อาลัย..สว่าง สวางควัฒน์ แบบอย่างสื่อมวย ในความรู้สึกของ "สุนัย เกียรติอัฒชาศัย"

“ช่วงนั้น พี่สว่างแกทำหนังสือ บ๊อกซิ่ง ซึ่งผมเองทำหนังสือ สิงห์สังเวียน เรารู้จักกันก็เพราะ ผมอยู่ช่วยพี่เดชา ปราการะนันทน์ ทำหนังสือ “เดอะ ริง, สปอร์ต, เสือสนาม เป็นหนังสือสามใบเถาทางย่านฝั่งธนฯ ในยุคสมัยพวกจีไอ ทหารอเมริกัน เข้ามาตั้งฐานทัพช่วงสงครามเวียดนาม”

สว่าง สวางควัฒน์ สื่ออาวุโส ผู้ล่วงลับ (สมัยเป็นนักเขียนหนุ่ม)

“พี่หว่าง แกเพิ่งสึกมาจากบวชเป็นพระ ก็มาคลุกคลีกับพี่เดชา แล้วก็ยิ่งสนิทสนมกันด้วยเรื่องมวยนี่แหละ ต่อมาพี่หว่างแกมาทำหนังสือ บ๊อกซิ่ง ไฟเตอร์ ฯลฯ เหตุที่ผมมารู้จักสนิทกับพี่หว่าง ก็เพราะผมมีธุรกิจทำทัวร์มาก่อนด้วย ยุคนั้นนักมวยคนไหนจะไปชกที่ญี่ปุ่นต้องให้ผมเป็นคนทำหนังสือเดินทางให้ จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ รวมทั้งยังพาไปชกเลยด้วยซ้ำ ถือเป็นรายแรกของเมืองไทย ที่พานักมวยไปต่อยญี่ปุ่น หรือต่างประเทศเลยก็ว่าได้ หรือแม้แต่คุณทรงชัย รัตนสุบรรณ โปรโมเตอร์ใหญ่มหาชน ยุคแรกๆยังเคยมาใช้บริการของผมด้วยเหมือนกัน”

คุณสุนัย เล่าถึง สื่อรุ่นพี่ผู้ล่วงลับอีกว่า

“พี่หว่าง แกทำหนังสือมวยอยู่แถวฝั่งพระนคร ต่อมาพอหนังสือไฟเตอร์ปิดตัวลง คุณเทียนชัย (ฐากูร) อุทัยวงศ์ ส.ส.เก่าเพชรบูรณ์ (ต่อมาเป็น บก.หนังสือพิมพ์ ข่าวสด จนเกษียณ) ได้รับการชักชวนจาก คุณชาญ วรพิพัฒน์กำธร นายทุนใหญ่มาทำหนังสือ “ยอดมวยเอก” และรายการทีวีมวยแห้งอันโด่งดัง

“งานส่วนใหญ่ก็คือผมจะส่งข่าว ส่งต้นฉบับมาให้พี่หว่าง เพราะผมเป็น บก.ภูมิภาค มักต้องตระเวนไปทำข่าวในต่างจังหวัดอยู่เป็นส่วนใหญ่ ขึ้นเหนือล่องใต้ไปทั่ว ทำกันอยู่หลายปี จนหนังสือปิดกิจการลงไป”

เมื่อถามถึงบุคคลิกส่วนตัวของ สว่าง สวางควัฒน์ กูรูมวยผู้ล่วงลับ พี่สุนัย ขยายความให้ฟังว่า “พี่หว่าง แกเป็นคนสมถะ เป็นคนมีความรู้ ทำงานละเอียด จริงจังกับงาน สมัยนั้น เสือเหลือง (ชาญยุทธ ลีลารุจิวงศ์ กูรูมวยโลก) ขึ้นมาจากภูเก็ตไม่มีงานทำ”

“พี่หว่างแกให้มาอยู่ด้วย ได้ทำงานกับแกเป็นที่แรก ก่อนจะได้ดีมาจนทุกวันนี้ แกเป็นคนดี เป็นคนที่มีความจริงใจ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยตลอดวิชาชีพของความเป็นสื่อมวลชน ถือเป็นนักข่าวตัวอย่างเป็นสื่ออาวุโสที่ควรค่าแก่การยกย่อง และนับถืออย่างแท้จริง”