การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เตรียมสุ่มตรวจสารต้องห้ามเข้มข้น ปิดช่องนักกีฬาโด๊ป ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 “บุรีรัมย์เกมส์”
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 62 ที่ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการประชุมติดตามความพร้อมการทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 “บุรีรัมย์เกมส์” ของจ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 19-29 มีนาคม 62 โดยมี “รองตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการกกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา พร้อมด้วยคณะทำงานฝ่ายต่างๆ และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เหลือเวลาอีก 2 เดือน ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ในภาพรวมการเตรียมงานแต่ละด้าน ถือว่าบุรีรัมย์ทำได้ดี โดยในการหารือมีการเปลี่ยนแปลงสนามแข่ง 3 แห่ง คือ ซอฟท์บอล, แบดมินตัน และวู้ดบอล เนื่องจากเหตุผลในด้านพื้นที่สนาม และปัญหาทางเทคนิค ส่วนการดำนเนินงานด้านอื่นๆไม่มีอะไรน่าวิตกและเป็นกังวล
“รองตูน” ยังกล่าวต่อไปว่า เรื่องของการสุ่มตรวจสารต้องห้าม ในกีฬาเยาวชนแห่งชาติหนนี้ จะมีการสุ่มตรวจที่เข้มข้นกว่าเดิม โดยจะสุ่มตรวจในจำนวนที่มากขึ้น และกระจายไปให้ได้ใจหลากหลายชนิดกีฬามากขึ้น ซึ่งจุดนี้ก็ถือว่าเป็นไปตามนโยบายของกกท.และวงการกีฬาโลก ที่ต้องการให้ทุกเกมเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และปราศจากการใช้สารกระตุ้น ซึ่งถือเป็นมะเร็งร้ายของวงการกีฬาโลกในยุคนี้
ขณะที่ นายวิทยา วิศรุตโสภณ หัวหน้างานตรวจสารต้องห้าม เปิดเผยว่า”บุรีรัมย์เกมส์” จะยังเป็นครั้งเเรก ที่การกีฬาเเห่งประเทศไทย ได้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของการตรวจสารต้องห้าม โดยจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการใช้สารต้องห้าม สามารถเข้าแสดงตัวเพื่อสุ่มตรวจสารต้องห้ามกับตัวนักกีฬาที่มาร่วมเเข่งขันได้ทุกที่เเละทุกเวลา ตามหลักขององค์การต่อต้านการใช้สารกระตุ้นต้องห้าม หรือ “วาด้า”
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทั้งในมหกรรมการเเข่งขันกีฬาเเห่งชาติ เเละกีฬาเยาวชนเเห่งชาติ จะมีเจ้าหน้าที่รอสุ่มตรวจสารต้องห้ามกับนักกีฬาหลังทำการเเข่งขันเสร็จสิ้น เเต่ทว่าหลังจากนี้ไป เริ่มตั้งเเต่กีฬาเยาวชนเเห่งชาติ ครั้งที่ 35 เราจะยึดเเนวทางการทำงานของ “วาด้า” โดยเจ้าหน้าที่จะสามารถเรียกนักกีฬาเพื่อสุ่มตรวจปัสสาวะเบื้องต้นที่ใดเมื่อไหร่ก็ได้
หัวหน้างานตรวจสารต้องห้าม เผยอีกว่า มาตรการการสุ่มตรวจสารต้องห้ามดังกล่าว ถือใช้ปฏิบัติกันในเกมส์กีฬาสากล ไม่ว่าเป็น โอลิมปิกเกมส์ หรือ เอเชียนเกมส์ ซึ่งเรื่องนี้ตนอยากให้สมาคมกีฬาจังหวัดต่างๆได้เเจ้งให้กับโค้ชเเละนักกีฬาของตนเองได้รับทราบ เเละอย่าได้ตื่นตระหนกเเละวิตกถ้าหากมีเจ้าหน้าที่เข้าเเสดงตัวเพื่อขอสุ่มตรวจปัสสาวะเเม้จะไม่ได้อยู่ในห้วงเวลาของการทำการเเข่งขัน
“กกท.พยายามเน้นย้ำ เเละอยากให้ทุกเกมกีฬาในทุกระดับการเเข่งขันปราศจากการใช้สารต้องห้าม ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามเข้าไปให้ความรู้เเละเเนวทางการปฎิบัติตัวที่ถูกต้องเเก่นักกีฬา ซึ่งก็เเน่นอนว่าถ้าเกิดตรวจพบว่ามีการใช้สารกระตุ้นโดยเจตนาหรือไม่เจตนา นักกีฬารายนั้นย่อมได้รับผลกระทบเต็มๆ โดยจะถูกพักเเข่งขันนานถึง 4 ปี ซึ่งก็อาจทำให้หมดอนาคตในเส้นทางกีฬาได้เลย”
ด้าน นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวปิดท้ายว่า การจัดแข่งขันกีฬาเยาวชนครั้งนี้ ทุกคนในจังหวัดพร้อมร่วมมือกันทำหน้าที่จัดการแข่งขันให้ออกมาดีที่สุด อย่างสมเกียรติและมีมาตรฐาน ตรงกับคอนเซตป์ “บุรีรัมย์โมเดล” ที่ใช้กีฬาพัฒนาคนพัฒนาเมือง ส่วนสิ่งที่น่ากังวลเพียงอย่างเดียวในเวลานี้ คือกรอบวันเลือกตั้งส.ส. ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจปรับเปลี่ยนเลื่อนมาทับซ้อนกับวันจัดแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ จนส่งผลกระทบกับการจัดแข่งขัน อย่างไรก็ตามคณะทำงานได้หามาตรการรองรับไว้แล้ว เชื่อว่าไม่น่าส่งผลกระทบกับการจัดชิงชัย
