มาดริด ไม่มีพลาดไล่ถล่ม อัล ไอน์ ไปแบบขาดลอย ป้องกันแชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 3 สมัยติดต่อกัน รวมแล้วเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ด้านเบลกวาดทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม-ดาวซัลโว
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด แชมป์เก่า 2 สมัยซ้อนจากสเปน ในฐานะตัวแทนยุโรป พบอัล ไอน์ ของยูเออี ในฐานะตัวแทนเจ้าภาพ
เกมนี้มาดริดส่ง คาริม เบนเซมา, ลูกัส บาซเกซ, แกเร็ธ เบล ลงนำเกมรุก ส่วนทีมเยือนมี มาร์คุส เบิร์ก, คาโย, ฮุสเซน เอล ชาฮัต เป็นตัวจริง
เริ่มเกมมา 14 นาที ลูกัส บาซเกซ เปิดเข้ามาให้ คาริม เบนเซมา พักอกลงก่อนจ่ายกลับหลังให้ ลูกา โมดริช แต่งแล้วปั่นโค้งด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษเสียบมุมสวยงาม มาดริดจึงออกนำ 1-0
นาที 15 อัล ไอน์ เกือบตีเสมอแบบทันควัน จากการเล่นฟรีคิกเร็ว ฮุสเซน เอล ชาฮัต จ่ายทะลุช่องให้ คาโย หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า จบครึ่งแรกมาดริดนำอยู่สกอร์เดิม 1-0
ครึ่งหลังนาที 60 มาดริดได้เตะมุมฝั่งขวา โทนี โครส เปิดเข้ากลางแล้วถูกโหม่งสกัดลอยมาหน้าเขตโทษ มาร์กอส ยอเรนเต สปีดเข้าวอลเลย์เต็มเหนี่ยวพุ่งเป็นจรวดเสียบตาข่าย “ราชันชุดขาว” ทิ้งห่างเป็น 2-0
นาที 78 ยอดทีมสเปนนำขาด 3-0 ลูกา โมดริช โยนลูกเตะมุมจากทางด้านขวาให้ เซร์คิโอ รามอส วิ่งสลัดหนีตัวประกบมาเทคตัวขึ้นขวิดเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด
นาที 86 อัล ไอน์ไล่ตีไข่แตกตามมาเป็น 1-3 คาโย เปิดฟรีคิกทางด้านขวาให้กับ ซึคาสะ ชิโอทานิ วิ่งมาสะบัดโหม่งย้อยเข้าไป
นาที 90 มาร์เซโล เปิดฟรีคิกไปข้างหน้าให้ วินิซิอุส จูเนียร์ กระชากเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจิ้มหนีนายทวารไปโดนขา ยาเฮีย นาเดอร์ เข้าประตูตัวเอง จบเกมมาดริดจึงชนะไปขาดลอย 4-1 ป้องแชมป์รายการนี้ 3 สมัยติดต่อกัน รวมทั้งหมดเป็นสมัยที่ 4 ทำสถิติสูงสุดเพียงสโมสรเดียว
ส่วนผลนัดชิงอันดับ 3 ริเวอร์เพลท จากอาร์เจนตินา ในฐานะตัวแทนอเมริกาใต้ ไล่ถล่มคาชิมา แอนท์เลอร์ส จากญี่ปุ่น ตัวแทนโซนเอเชีย 4-0
สำหรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์เป็นของ แกเร็ธ เบล ส่วนรางวัลดาวซัลโวเป็นเบลและราฟาเอล บอร์เร ของริเวอร์เพลท ยิงไปคนละ 3 ประตูเท่ากัน
