อดีตยอดมวย เขาทราย-แสน ส.เพลินจิต เผยจุดอ่อน ศรีสะเกษ ที่ต้องรีบแก้

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. หลังจาก เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมเปี้ยนโลกขวัญใจชาวไทยคน ที่ล่าสุดโชว์ฟอร์มไล่ถลุง อิราน ดิอาซ ผู้ท้าชิงเม็กซิกัน ป้องกันแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่น 115 ปอนด์ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 3 ไว้ได้อย่างงดงาม ด้วยคะแนนขาดลอยเอกฉันท์ 119-108 สองเสียง และ 120-108 หนึ่งเสียง เป็นคู่เอกศึก “วัน แชมเปี้ยนชิพ” ภาค คิงดอม ออฟ ฮีโร่ส์” ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อช่วงดึกใกล้เที่ยงคืนวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับบรรยากาศโดยรวมในคืนแห่งชัยชนะของ แชมป์โลกขวัญใจชาวไทยคนล่าสุด มีแขกรับเชิญระดับวีไอพี มาร่วมงานหลายรายอาทิ เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลก WBA รุ่น 115 ปอนด์ และอดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตอย่าง ฉัตรชัย สาสะกุล อดีตแชมป์ WBC ,แสน ส.เพลินจิต แชมป์ WBA ,เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม แชมป์ WBA ,ยอดสนั่น สามเคแบตเตอรี่ แชมป์ WBA ,พรสวรรค์ ป.ประมุข แชมป์ WBA ,”แรมบ้า” สมเดช เอ็ม-16 แชมป์โลกมวยกรงคนแรกของไทย และ ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์ ยอดมวยไทยไร้เทียมทาน เจ้าของฉายา “ขุนเข่าเสาโทรเลข” ฯลฯ

ต่างล้วนชื่นชมการจัดมวยครั้งนี้ของ “วัน แชมเปี้ยนชิพ” โดยฝีมือของ นายชาตรี ศิษย์ยอดธง นักธุรกิจหนุ่มพันล้าน ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ ที่กล้าจัดมวยโลก แบบเก็บเงินเข้าชมในเมืองไทย สวนกระแสมวยโลกเมืองไทยที่ดูฟรีต่อเนื่องมานานหลายสิบปี นับตั้งแต่ยุคของ เขาทราย แกแล็คซี่ เป็นต้นมา

โดย “พี่ระ”เขาทราย เปิดใจถึงคำถามที่ว่า สไตล์การชกของ ศรีสะเกษซึ่งเป็นมวยซ้าย (เซาธ์ปอว์) เช่นเดียวกับตน แถมยังเป็นมวยเดินไล่ต่อยจ้วงหมัดซ้ายเช่นเดียวกัน จนดูเหมือนจะถอดแบบพิมพ์เดียวกันมา เขาทรายหัวเราะแล้วเผยว่า ตนไม่ได้เป็นคนเทรน และไม่มีใครกล้าเข้าไปก้าวก่ายกับเสี่ยฮุย (สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผจก.ศรีสะเกษ) เขาหรอก ชัยชนะของศรีสะเกษครั้งนี้ ถือเป็นไฟต์ที่ขาดสะอาด แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีจุดที่ แหลมต้องปรับปรุงอยู่บ้าง อย่างเช่นการติดตาม การต้อนมวยให้จนมุม การป้องกันตัวของเรานั้นก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร ตนหมายถึงการชกกับมวยที่เอาแต่ถอยหนี สไตล์แบบนี้ แล้วเราเจ็บตัวได้อย่างไร ทั้งๆที่เขาก็ไม่แข็งแกร่ง หรือมีลำหักลำโค่นมากมายเท่าไหร่ เพราะมีแต่ลูกถอยหนีอย่างเดียว

“การต้อนมวยไม่จนมุม เป็นจุดอ่อนของเรา เราตามแล้วไม่ดัน ปล่อยให้เขาหลบหลีกหนีไปได้ทุกที หนำซ้ำช่วงหมัดที่เราเผลอโดนแล้วหล่น ผมว่าอายุก็มีส่วนสำคัญ เราเดินแล้วเปิดหน้า หวังไล่ชกท้อง จึงทำให้เกิดช่องว่าง ตัวผมก็เคยหล่นมาแล้วหลายครั้ง และการที่เราเปิดหน้าท้าเขา มันไม่ดี จังหวะนั้นอยู่ที่ ดุลพินิจของกรรมการโชคดีที่เราไม่โดนนับ และความเด็ดขาดของเราก็เลยไม่เท่าไหร่ แต่ก็เราชนะอยู่แล้ว คราวหน้าถ้าเจอมวยเก่งหมัดหนัก ดักต่อย เราจะลำบาก หรือถ้าเจอ เอสตราด้าอีกครั้ง หากเขาคงแก้ทางมวยเรามาอย่างดี เราจะลำบาก เราต้องแข็งแกร่งกว่านี้ ความเป็นมวยต้องดีกว่านี้ แต่ผมคิดว่า แหลมยังมีเวลาปรับปรุง แก้ไข อีกเยอะ และขอให้ขยันหมั่นฟิตซ้อมให้มาก ก็จะสามารถอุดช่องว่างจุดอ่อนเหล่านี้ได้”

“ส่วนภาพรวมการจัดมวยครั้งนี้ บรรยากาศถือว่าสุดยอดแล้ว และ ศรีสะเกษก็ยังเป็นแรงดึงดูดคนไทยให้เข้ามาดู ชั่วโมงนี้นี้ไม่มีใครจะเรียกคนให้ซื้อตั๋วเข้าไปดูได้เหมือนแหลมอีกแล้ว ขณะเดียวกัน ในส่วนของมวยกรง หรือมวยไทยที่ ทางวันจัดรวมในรายการเดียวกัน ก็ถือว่า สนุกทุกคู่ให้สีสัน ความมันส์ไม่แพ้กับมวยโลกเลยทีเดียว สมัยผมเป็นแชมป์โลก คุณวัฒนา อัศวเหม เป็นนักการเมืองคนแรกที่จัดมวยโลกเปิดให้คนดูฟรี สมัยนั้นใช้ทุนราวๆ 10 ล้านบาท จนกลายเป็นประเพณีดูมวยโลกฟรีในเมืองไทยมาช้านานหลายสิบปี จนถึงปัจจุบัน การที่วัน แชมเปี้ยนชิพ กล้าลงทุนจัดมวยครั้งนี้ ถือว่าเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว ที่กล้าจัดเก็บเงินแล้วมีคนดูนับหมื่นคนแห่แหนเข้ามาดูกันมากมายขนาดนี้ ต้องขอยกย่องอย่างแท้จริง” แชมป์โลกขวัญใจตลอดกาล ผู้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 19 ครั้งกล่าว

ด้าน”ครูหนึ่ง” ฉัตรชัย สาสะกุล อดีตแชมป์โลก รุ่นฟลายเวต WBC ผู้เสียแชมป์โลกให้ แมนนี่ ปาเกียว และยังเคยได้รับเกียรติจากยอดมวยโลกชาวฟิลิปปินส์ เชิญเข้าไปชมการชกที่อเมริกา ในไฟต์ปาเกียว แพ้คะแนน ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เจ้าตัวเปิดใจ เปรียบเทียบบรรยากาศของการจัดมวยให้ฟังว่า

“ผมเคยไปดูที่อเมริกามาแล้ว ไฟต์นั้นถือว่ายิ่งใหญ่มากมีคนดูมากถึง 1.6 หมื่นคนถือว่าเยอะมาก แต่การจัดมวยของวัน ในเมืองไทยครั้งนี้ ก็มีคนดูเรือนหมื่นถือว่า ใช้ได้ ไม่น่าเกลียดเลยทีเดียว น่าจะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่จัดมวยเก็บตังค์แล้วประสบความสำเร็จขนาดนี้ และก็หวังว่า เมืองไทยจะได้มีโอกาสดูมวยนัดสำคัญๆยิ่งใหญ่อย่างนี้อีก ส่วนการชกของแหลม เมื่อคืนที่ผ่านมา ถือว่า เขาทำหน้าที่ได้ดี แต่อาจจะดูเชื่องช้าลงไปบ้าง ถึงกระนั้นทรงมวยของเขาก็ยังเหมือนเดิม ไม่เสียหาย ยังคงทำหน้าที่ได้ดี เพียงแต่ ดิอาซ นั้นหมีมากเกินไป

“เจ้ามะ”เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม อดีตแชมป์โลก รุ่นฟลายเวต WBA ให้ความเห็นถึงการจัดที่เพิ่งผ่านพ้นไปว่า บรรยากาศในสนามนั้นยิ่งใหญ่มาก น่าจะเป็นครั้งแรกที่มีแฟนๆให้ความสนใจกันเยอะขนาดนี้ คนไทยไม่ดูมวยสากลอาชีพมานาน แต่ครั้งนี้มีคนยอมเสียตังค์เข้ามาดูเยอะมาก และไม่เพียงแต่มวยโลก ในส่วนของมวยกรง เขาก็ทำได้ดี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามาดูมวยกรง(เอ็มเอ็มเอ.) ยังรู้สึกตื่นเต้นประทับใจ และคิดว่า เมืองไทยน่าจะยอมรับการต่อสู้ชนิดนี้ให้มากขึ้น เพราะทำให้คนไทยได้ติดตามกีฬาต่อสู้ที่คนทั่วโลกเขาชมกัน ส่วนการชกของศรีสะเกษนั้น ผมมองว่า ดิอาซเขาตั้งใจมาสู้เลยทีเดียว สเต็บขาของเขาดีมาก แต่แหลมของเราก็พยายามออกอาวุธทุกอย่าง จริงๆแล้ว ถ้าดิอาซมาแลก ผมยังเชื่อว่า ผลน่าจะจบลงด้วยชัยชนะน็อกเอาต์ของเราด้วยซ้ำ”

ส่วน แสน ส.เพลินจิต อดีตแชมป์โลก ฟลายเวต WBA กลับมองสวนทางด้วยเหตุผลว่า “เมื่อวานดู แหลมชกแล้ว เราคงไปตั้งความหวังเขาสูงเกินไปหรือเปล่า ผมดูเหมือน แหลมไม่มีจินตนาการในการชกเลย จากไฟต์ที่เราชนะ โรมัน กอนซาเลซ มาดูคราวนี้คนละเรื่องเลย แหลมดูขาดความกระหาย ขาดวิญญาณเพชรฆาตในการชก หรือเขามีปัญหาน้ำหนักตัวหรือเปล่า หรือประเมินคู่ชกต่ำไปหรือเปล่า ผมว่า เกมดูจืดชืดมาก บางจังหวะไม่ลื่นไหล ความดุดันของเราดูด้อยลงไป นี่เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องแก้ไข การชกเมื่อวานนี้ บอกเลยว่า โชคดีที่ ศรีสะเกษของเราเป็นมวยซ้าย เพราะถ้าเกิดเป็นมวยขวาด้วยกันเหมือนดิอาซ ผมบอกได้คำเดียวว่าอันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนบรรยากาศ การจัดมวยเมื่อวาน ถือว่า แปลกใหม่เป็นการเปิดตลาดวงการมวยโฉมใหม่ของเมืองไทย แบบกรุ๊ปทัวร์ เหมือนมีตติ้งมวยโลก มาดูมวย นั่งกิน เหมือนเป็นมหกรรมมหรสพอย่างหนึ่ง ภาพออกมาใช้ได้เลย บรรยากาศอลังการเลย ต้องชมเชยโปรโมชั่น เขาทำได้ดีมาก”

ด้าน “พี่ต้อย”ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์ อดีตยอดมวยไทยไร้เทียมทาน วัย 56 ปี เจ้าของฉายา”ขุนเข่าเสาโทรเลข” และเป็นคนเดียวที่ ยอดมวยอัจฉริยะอย่าง สามารถ พยัคฆ์อรุณ สารภาพว่า “สู้ไม่ได้ในเชิงมวยไทย” ได้รับเชิญมานั่งชมมวยรายการนี้ ให้ความเห็นโดยรวมถึงการจัดว่า

“ดีมากพี่ชอบนะ ผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับเรื่องมวยไทย ประการที่หนึ่ง บางทีการทำให้นักมวยมีรายได้เยอะขึ้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ดูมวยอย่าง สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล ลำพังจะไปทำอะไรได้ แต่ชกมวยรายการนี้เขาได้ไม่น้อยกว่า 3-4 แสน หรือมวยหญิงอย่าง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ที่ได้ชิงแชมป์โลก คิกบ๊อกซิ่ง (ชนะ ไคถิง ซวง นักชกไต้หวัน) ถ้าไม่ใช่รายการนี้ เธอจะไปหาโอกาสได้ที่ไหน มองถึงแขนงมวยไทย ถือเป็นนิมิตรใหม่ของมวยไทย ถึงจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่อย่าลืมว่า รายได้ ค่าตอบแทน นั้นเยอะมาก มวยไทยต่อยจริงๆจะได้ค่าตัวเยอะอย่างนี้หรือ ขอให้วงการมวยของเรามองในมุมกว้างอย่าเห็นแก่ตัว พูดตรงๆ ถึงบางคนจะว่า มันไม่ใช่มวยไทย อันนั้นเราเข้าใจ แต่ใครจะกล้าจ้าง กล้าทุ่มเงินให้ขนาดนี้ไหม ตราบที่นักมวยบ้านเรายังหาเช้ากินค่ำกันอยู่ทุกวันนี้”

“ส่วนเจ้าแหลมนั้น ผมสงสาร ไอ้แหลมนี่ เป็นหนึ่งในโลก การชกดีมาก แต่สองครั้งหลังเริ่มมีปัญหา อยากฝากบอกน้อง มึงต้องตั้งใจซ้อมให้มากๆ เมื่อวานนี้นะ ชกอืดมาก อืดเป็นคนละคนเลย สองไฟต์หลังนี้ไม่ดีเลย ถ้าไปต่อยเมืองนอกลำบาก ขอให้ตั้งใจใหม่แล้วเรียกฟอร์มเดิมมา อะไรที่เก็บกดอยู่ในใจ ทิ้งไป แล้วซ้อมให้หนัก ปัญหาทิ้งเก่าทิ้งไปให้หมด แล้วมุมานะซ้อมอย่างเดียว เราจะต้องเป็นหนึ่งในโลกให้ได้ เพราะเราพร้อมทุกอย่างแล้วเวลานี้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน