระดับโกลด์ อย่างน้อย 1 รายการ ขณะที่โควตาโอลิมปิกเกมส์ยังให้ชาติละ 8 คนคือชาย 4 คน หญิง 4 คน เหมือนเดิม ซึ่งเรายังตั้งเป้าว่าจะคว้าโควตาให้ได้ทั้งหมด โดยจะเก็บตัวนักกีฬา 19 คน และวางแผนส่งเข้าแข่งขันตามกฏการคัดเลือกใหม่ดังกล่าว
ส่วน พลโทพิบูลย์ วิเชียรวรรณ อุปนายกและประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า รายการนี้ มีสโมสรในประเทศ 31 สโมสรและยังมีสโมสรต่างประเทศอีก 4 สโมสร จากสปป.ลาว มองโกเลีย เมียนมา และอินโดนีเซีย ตอบรับเข้าร่วม มีนักกีฬารวม 304 คน อายุระหว่าง 15-20 ปี แข่งขันชาย 8 รุ่น และหญิง 8 รุ่น เป็นระบบเก่าส่งท้าย ก่อนที่ครั้งต่อไปจะเข้าสู่ระบบใหม่ ที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ กำหนดรุ่นใหม่ เป็นชาย 10 รุ่น และหญิง 10 รุ่น สำหรับรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมทีมชายและหญิง สโมสรจะได้รับชุดอุปกรรณ์ยกน้ำหนัก มูลค่า 180,000 บาทไปครอง
