แม้ว่ากอล์ฟจะเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจในวงกว้าง แต่ยังไม่ถือว่าเป็นเบอร์ 1 ของโลก เนื่องจากยังมีกีฬาประเภทอื่นเป็นที่นิยมมากกว่า

กระนั้นก็ยังมีนักกีฬาอย่าง ไทเกอร์ วูดส์ เป็นสีสันของวงการ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ต่อให้ไม่ใช่แฟนกอล์ฟก็น่าจะรู้จักชื่อนี้กันดี

วูดส์เป็นที่รู้จักของชาวไทยจากการเป็นลูกครึ่งที่มีเชื้อสายไทย มีพ่อเป็นอดีตทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนามชื่อว่า เอิร์ล วูดส์ และแม่เป็นชาวไทยชื่อ กุลธิดา วูดส์

หลังจากทำผลงานยอดเยี่ยมในระดับเยาวชน วูดส์จึงเทิร์นโปรครั้งแรกในปี 1996 ด้วยวัย 20 ปี พร้อมได้เซ็นสัญญารับเงินก้อนโตจากสปอนเซอร์ใหญ่อย่างไนกีและไตเติลอิสต์ในทันที

วูดส์คว้าแชมป์รายการลาส เวกัส อินเตอร์เนชันแนล เป็นความสำเร็จแรกในอาชีพ

ไม่เพียงเท่านั้น วูดส์ยังออกสตาร์ทอาชีพแบบสวยหรู คว้าแชมป์รายการลาส เวกัส อินเตอร์เนชันแนล(ปัจจุบันเป็นไชรเนอร์ส ฮอสพิทัลส์ ฟอร์ ชิลเดรน โอเพ่น) และวอลต์ ดิสนีย์ เวิลด์/โอลด์สโมบาย คลาสสิก(ไม่มีการแข่งขันแล้ว) เอาฤกษ์เอาชัยในปีแรกของการเล่นอาชีพ

จากนั้นปีต่อมา 1997 วูดส์ประกาศศักดาคว้าแชมป์เมเจอร์อย่างมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ ด้วยวัยแค่ 21 ปี นับเป็นแชมป์รายการนี้ที่อายุน้อยสุดตลอดกาล ซึ่งนั่นส่งผลให้เจ้าตัวขึ้นสู่ตำแหน่งมือ 1 ของโลกภายในปีนั้นเลยด้วย

เวลาผ่านไป วูดส์ยังคงได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการกอล์ฟ เมื่อกวาดความสำเร็จมาครองแบบไม่รู้จักเหนื่อย และเคยยึดตำแหน่งมือ 1 ของโลกนานต่อเนื่องถึง 281 วัน ยังคงเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลจนถึงเวลานี้

สมัยยังหวานชื่นกับ เอลิน นอร์เดเกรน

กระทั่งจุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อปี 2009 มีข่าวว่าวูดส์ประสบอุบัติเหตุขับรถชนหัวปั๊มดับเพลิง และต้นไม้ที่คฤหาสน์ส่วนตัว โดยภรรยาในเวลานั้นอย่าง เอลิน นอร์เดเกรน ใช้ไม้กอล์ฟฟาดกระจกรถเพื่อช่วยสามี

แต่ต่อมาเรื่องกลับแดงว่าที่จริงแล้วอุบัติเหตุเกิดจากวูดส์ถูกจับได้ว่านอกใจภรรยา สามีตัวดีรายนี้จึงถูกใช้ไม้กอล์ฟไล่ฟาดจนเป็นเรื่องราวดังกล่าว

จากนั้นชีวิตของวูดส์ตกต่ำลงเรื่อยๆ หย่าร้างกับภรรยาในปี 2010 ไม่มีแชมป์ติดมือมานาน และเสียตำแหน่งมือ 1 ของโลกไปแบบถาวร

แม้จะกลับมาได้แชมป์อีกในช่วงปี 2012-13 แต่เมื่อถึงเดือนสิงหาคม 2013 ที่วูดส์ซิวโทรฟี่รายการบริดจ์สโตน อินวิเตชันแนล ตอนนี้คงไม่มีใครคิดว่าโปรรายนี้จะไร้ความสำเร็จชนิดนานนับปี

แชมป์บริดจ์สโตน อินวิเตชันแนล ความสำเร็จล่าสุดตั้งแต่ปี 2013

วูดส์โดนอาการบาดเจ็บตามรบกวนถึงขั้นต้องผ่าตัดบ่อยครั้ง ตอนนั้นอย่าว่าแต่ถึงเรื่องการกลับมาคว้าแชมป์ หลายคนยังลุ้นอยู่ด้วยซ้ำว่า “พญาเสือ” จะสามารถกลับมาเล่นได้อีกหรือไม่

ส่วนชีวิตนอกสนามก็ไม่ได้ดีนักเช่นกัน วูดส์ได้พบรักกับ ลินด์ซีย์ วอนน์ นักสกีสาว เมื่อปี 2013 แต่ก็ต้องเลิกรากันในปี 2015 จากนั้นเดือนพฤษภาคม 2017 วูดส์ถูกตำรวจจับกุมข้อหาขับรถขณะมึนเมา ซึ่งเกิดจากฤทธิ์ยาที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บ

เข้าสู่ปี 2018 ราวกับฟ้าหลังฝน วูดส์สามารถกลับมาลงแข่งขันได้เต็มตัวอีกครั้ง คว้าอันดับ 2 รายการวัลสปาร์ แชมเปียนชิพ ในเดือนมีนาคม ก่อนจะมาได้อันดับ 2 ศึกเมเจอร์อย่างพีจีเอ แชมเปียนชิพ ในเดือนสิงหาคม

ถูกตำรวจจับตัวข้อหาขับรถขณะมึนเมา

กระทั่งวูดส์มาปลดล็อกคว้าแชมป์ทัวร์ แชมเปียนชิพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นแชมป์รายการที่ 80 ในอาชีพ และเป็นการได้แชมป์หนแรกในรอบ 5 ปี

หลังคว้าแชมป์มาครอง วูดส์กล่าวถึงความอัดอั้นของตัวเองว่า “ผมรู้สึกลำบากที่จะคุมตัวเองไม่ให้ร้องไห้ในหลุมสุดท้าย ผมต้องกลั้นมันไว้แล้วตีให้จบ เมื่อผมตีลูกขึ้นกรีนได้ก็เท่ากับบรรลุเป้าหมาย ผมสามารถควบคุมมันได้”

ภาพที่วูดส์ชูพัตเตอร์โทรฟีแชมป์ทัวร์ แชมเปียนชิพ ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าตัวรอคอยเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะยังมีแฟนกอล์ฟมากมายต่างเฝ้ารอวันที่ขวัญใจตนเองกลับมาผงาดอีกครั้ง

จากที่อันดับโลกเคยร่วงลงไปถึงที่ 1,199 ตอนนี้วูดส์ไต่กลับขึ้นมาที่ 13 ได้แล้ว

แม้วัยจะล่วงเลยเข้า 42 ปี แต่วูดส์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตัวเองยังมีไฟ และฝีไม้ลายมือ ที่จะล่าความสำเร็จอยู่

เชื่อว่าแฟนกอล์ฟคงจะรู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อดาวค้างฟ้าแห่งวงการก้านเหล็ก กลับมาสร้างสีสันอีกครั้งอย่างเต็มตัวอีกคำรบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน