พล.ท.สมควร วงษ์เวียงจันทร์ เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยี่ยมดูการฝึกซ้อมของนักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติไทยชุดยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ได้ไปเก็บตัวที่ประเทศโปรตุเกส และได้เข้าไปศึกษาดูงานของระบบของทีมว่ายน้ำโปรตุเกสเพื่อที่จะลองมาปรับใช้กับไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าการฝึกว่ายน้ำของยุโรปใช้เทคโนโลยีเยอะมากและคิดว่าไทยควรนำมาปรับใช้ โดยตั้งใจจะใช้บริเวณสระว่ายน้ำภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก มาจัดตั้งเป็นศูนย์กลางกีฬาทางน้ำของไทย เนื่องจากสมาคมมีแผนจะทำแบบนี้มานานแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ริเริ่ม

“ขั้นตอนแรกจะต้องทำการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดให้กลับมาใช้งานได้และจะนำเข้าอุปกรณ์แท่นสตาร์ทจากต่างประเทศ ขณะนี้กำลังจะร่างโครงการเสนองบประมาณ 10 ล้านบาทต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ พิจารณา ในส่วนอื่นๆ ที่ดีอยู่แล้วเช่น อุโมงค์น้ำที่สระว่ายน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังจะต้องให้นักว่ายน้ำซ้อมที่นั่นต่อไป สำหรับศูนย์ว่ายน้ำจะต้องทำให้ครบวงจรมากขึ้น”

เลขาว่ายน้ำไทย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปดูการแข่งขันว่ายน้ำยูธโอลิมปิกเกมส์ที่อาร์เจนตินา ซึ่งต้องยอมรับว่า ผลงานของนักกีฬาว่ายน้ำชุดนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะยังสู้กับชาติอื่นๆ ไม่ได้ เนื่องจากการแข่งขันในระดับเยาวชนนักว่ายน้ำทั่วโลกเริ่มต้นและมีพื้นฐานที่พอกัน แต่ทำไมเราถึงทำเวลาได้แตกต่าง ตรงจุดนี้จะต้องมาเร่งปรับปรุงแก้ไข หากเรายังเดินช้ากว่าเขาเราก็จะช้าตลอดไปและหากเทียบผลงานในครั้งที่แล้วเราได้มา 1 เหรียญเงินจาก สาริศา สุวรรณเชษฐ์ และยังมีเวลาห่างจากคนที่ได้เหรียญทองเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน