ผอ.สำนักงานมวย โต้ข่าวอย่าเพิ่งตื่นตูม ประเด็น ห้ามเด็กชกมวย

นายประเสริฐ ตันมี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ฝากถึงแฟนๆและบุคคลวงการมวยทั่วประเทศอย่าเพิ่งตื่นตกใจ กับกระแสข่าวลือสะพัดที่ว่า จะมีการห้าม นักมวยเด็ก อายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นชกมวยทั่วประเทศไทย ทั้งเวทีมาตรฐานอย่างราชดำเนิน-ลุมพินี เวทีมวยชั่วคราว ไปจนถึงเวทีมวยล้อมผ้า เวทีมวยภูธรทุกแห่ง

จากกรณีมีสื่อบางสำนักรายงานข่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป สนง.มวยจะไม่อนุญา ให้นักมวยอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นชก โดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.มวย พ.ศ.2542 ฉบับเดิม ซึ่งใช้ในปัจจุบัน กำหนดว่ านักมวยตามพ.ร.บ.มวย ปี 2542 ที่จะออกบัตรประจำตัวนักมวยได้ต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป ดังนั้นต่อไปทางสนง.มวยจะยกเลิกสมุดประจำตัวนักมวย “บ๊อกซิ่ง บุ๊ก” Boxing Book ที่เคยออกให้เด็กต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งจะมีผลทันที ทำให้เด็กอายุต่ำกว่านั้นไม่สามารถขึ้นชกมวยได้โดยปริยาย

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการแชร์ข้อความในโลกโซเชียลแตกประเด็นออกไปอีกมากมาย อาทิ โพสต์ของ “ภุชงค์ หมาน้อย กิจขยัน” แพร่ข้อความว่า

“ชิบหายมาเยือนวงการมวยจนได้!! ผมได้ข่าวร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นชกมวยผ่านเรียบร้อย.ต่อไปนี้ทั่วประเทศเด็กอายุต่ำ 15 ปีห้ามชกมวยเด็ดขาด..แสดงว่าพวกคุณไม่ฟังเสียงลูกหลานนายขนมต้มเลย วันนี้คุณได้ประกาศอำนาจและทำร้ายความรู้สึกของคนวงการมวยไทยทั้งประเทศ..ผมจะรอดูว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คุณจะได้คะแนนเสียงจากลูกหลานและหัวหน้าค่ายมวยทั่วประเทศบ้างรึป่าว##ประวัติศาสตร์ที่เห็นมามันผู้ใดทำร้ายวงการมวยไม่เคยรอดสักราย,,,,ปล..ผมและลูกหลานนักมวยอายุ 15 ปีจะคอยดูผลงานของคุณตลอดไปครับ”

ข้อความดังกล่าวได้รับการแชร์ต่อกันไปมากมาย และเป็นที่โจษจันกันไปทั่วในสังคมคนวงการมวย แม้กระทั่ง “อ.นกหวีด” นายเดชน์ ศรีอำไพ ประธานกรรมการเทคนิค ผู้ตัดสินมวยของคณะกรรมาธิการกีฬา อเมริกาเหนือ ซึ่งพำนักอยู่ในสหรัฐ ได้สอบถามข่าวเรื่องนี้มายังเมืองไทยด้วยความห่วงใย พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า

“ปัญหาเรื่องมวยเด็กที่เกิดขึ้นในเมืองไทยขณะนี้ ผมมองว่า มันเป็นเพราะประเทศเรา โดยเฉพาะภาครัฐบาลไม่ค่อยสนใจเรื่องปากท้องประชาชนสักเท่าไหร่ ผมไม่ได้ระบุหรือกล่าวหารัฐบาลชุดใด แต่มองภาพโดยรวม การที่คนวงการมวยพวกเราชกมวยเพราะมันเป็นไฟต์บังคับเลือกไม่ได้ ขณะที่ประเทศเจริญแล้ว กีฬาคือกีฬา เด็กไม่จำเป็นต้องมาใช้ร่างกายแลกความเจ็บปวด ผมเชื่อเช่นนั้นโดยพื้นฐานทั่วไป เป็นปัญหาของรัฐบาลจะแก้ไขอย่างไรให้ ชีวิตประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้น นักมวยสมัยก่อนพอมีฐานะดีขึ้น เขาก็ไม่ให้ลูกมาชกมวย มิหนำซ้ำบางคนกลับให้ลูกไปเรียนเทควันโดด้วยซ้ำไป”

“ปัญหา นักมวยเด็ก เหล่านี้ เราต้องค่อยเป็นค่อยไป ให้ชาวบ้านเข้าใจว่า เยาวชนนั้นเล่นกีฬามวยได้ แต่อย่าลุ่มหลงกับการพนัน ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่ามันเกี่ยวเนื่องกัน นักมวยที่โด่งดังสร้างชื่อเสียงตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันหรือแม้แต่เป็นตัวแทนประเทศชาติ เขาล้วนต้องผ่านการต่อสู้มามากมาย เห็นได้ว่า ต้องชกมวยตั้งแต่เด็ก ทั้งนี้ผมจึงไม่เห็นด้วย หากเราจะห้ามเด็กฝึกมวยไทย แต่ถ้ารัฐจะห้ามชกนั้นเป็นอีกเรื่อง จะอนุญาตให้แข่งขันแบบเกมส์กีฬาคือ ไม่มีเงินรางวัล แต่มีเหรียญรางวัลให้ หรืออย่างไรนั้น ก็เป็นรายละเอียดที่ควรพิจารณาแยกแยะกันไปมากกว่า”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายประเสริฐ ตันมี ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า

“การที่สนช. (สภานิติบัญญัติแห่งชาติ) นำเสนอสู่ครม.นั้นเป็นอีกเรื่อง แต่ไม่เกี่ยวกับสำนักงานมวย ที่จะต้องนำเสนอไปยังกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นคนละเรื่องกัน ประเด็กห้ามมวยเด็กชกนั้น ซึ่ง สนง.มวย เพียงแค่มีการหาข้อสรุปว่า ในปีหน้าเป็นต้นไปเราจะต้องเข้มงวดให้มากขึ้นตามพ.ร.บ.มวย 2542 ซึ่งเรากำลังทำคู่มือให้ปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน เดิมกฎหมายเข้มงวด มีโทษกำหนดอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมา เราปล่อยข้ามไปเท่านั้น อย่างเช่น พ่อแม่ต้องเป็นผู้ยินยอม การชกต้องมีแพทย์สนาม หรือกรรมการต้องได้มาตรฐาน ส่วนนักมวยเด็ก จริงๆก็ยังชกได้เราไม่ได้ห้าม แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายให้มากขึ้น ควบคุมดูแลให้มากขึ้นเท่านั้น จึงอยากขอวอนพี่น้องแฟนมวยอย่าตื่นตะหนกในเรื่องนี้”