ซูซูกิคัพ คู่ชิงชนะเลิศนัดแรกเวียดนามตุนความได้เปรียบยิงประตูนอกบ้าน

ซูซูกิคัพ 2018 นัดชิงชนะเลิศ เกมแรกสุดมัน เวียดนาม โต้กลับสุดคมพลิกขึ้นนำมาเลเซีย ถึงถิ่นบูกิต จาลิล 2-0 แต่ขุนพลเสือเหลืองไม่ยอมแพ้รวมแรงใจไล่ฮึดตีเสมอ 2-2 นัดสองขุนพลดาวทองได้เล่นในบ้านกุมความได้เปรียบ

ซูซูกิคัพ 2018 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก เมื่อ 15 ธ.ค. ที่สนามกีฬาแห่งชาติบูกิต จาลิล ประเทศมาเลเซีย “เสือเหลือง”มาเลเซีย รอบรองชนะเลิศ เสมอกับไทยด้วยสกอร์ 2 นัด 2-2 แต่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเพราะได้กฎยิงประตูทีมเยือน (อเวย์โกล) ลงสนามพบ “ดาวทอง”เวียดนาม รอบรองไล่ถลุง “ตากาล็อก”ฟิลิปปินส์ 2 นัดด้วยประตูรวม 4-2 โดยทั้งสองทีมเคยคว้าแชมป์รายการนี้ชาติละ 1 สมัย

เกมนี้เจ้าบ้านเล่นท่ามกลางแฟนบอลแห่แหนเข้าสนามเต็มความจุ 87,000 ที่นั่ง เป็นฝ่ายเปิดฉากบุกเข้าใส่ตั้งแต่นาทีแรก ครอบครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจน โดยครองบอลถึง 67% แต่ยังทำอะไรเวียดนามที่เน้นการตั้งรับแล้วรอสวนกลับไม่ได้ กระทั่งนาที 22 เวียดนาม โต้กลับเร็วทางกราบซ้ายเปิดเข้ากลางกองหลังเจ้าบ้านสกัดไม่ขาดเข้าทาง เหวียน ฮอย ฮอง วิ่งเข้ายิงเน้นๆ ส่งขุนพลดาวทองขึ้นนำ 1-0

เท่านั้นไม่พอเข้าสู่นาที 25 เกมรับมาเลเซียพลาดอีกครั้ง ปล่อยให้ ฟัม ดุ๊ก ฮอย ได้ตะบันเต็มข้อจากนอกเขตบอลแฉลบกองหลังเปลี่ยนทางเสียบตาข่ายให้เวียดนามหนีห่าง 2-0

นาทีที่ 36 กองเชียร์เสือเหลืองได้ดีใจชนิดอัฒจันทร์แถบถล่ม เมื่อได้ฟรีคิกนอกกรอบ โมฮาเหม็ด ซายเมอร์ เปิดเข้ากลางให้ ชาห์รูล ซาอัด ขึ้นโหม่งเต็มหัวพาเจ้าบ้านไล่มา 1-2 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลัง มาเลเซียยังเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าและโหมบุกอย่างหนัก กระทั่งนาที 60 ได้ฟรีคิกหน้าปากประตู มูฮัมหมัด ซาฟวี รับหน้าที่ปั่นโค้งเสียบเสาสองอย่างสวยงามให้ทีมตามตีเสมอ 2-2 ช่วยให้แฟนบอลเจ้าถิ่นกลับมาคึกคักสุดๆ ช่วงที่เหลือมาเลเซียบุกแหลกหวังเก็บชัยให้ได้ แต่เจาะไม่เข้าหมดเวลาเสมอกัน 2-2

เกมที่สองเตะกันวันที่ 15 ธ.ค. เวียดนามจะเปิดบ้านรับมาเลเซีย โดยแข้งดาวทองตุนความได้เปรียบเพราะได้ประตูนอกบ้านตุนไว้ 2 ลูก ขอให้ไม่แพ้หรือเสมอตั้งแต่ 3-3 ขึ้นไป เวียดนามก็จะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2