โครเอเชีย บีบหัวใจแฟนบอลหลังเปิดบ้านชนะ สเปน ไปแบบสุดมัน ทำให้ยังมีลุ้นตีตั๋วรอบน็อกเอาท์ชิงแชมป์ยูฟ่า เนชันส์ ลีก ขณะที่ เบลเยียม จ่อเข้ารอบเต็มทีหลังคว้าชัยนิ่มๆ
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชันส์ ลีก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ลีกเอ กลุ่ม 4 “ตาหมากรุก”โครเอเชีย รองแชมป์โลก 2018 เปิดสนามสตาดิโอน มักซิมีร์ รับการมาเยือนของ “กระทิงดุ”สเปน อดีตแชมป์โลก 1 สมัย
นัดนี้เจ้าถิ่นส่ง อังเดร ครามาริช, ลูกา โมดริช, อิวาน ราคิติช ลงนำทัพ ส่วนทีมเยือนมี โรดริโก โมเรโน, อิสโก, ซาอูล ญิเกซ เป็นตัวจริง
เริ่มเกมมา 6 นาที เจ้าถิ่นตักบอลข้ามแนวรับให้ อิวาน เปริซิช หลุดไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย เปริซิชจึงกระชากตัดเข้ากลางแล้วยิงยัดเสาแรก ดาบิด เด เคอา ยังไวล้มตัวปัดทัน
จากนั้นเป็นสเปนที่ครองบอลเหนือกว่า แต่ไม่มีจังหวะจะแจ้ง นาที 45 อิสโก แย่งบอลจากผู้เล่นโครเอเชียได้แล้วแต่งหาช่องก่อนตะบันจากนอกเขตโทษ ลอฟเร คาลินิช กระโดดปัดทิ้งไปได้ จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังนาที 54 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่นสนาม จากความผิดพลาดในการเซ็ตเกมแดนหลังของสเปน เซร์กี โรเบร์โต งัดบอลไปโดน อิวาน เปริซิช โหม่งดักเข้าทาง อังเดร ครามาริช หลุดเข้าไปยิงผ่านนายทวารง่ายๆ โครเอเชียนำ 1-0
นาที 56 สเปนแก้คืนทันควัน จากการต่อบอลทำเกมขึ้นมาแบบแม่นยำ สุดท้ายเป็น อิสโก หลุดเข้าทางเขตโทษด้านซ้ายแล้วตบต่อให้ ดาเนียล เซบายอส ล้มตัวยิงเข้าไป สกอร์เสมอกัน 1-1
นาที 63 สเปนหวิดพลิกนำ จากจังหวะเจาะทางขวาแล้วเปิดเรียดเข้ากลาง เซร์คิโอ บุสเกตส์ สอดมาชาร์จถูกนายทวารบล็อกไปเข้าทาง ยาโก อัสปาส ยิงซ้ำใส่ประตูที่เปิดโล่งแล้ว แต่บอลสูงเกินไปชนคานเสียอีก
นาที 69 โครเอเชียได้เตะมุมทางขวา ลูกา โมดริช จ่ายสั้นให้เพื่อนแล้วรับมาเล่นต่อ จากนั้นโยกหลอกกองหลังก่อนเปิดไปเสาสองให้ ทิน เยดไว สอดมาโขกเหน่งๆไม่เหลือ เจ้าถิ่นนำอีกครั้ง 2-1
นาที 75 ทีมเยือนพลาดโอกาสทอง ซูโซ หลุดเข้าเขตโทษแล้วยิงไปถูก ลอฟเร คาลินิช ออกมาบล็อกย้อยไปหน้าปากประตู อัลบาโร โมราตา พยายามโหม่งซ้ำก็ติดกองหลังสกัดออกจากเส้นประตูได้อีก
นาที 77 สเปนได้จุดโทษ ซิเม เวอร์ซัลจ์โก สกัดบอลในเขตโทษพลาดไปโดนแขนตัวเอง เซร์คิโอ รามอส รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ สกอร์จึงเจ๊ากันอีกรอบ 2-2
นาที 90+3 เสียงเชียร์ดังกระหึ่ม โยซิป เบรคาโล ได้บอลทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วล็อกหลบกองหลังก่อนสับไกยิงไปถูกนายทวารเซฟ แต่บอลยังมาเข้าทาง ทิน เยดไว ซ้ำเผาขนตุงตาข่าย เป็นประตูชัยให้โครเอเชียชนะแบบสุดมัน 3-2
โครเอเชียลงเตะ 3 นัด เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน ยังจมบ๊วยของกลุ่ม นัดหน้าถ้าชนะอังกฤษจะได้แชมป์กลุ่มไปรอบน็อกเอาท์ชิงแชมป์ หรือถ้าเสมอแบบมีสกอร์จะอยู่รอดปลอดภัย แต่ถ้าเสมอด้วยสกอร์ 0-0 หรือพลาดท่าแพ้ จะตกชั้นสู่ลีกบี
ด้านสเปนเตะครบ 4 นัด มีอยู่ 6 แต้ม นำเป็นจ่าฝูง และไม่ต้องห่วงเรื่องตกชั้นแล้ว แต่ต้องลุ้นให้คู่อังกฤษ-โครเอเชียไม่มีผู้ชนะสถานเดียว จึงจะได้แชมป์กลุ่มไปรอบน็อกเอาท์
ส่วนกลุ่ม 2 “ปีศาจแดง”เบลเยียม เปิดบ้านชนะไอซ์แลนด์ 2-0 เจ้าถิ่นได้จาก มิชี บาตชูอายี นาที 65 และ 81
เบลเยียมเตะ 3 นัดชนะรวด เก็บไป 9 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูง นัดหน้ากับสวิตเซอร์แลนด์ขอแค่ไม่แพ้ หรือแพ้ห่าง 1 ประตูโดยฝั่งตัวเองมีสกอร์ด้วย ก็จะคว้าแชมป์กลุ่มไปรอบน็อกเอาท์ แต่ถ้าแพ้ด้วยสกอร์ 0-1 หรือแพ้ด้วยสกอร์ห่าง 2 ลูกขึ้นไป จะวืดตั๋วน็อกเอาท์
ด้านไอซ์แลนด์เตะครบ 4 นัดแพ้รวด ไม่มีคะแนนเลย ตกชั้นสู่ลีกบีเรียบร้อย
ผลคู่อื่น
ลีกบี : กลุ่ม 3 ออสเตรีย 0-0 บอสเนีย ออสเตรียเตะ 3 นัด มีอยู่ 4 คะแนน ได้รองแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ส่วนบอสเนียเตะครบ 4 นัด มีอยู่ 10 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่มและเลื่อนชั้นเป็นที่เรียบร้อย โดยผลคู่นี้ยังทำให้ไอร์แลนด์เหนือที่เตะ 3 นัดแพ้รวด ยังไม่มีคะแนน ต้องตกชั้นด้วย
ลีกซี : กลุ่ม 2 กรีซ 1-0 ฟินแลนด์, ฮังการี 2-0 เอสโตเนีย หลังผ่าน 5 นัดเท่ากัน ฟินแลนด์เก็บไป 12 แต้ม คว้าแชมป์กลุ่มและเลื่อนชั้นสู่ลีกบี ขณะที่อันดับ 2 กรีซ 9 แต้ม หมดสิทธิ์ลุ้นเลื่อนชั้นนัดสุดท้ายเนื่องจากเฮดทูเฮดแพ้ฟินแลนด์ไปแล้ว อันดับ 3 ฮังการี 7 แต้ม ยังไม่ปลอดภัย และอันดับ 4 เอสโตเนีย 1 แต้ม ตกชั้นสู่ลีกดี
ลีกดี : กลุ่ม 1 อันดอร์รา 1-1 จอร์เจีย หลังผ่านไป 5 นัด จอร์เจียมี 13 แต้ม คว้าแชมป์กลุ่มและเลื่อนชั้นสู่ลีกซี อันดับ 2 คาซัคสถาน 6 แต้ม อันดับ 3 ลัตเวีย 3 แต้ม อันดับ 4 อันดอร์รา 3 แต้ม
กลุ่ม 2 ลักเซมเบิร์ก 0-2 เบลารุส, ซานมาริโน 0-1 มอลโดวา หลังผ่าน 5 นัด เบลารุสนำจ่าฝูง 11 แต้ม อันดับ 2 ลักเซมเบิร์ก 9 แต้ม อันดับ 3 มอลโดวา 8 แต้ม ต้องไปลุ้นเลื่อนชั้นนัดสุดท้ายกันทั้ง 3 ทีม ส่วนอันดับ 4 ซานมาริโน 0 แต้ม จบบ๊วยแน่นอน
เพิ่มเป็นเพื่อน LIne@ ข่าวสดกีฬาที่นี่
