หงส์แดง ส่อแววตกรอบแชมเปียนส์ ลีก หลังบุกพ่ายเปแอสเช ทำให้นัดสุดท้ายต้องชนะนาโปลีด้วยสกอร์ 1-0 หรือชนะห่างอย่างน้อย 2 ประตู ขณะที่ ไก่เดือยทอง ยังมีความหวังหลังเชือด งูใหญ่ แบบหวุดหวิด

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน กลุ่มซี ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส เปิดสนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ รับการมาเยือนของ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล รองแชมป์เก่าจากอังกฤษ

เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง เนย์มาร์, คีลิย็อง เอ็มบัปเป, เอดินสัน คาวานี ลงนำเกมรุก ส่วนทีมเยือนมี 3 ประสานอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต ฟีร์มิโน

ครึ่งแรกนาที 13 คีลิย็อง เอ็มบัปเป หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วเปิดเข้ากลางไปติดกองหลัง บอลเด้งมาเข้าทาง ฆวน เบร์นาร์ด เก็บได้แล้วยิงเข้าไป เปแอสเชนำ 1-0

นาที 37 คีลิย็อง เอ็มบัปเป หลุดมาทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายอีกครั้งแล้วเปิดให้ เอดินสัน คาวานี เข้าชาร์จติดเซฟนายทวาร แต่ยังมี เนย์มาร์ ปราดตามมาซ้ำไม่เหลือ เจ้าถิ่นนำห่าง 2-0

นาที 45 อังเคล ดิ มาเรีย เสียบทำฟาวล์ใส่ ซาดิโอ มาเน ทางริมเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงให้จุดโทษกับลิเวอร์พูล เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ “หงส์แดง” ไล่มาเป็น 1-2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 48 เปแอสเชหวิดนำห่าง อังเคล ดิ มาเรีย เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษให้ มาร์กินญอส เหยียดขาจิ้มเข้าไป แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า

นาที 70 เจ้าถิ่นเตะมุมเข้ามาหน้าประตู มาร์กินญอส แย่งโหม่งบอลกระดอนพื้นเข้าหากรอบประตู แต่นายทวารเซฟได้ จบเกมเปแอสเชจึงชนะไปหวุดหวิด 2-1

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน นาโปลี(อิตาลี) 3-1 เชอร์เวนา ซเวซดา(เซอร์เบีย) เจ้าถิ่นได้จาก มาเร็ก ฮัมซิก นาที 11, ดรีส เมอร์เทนส์ นาที 33 และ 52 ส่วนทีมเยือนได้จาก เอล ปาร์ดู เบน นาบูเฮน นาที 57

หลังผ่านไป 5 นัด นาโปลีนำจ่าฝูง 9 แต้ม ตามด้วยอันดับ 2 เปแอสเช 8 แต้ม อันดับ 3 ลิเวอร์พูล 6 แต้ม และอันดับ 4 ซเวซดา 4 แต้ม โดยนัดสุดท้ายจะเป็นคู่ระหว่างลิเวอร์พูล-นาโปลี และซเวซดา-เปแอสเช

สำหรับสถานการณ์ในเกมสุดท้าย นาโปลีขอแค่เสมอลิเวอร์พูล หรือแพ้ห่างไม่เกิน 1 ประตูจะเข้ารอบทันที

ด้านเปแอสเชขอแค่ชนะซเวซดา หรือถ้าไม่ชนะก็ต้องลุ้นให้ลิเวอร์พูลไม่ชนะนาโปลีด้วย ก็จะเข้ารอบเช่นกัน

ส่วนลิเวอร์พูลต้องชนะนาโปลีด้วยสกอร์ 1-0 หรือชนะอย่างน้อย 2 ประตูขึ้นไป หรือถ้าชนะห่างแค่ 1 ประตูในแบบสกอร์อื่น ก็ต้องลุ้นให้เปแอสเชไม่ชนะซเวซดาด้วย ถึงจะได้เข้ารอบ

ขณะที่ซเวซดาเหลือลุ้นแค่ไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก โดยต้องชนะเปแอสเช พร้อมลุ้นให้ลิเวอร์พูลแพ้นาโปลี

กลุ่มบี “ไก่เดือยทอง”ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ จากอังกฤษ เปิดบ้านเฉือน “งูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน จากอิตาลี 1-0 เจ้าถิ่นได้ประตูชัยจาก คริสเตียน อีริกเซน นาที 80

อีกคู่ในกลุ่มนี้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน(เนเธอร์แลนด์) 1-2 บาร์เซโลนา(สเปน) ทีมเยือนได้จาก ลิโอเนล เมสซี นาที 61, เคราร์ด ปิเก นาที 70 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก ลุก เดอ ยอง นาที 82

หลังผ่านไป 5 นัด บาร์ซ่ามี 13 แต้ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มแล้ว อันดับ 2 สเปอร์ส 7 แต้มเท่าอันดับ 3 อินเตอร์ แต่เฮดทูเฮดสเปอร์สดีกว่า โดยทั้งคู่ต้องไปลุ้นกันนัดสุดท้าย ด้านอันดับ 4 พีเอสวี 1 แต้ม ตกรอบสนิท

กลุ่มเอ “ตราหมี”แอตเลติโก มาดริด จากสเปน เอาชนะโมนาโก จากฝรั่งเศส 2-0 เจ้าถิ่นได้จาก โกเก นาที 2, อ็องตวน กรีซมันน์ นาที 24

เกมนี้แอตฯมาดริดเหลือ 10 คน สเตฟาน ซาวิช โดนไล่ออกนาที 82 และทำให้ทีมเยือนได้จุดโทษด้วย ทว่าเพชฌฆาตอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา กลับยิงพลาด

ผลอีกคู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์(เยอรมนี) 0-0 คลับ บรูช(เบลเยียม)

หลังผ่าน 5 นัด แอตฯมาดริดนำจ่าฝูง 12 แต้ม ตามด้วยอันดับ 2 ดอร์ทมุนด์ 10 แต้ม เข้ารอบทั้งคู่ อันดับ 3 คลับ บรูช 5 แต้ม ไปยูโรปา ลีก อันดับ 4 โมนาโก 1 แต้ม ตกรอบสนิท

กลุ่มดี ปอร์โต จากโปรตุเกส เอาชนะ “ราชันสีน้ำเงิน”ชาลเก จากเยอรมนี 3-1 เจ้าบ้านได้จาก เอแดร์ มิลิเตา นาที 52, เฆซุส โกโรนา นาที 55, มุสซา มาเรกา นาที 90 ส่วนทีมเยือนได้จาก นาบิล เบนตาเลบ นาที 89(จุดโทษ)

ผลอีกคู่ โลโคโมทีฟ มอสโก(รัสเซีย) 2-0 กาลาตาซาราย(ตุรกี) เจ้าถิ่นได้จาก ไรอัน ดองค์ นาที 43(ทำเข้าประตูตัวเอง), วลาดิสลาฟ อิกนาติเยฟ นาที 54

หลังผ่าน 5 นัด ปอร์โตมี 13 แต้ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ตามด้วยอันดับ 2 ชาลเก 8 แต้ม ฉลุยเช่นกัน ส่วนอันดับ 3 กาลาตาซาราย 4 แต้ม และอันดับ 4 โลโคโมทีฟ 3 แต้ม ต้องไปแย่งตั๋วยูโรปา ลีก ในเกมสุดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน