ล้มบอล ยังไม่หมดสมาคมกีฬาฟุตบอลไทย เผยร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินสืบสวน จนได้เบาะแสเพิ่มเติม ติดตามจับผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มอีก 2 ราย ขณะที่อีก 1 รายอยู่ในระหว่างดำเนินการจับกุม

ล้มบอล ยังเกาะกินวงการฟุตบอลไทย โดยก่อนหน้านี้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามขบวนการกำหนดผลการแข่งขันกีฬาฟุตบอลล่วงหน้า หรือ “ขบวนการล้มบอล” ซึ่งได้มีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 12 ราย เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นศาล

เพิ่มเพื่อน

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตระหนักดีว่าปัญหานี้เป็นตัวการสำคัญหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนากีฬาฟุตบอล จึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษโดยได้ให้ความร่วมมือในการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด

จนกระทั่ง ล่าสุด สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับทราบจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าได้มีการสืบสวนจนพบกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลมีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติ ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตามจับกุมตามหมายจับของศาล ได้ผู้ต้องหา 2 ราย จากผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 ราย ส่วนอีก 1 รายอยู่ ในระหว่างการติดตามจับกุม

สำหรับ รายละเอียดของผู้ต้องหา และรายละเอียดทางคดีจะเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับใครบ้าง ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ผู้ตัดสิน ผู้ฝึกสอน หรืออดีตผู้บริหาร คนใดหรือไม่ คงไม่สามารถพูดในขณะนี้ได้ แต่ตัวละครและความเชื่อมโยงของผู้ร่วมขบวนการคงไม่หมดเพียงแค่นี้ หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร คงต้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะการล้มบอลเชื่อมโยงกับการพนันบอล สิ่งเหล่านี้คือมะเร็งร้ายทำลายการพัฒนากีฬาฟุตบอลโดยตรง ดังกล่าวแล้ว

ในนามของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขอขอบคุณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ช่วยกันป้องกันปราบปรามขบวนการบ่อนทำลายวงการฟุตบอลไทย ไม่ปล่อยให้กลุ่มบุคคลที่เห็นแก่ผลประโยชน์ เงิน ทอง ลอยนวลหากินและทำร้ายกีฬาฟุตบอลไทยได้อีกต่อไป

ด้าานพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในเรื่องล้มบอล สมาคมฯ ได้ทำเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่การสืบสวนต้องใช้เวลา รวบรวมพยานหลักฐานจนเพียงพอ จนศาลอนุมัติหมายจับ ซึ่งทั้ง 3 คนนี้อาจจะเชื่อมโยงกับบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือผู้บริหารระดับสูงของสโมสรหรือไม่นั้น ก็ต้องอยู่ที่การสืบสวนของตำรวจ สมาคมฯ เพียงแค่สนับสนุน ซึ่งบอกได้เลยว่ามีข้อมูลของหลายๆ คนๆ อยู่ในมือ เพียงแต่ต้องรวบรวมหลักฐาน

“ไม่ว่าคนนอก หรือคนที่เกี่ยวกับสมาคมฯ ถ้ามีหลักฐานเชื่อมโยงถึง ก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย ไม่มีปกป้อง เรื่องนี้เราสืบสวนมาตลอด ไม่ใช่จบแล้วจบเลย” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

 

อ่านข่าวอื่นๆ ต่อที่นี่

เปิดสถิติย้อนหลังไทยเป็นรองจีนสุดกู่ ก่อนดวลรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอเชียน คัพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน