หงส์แดง ยังไม่จบเส้นทางแชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ หลังเฉือนชนะนาโปลีด้วยสกอร์ที่ต้องการพอดี ทำให้เบียดคว้ารองแชมป์กลุ่มผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์สำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม กลุ่มซี “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล รองแชมป์เก่าจากอังกฤษ เปิดสนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “อัซซูรา”นาโปลี จากอิตาลี

หลังผ่านมาแล้ว 5 นัด ลิเวอร์พูลเก็บได้ 6 คะแนน อยู่อันดับ 3 จะเข้ารอบทันทีต่อเมื่อชนะนัดนี้ด้วยสกอร์ 1-0 หรือชนะสกอร์ห่าง 2 ประตูขึ้นไป ขณะที่นาโปลีมี 9 แต้ม ขอแค่ไม่แพ้ก็ฉลุยแล้ว

นัดนี้เจ้าถิ่นส่ง 3 ประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต ฟีร์มิโน ลงกันครบ ส่วนทีมเยือนนำโดย ลอเรนโซ อินซิเญ, ดรีส เมอร์เทนส์, มาเร็ก ฮัมซิก

ครึ่งแรกนาที 22 ลิเวอร์พูลเฮเก้อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้บอลฝั่งขวาแล้วเปิดเรียดไปเสาสองถึง ซาดิโอ มาเน ยิงโล่งๆเข้าไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าแล้ว

นาที 34 เจมส์ มิลเนอร์ จ่ายขึ้นหน้าให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เบียดชนะกองหลังหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงหลบผู้เล่นนาโปลีอีกคน แล้วยิงมุมแคบลอดขานายทวารเข้าไป “หงส์แดง” จึงออกนำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 74 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งแซงแนวรับหลุดเข้าเขตโทษแล้วพยายามแตะหลบนายทวารแต่ถูกปัดไว้ได้ ซาลาห์ตามไปเก็บแล้วพยายามยิงจากมุมแคบอีกครั้ง ผู้รักษาประตูก็ยังกลับมาปิดได้ทันอีก

นาที 77 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หลุดเข้าเขตโทษแล้วเปิดเร็วต่อให้ ซาดิโอ มาเน ยิงโดยไร้คนประกบ แต่ถูกนายทวารเซฟได้เยี่ยม

นาที 90+2 นาโปลีทิ้งโอกาสทอง จากลูกลอยข้ามแนวรับเข้าเขตโทษ อาร์คาดิอุส มิลิก จับบอลลงแล้วยิงระยะเผาขน อลิสสัน เบ็กเกอร์ เซฟได้เหลือเชื่อ จบเกมลิเวอร์พูลจึงชนะไป 1-0

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เชอร์เวนา ซเวซดา(เซอร์เบีย) 1-4 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง(ฝรั่งเศส) ทีมเยือนได้จาก เอดินสัน คาวานี นาที 10, เนย์มาร์ นาที 40, มาร์กินญอส นาที 74, คีลิย็อง เอ็มบัปเป นาที 90 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก มาร์โก โกเบลยิช นาที 56

หลังจบ 6 นัด เปแอสเชมี 11 แต้ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ตามด้วยอันดับ 2 ลิเวอร์พูล ที่เก็บไป 9 แต้ม เท่าอันดับ 3 นาโปลี

โดยเมื่อนับเฮดทูเฮดแล้วลิเวอร์พูลกับนาโปลีเสมอกัน แต่ประตูได้เสียรวมลิเวอร์พูลดีกว่าจึงคว้ารองแชมป์กลุ่มเข้ารอบไป พร้อมถีบนาโปลีสู่ถ้วยยูฟ่า ยูโรปา ลีก ด้านอันดับ 4 ซเวซดา 4 แต้ม ตกรอบสนิท

กลุ่มบี “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลนา จากสเปน เสมอกับ “ไก่เดือยทอง”ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จากอังกฤษ 1-1 เจ้าถิ่นนำก่อนจาก อุสมาน เดมเบเล นาที 7 แต่ทีมเยือนตีเสมอจาก ลูคัส มูรา นาที 85

ผลอีกคู่ อินเตอร์ มิลาน(อิตาลี) 1-1 พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน(เนเธอร์แลนด์) ทีมเยือนนำก่อนจาก อีร์บิง โลซาโน นาที 13 แต่เจ้าถิ่นตีเสมอจาก เมาโร อิการ์ดี นาที 83

บาร์ซ่ามี 14 แต้ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ตามด้วยอันดับ 2 สเปอร์ส 8 แต้ม เท่าอันดับ 3 อินเตอร์ แต่เฮดทูเฮดสเปอร์สดีกว่าจึงได้เข้ารอบ ปล่อยให้อินเตอร์ไปยูโรปา ลีก ส่วนอันดับ 4 พีเอสวี 2 แต้ม ตกรอบ

กลุ่มเอ โมนาโก จากฝรั่งเศส แพ้คารังต่อ “เสือเหลือง”โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี 0-2 ทีมเยือนได้จาก ราฟาเอล เกร์เรโร นาที 15 และ 88

ผลอีกคู่ คลับ บรูช(เบลเยียม) 0-0 แอตเลติโก มาดริด(สเปน)

ดอร์ทมุนด์และแอตฯมาดริดมี 13 แต้มเท่ากัน แต่ดอร์ทมุนด์ได้แชมป์กลุ่มเพราะเฮดทูเฮดดีกว่า อันดับ 3 คลับ บรูช 6 แต้ม ไปยูโรปา ลีก อันดับ 4 โมนาโก 1 แต้ม ตกรอบ

กลุ่มดี กาลาตาซาราย จากตุรกี แพ้ต่อปอร์โต จากโปรตุเกส 2-3 ทีมเยือนได้จาก เฟลิเป นาที 17, มุสซา มาเรกา นาที 42(จุดโทษ), แซร์จิโอ โอลิเวรา นาที 57 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก โซฟียาน เฟกูลี นาที 45(จุดโทษ), เอเรน แดร์ดิย็อก นาที 65

ผลอีกคู่ ชาลเก(เยอรมนี) 1-0 โลโคโมทีฟ มอสโก(รัสเซีย) เจ้าถิ่นได้จาก อเลสซานโดร ชอปฟ์ นาที 90

ปอร์โตมี 16 แต้ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ตามด้วยอันดับ 2 ชาลเก 11 แต้ม ส่วนอันดับ 3 กาลาตาซาราย 4 แต้ม ไปยูโรปา ลีก ด้านอันดับ 4 โลโคโมทีฟ 3 แต้ม ตกรอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน