“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การทำทีมของ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จบสิ้นภาระกิจในปี พ.ศ.2559 ผลงานสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราช คิงสคัพ ครั้งที่ 44 จากนั้นปลายปี คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” ขณะที่ในฟุตบอลโลก 2018 รอบ 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย ผลงาน 5 นัดแรก มี 1 แต้ม จากการแพ้ ซาอุดีอาระเบีย 0-1(เยือน), แพ้ ญี่ปุ่น 0-2(เหย้า), แพ้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) 1-3(เยือน), แพ้ อิรัก 0-4(เยือน), เสมอ ออสเตรเลีย 2-2 (เหย้า) ส่วนอีก 5 นัดที่เหลือ ในปี พ.ศ. 2560 วันที่ 23 มี.ค. พบ ซาอุฯ(เหย้า), 28 มี.ค. พบญี่ปุ่น(เยือน), 13 มิ.ย. พบ ยูเออี(เหย้า), 31 ส.ค. พบ อิรัก(เหย้า) และ 5 ก.ย. พบ ออสเตรเลีย(เยือน)

 

 

“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า ส่วนตัวแล้ว ถือว่าผลงานในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ จากการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก โซนเอเชีย ในฐานะแชมป์กลุ่ม ในรอบ 2 ซึ่งนักเตะไทยชุดปัจจุบัน ยังไม่เคยเข้ามาถึงรอบนี้ได้เลย จึงถือเป็นการยกระดับมาสู้กับทีมใหญ่เอเชีย นอกจากนี้ ยังสามารถกลับมาคว้าแชมป์ฟุตบอลคิงสคัพ เป็นครั้งแรกใน 9 ปี และได้แชมป์อาเซียนคัพ สมัยที่ 5 ทำสถิติชนะเลิศสูงสุด และส่วนตัวแล้ว ก็เป็นการนำ ช้างศึก ได้แชมป์เอเอฟเอฟแชมเปี้ยนชิพ เป็นสมัย 2 ติดต่อกัน

 
ส่วนเรื่องกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนบอล ในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องผลงาน และการจัดระบบการเล่นในแต่ละนัดนั้น โค้ชซิโก้ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แฟนบอลสามารถทำได้ ซึ่งตนก็ไม่ได้เครียดอะไรมากนัก ตนทำงานอย่างมีเป้าหมาย รู้เป้าหมายตัวเองว่าจะพาทีมชาติไทย ไปสู่จุดไหน และทำเพื่ออะไร
“ที่ผ่านมา อาจมีคนไม่เห็นด้วยในบางเรื่อง แต่ก็ไม่ซีเรียส ผมทำงานมีเป้าหมาย และก็พยายามทำให้แฟนฟุตบอลไทยมีความสุข”

 
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลงานโดยรวมในการบริหารงานสมาคมลูกหนังของตนเอง ตั้งแต่มารับตำแหน่งในเดือน ก.พ.ว่า ยังไม่พอใจนัก ยังไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ จากที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำ เพราะวงการฟุตบอลไทย มีอะไรหลายอย่างที่ต้องแก้ ปีแรกต้องการทำทุกอย่างให้เท่าเทียม ตามสโลแกน “แฟร์” จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะให้ถูกใจทุกคน ขณะเดียวกันตนได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ได้เข้ามาเป็นตัวแทน หรือหุ่นเชิดของใคร

 
“ปีต่อไปผมคงจะไม่ใช้สโลแกนว่า แฟร์ แล้ว เพราะทุกอย่างชัดเจนแล้ว จะมีสโลแกนใหม่เข้ามาแทน เพื่อก้าวต่อไปของฟุตบอลไทย แล้วแฟนบอลจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ” พล.ต.อ.สมยศ เผย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน