ที่สุดนักกีฬาไทย‘โปรเม’นักกอล์ฟหญิงโลก

ที่สุดนักกีฬาไทย‘โปรเม’นักกอล์ฟหญิงโลก – หากว่ากันถึงนักกีฬาที่ทำผลงานกระหึ่มโลก มากที่สุดของไทยในช่วงปีที่ผ่านมา คงไม่ต้องคิดเยอะให้มากความ แฟนกีฬาคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “โปรเม”เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวไทยมือ 1 ของโลก ยอดนักกอล์ฟขวัญใจชาวไทย โชว์ฟอร์มตลอดปี 2018 ได้อย่างยอดเยี่ยม

คว้าทั้งหมด 3 แชมป์ ประกอบด้วยรายการ คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ, ยูเอส วูเมนส์ โอเพ่นและ อเบอร์ดีน สแตนดาร์ด อินเวสต์เมนต์ส เลดีส์ สกอตติช โอเพ่นทำให้สถิติรวมแชมป์ของตัวเองอยู่ที่ 10 รายการ ทั้งที่อายุยังไม่เต็ม 23 ปี และยังเป็นนักกอล์ฟที่ติดท็อป 10 สูงสุดในรอบปี รวม 17 รายการจากที่เข้าร่วมแข่งขัน 28 รายการ คิดเป็น 61 เปอร์เซ็นต์ แถมทำลายสถิติเบอร์ดี้สูงสุดของทัวร์รวม 470 ครั้ง

“โปรเม”เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวไทยมือ 1 ของโลก

สร้างประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นคนแรกที่กวาดรางวัลใหญ่ของทัวร์ กอล์ฟหญิงอันดับ 1 ของโลกได้ครบถ้วน เริ่มจากรางวัล “แอนนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด”ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนักกอล์ฟที่ทำผลงานดีที่สุดในรายการระดับเมเจอร์ 5 รายการ

ตามด้วยรางวัล “นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี” ที่เป็นผู้จับจองตั้งแต่ยังเหลือการแข่งขันอีก 3 ทัวร์นาเมนต์ จากนั้นยังกวาดอีก 2 รางวัลใหญ่คือ “แวร์ โทรฟี่”สำหรับนักกอล์ฟที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดในรอบปี 69.415 และโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (33 ล้านบาท) จากคะแนนสะสม “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ” ซึ่งทำได้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยทำได้เมื่อปี 2016

จากความสำเร็จทั้งหมดนี้ทำให้ โปรเมกลายเป็นนักกอล์ฟที่ทำเงินสูงสุดในฤดูกาล กวาดเงินรางวัลรวมโบนัสตลอดปีทั้งสิ้น 3,743,949 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 123,547,375 บาท

ไม่เพียงเท่านั้น เอรียาได้รับเกียรติให้อยู่ในรายชื่อ 20 นักกีฬาโดดเด่นเหนือคู่แข่งของอีเอสพีเอ็น (ESPN) ประจำปี 2561 ที่แม้แต่นักกอล์ฟชาย “บรูกส์ โคเอปกา” ซึ่งครองแชมป์ยูเอสโอเพ่นและพีจีเอแชมเปี้ยนชิพ แถมได้เป็นผู้เล่นแห่งปี 2561 ของพีจีเอ ยังไม่ติดในโผ โดยโปรเมได้รับเลือกให้อยู่อันดับที่ 4 มีคะแนนโดมิแนนต์เหนือคู่ต่อสู้เฉลี่ย 2.094 ส่วนอันดับ 1 ซิโมน ไบลส์ นักยิมนาสติกสาวชาวอเมริกัน วัย 21 ปี เจ้าของคะแนนโดมิแนนต์ 3.248 ผู้พาทีมชาติสหรัฐคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์

“โปรเม”เอรียา จุฑานุกาล

ขณะที่ในประเทศไทย “โปรเม”ถูกให้รับรางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ในวันกีฬาชาติเมื่อ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้รับเลือกให้เหนือกว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะทีมชาติไทยที่ทำผลงานยอดเยี่ยมกับคอนซาโดเล ซัปโปโร ในเจลีก ญี่ปุ่น และ ส.ต.ต.วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก หรือ ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย ยอดนักมวยขวัญใจชาวไทย เรียกได้ว่าแทบจะทุกรางวัลที่โปรเมมีเอี่ยวด้วยเธอสามารถกวาดมาครองได้ ทั้งหมด

“จากรางวัลที่ทำได้ในปีนี้ รางวัลที่ถือเป็นไฮไลต์ของตัวเองคือ “แวร์ โทรฟี่” หรือสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด เนื่องจากเป็นหนแรกที่ทำได้ จากที่ไม่ค่อยได้มีลุ้นมากนักในปีก่อนๆ แสดงให้เห็นถึงพัฒนา การในเกม การเล่นของตัวเอง ซึ่งช่วงปิดฤดูกาลนี้คงจะอยู่เมืองไทยนานหน่อย ก่อนจะกลับไปสหรัฐอเมริกาในเดือนมกราคม 2562 เพื่อเริ่มโปรแกรมซ้อมและวางแผนสำหรับทัวร์ตลอดปีหน้า” โปรเมกล่าว

“สำหรับการแข่งขันรายการแรก ทัวร์ออฟ แชมเปียนส์ ระหว่าง 17-20 ม.ค. ที่ออร์แลนโด สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะนัดโค้ชมาวางแผนร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ รวมทั้งวางแผนการลงแข่งขันด้วย เนื่องจากปีที่ผ่านมา ลงแข่งขันรวม 28 รายการ อาจจะลดจำนวนลง เนื่องจากต้องเดินทางเยอะ อยากให้ร่างกายได้พัก และมีเวลาฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บเพื่อให้ลงแข่งขันในทุกๆ ทัวร์แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์กว่านี้” โปรเมกล่าว

ฤดูกาลหน้าแม้แฟนๆ อาจจะได้เห็น “โปรเม” ลงแข่งขันน้อยลง แต่ก็เพื่อปรับตัว และสภาพร่างกายให้เข้ากับการแข่งขันที่จะมาถึง ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นสถิติใหม่ๆ เกิดขึ้นจากโปรสาวไทยคนนี้ หรือต่อให้ไม่มี สถิติต่างๆ ที่เธอทำไว้ก็ยังคงยากหากจะมีใครมาทำลาย