ทีมชาติไทย – ฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สอง ที่อัล มัคตูม สเตเดียม ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 10 ม.ค. “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่นัดแรกแพ้อินเดีย 1-4 รั้งอันดับ 4 ของกลุ่มยังไม่มีคะแนน ลงสนามนัดที่สอง พบบาห์เรน ที่เสมอ ยูเออี เจ้าภาพ 1-1 มี 1 คะแนน

สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของไทยประกอบด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, อดิศร พรหมรักษ์, พรรษา เหมวิบูลย์, สุพรรณ ทองสงค์, ธีราทร บุญมาทัน, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ทริสตอง โด, อดิศักดิ์ ไกรษร และ ธีรศิลป์ แดงดา (กัปตันทีม)

ครึ่งแรกทีมชาติไทย เน้นลงไปตั้งรับและรอสวนกลับเป็นหลักซึ่งถือว่าทำได้ดีพอสมควร เพราะสามารถพาบอลขึ้นเกมบุกได้เป็นระลอก เพียงแต่จังหวะสุดท้ายยังยิงไม่ได้ลุ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของไทยดูจะเสียเปรียบกว่า เมื่อ 3 กองหลังโดนใบเหลืองทั้งหมดจากจังหวะเข้าตัดเกมใส่บาห์เรน โดย พรรษา เหมวิบูลย์ โดนในนาที 13, สุพรรณ ทองสงค์ โดนใบเหลืองนาที 20 และอดิศร พรหมรักษ์ นาที 45 รวมถึง อดิศักดิ์ ไกรษร ศูนย์หน้าที่โดนใบเหลืองนาที 43 ทำให้เล่นยากขึ้น จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอ 0-0

ครึ่งหลังรูปเกมของทีมชาติดีขึ้น มีโอกาสขึ้นมาป้วนเปี้ยนหน้าประตูบาห์เรนหลายครั้ง นาที 58 อดิศักด์ ไกรษร แทงบอลทะลุให้ทริสตอง โด หลุดพาบอลขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะตบเข้าเขตโทษให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ วิ่งเข้าไปซัดด้วยซ้ายจังหวะเดียวเสยคานเป็นประตูให้ทีมชาติไทย ขึ้นนำ 1-0

หลังเสียประตู บาห์เรนพยายามบุกเอาประตูคืน สวนทีมชาติไทย ยังคงตั้งรับและรอสวนกลับ นาที 72 จังหวะบอลชุลมุนหน้าเขตโทษ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เข้าไปรับบอลก่อนจ่ายอย่างเหนือชั้นให้ อดิศักดิ์ ไกรษร หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเสาแรก แต่โชคร้ายบอลไปชนเสา พลาดประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นเกมสวนกลับของไทยยังเล่นงานบาห์เรน ได้อย่างต่อเนื่อง นาที 89 ธีรศิลป์ แดงดา พาบอลจากกลางสนามหลุดเข้าไปยิง แต่น่าเสียดายที่ผู้รักษาประตูบาห์เรน ยังปัดไว้ได้ จบ 90 นาที ทีมชาติไทย ชนะ บาห์เรน 1-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ ทำให้โอกาสเข้ารอบยังเปิดกว้าง ทั้งยังเป็นชัยชนะบาห์เรน ครั้งแรกในรอบ 39 ปี และเป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 47 ปีในเอเชียนคัพ ของทีมชาติไทย โดยครั้งสุดท้ายที่ไทยชนะ คือชนะกัมพูชา ในรอบชิงอันดับ 3 เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ปีค.ศ. 1972

สำหรับ นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ไทย จะพบกับ ยูเออี เจ้าภาพ วันที่ 14 ม.ค. เวลา 23.00 น. ช่อง HD ถ่ายทอดสด

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน