การแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ฮาซซา บิน ซาเยด สเตเดี้ยม อัล ไอน์ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 20 ม.ค. “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่เข้ารอบในฐานะอันดับ 2 กลุ่มเอ ลงสนามพบ ทีมชาติจีน อันดับ 2 กลุ่มซี
เกมนี้ ทีมชาติไทย ส่งผู้เล่น 11 ตัวจริง ประกอบด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, มิก้า ชูนวลศรี, ทริสตอง โด, ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ศุภชัย ใจเด็ด และธีรศิลป์ แดงดา กัปตันทีม
กดติดตามเป็นเพื่อน และติดตามข่าวสารกีฬาได้ทาง
เริ่มเกมทั้งสองทีมยังไม่ค่อยมีจังหวะเข้าทำประตูเท่าไหร่นัก จนกระทั่งนาที 31 ทีมชาติไทย ได้ลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ธีราทร บุญมาทัน เปิดเข้าไปกลางประตู ก่อนโดนสกัดมานอกเขตไปถึง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ตัดสินใจซัดด้วยขวาทันที บอลพุ่งเลียดไปเข้าเท้า ศุภชัย ใจเด็ด พลิกตัวยิงด้วยขวา เป็นประตูให้ทีมชาติไทย ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นจีนพยายามบุกมากขึ้น แต่ยังทำได้ไม่ดีนัก ขณะที่ไทยมีจังหวะสวนกลับที่ได้ลุ้นเป็นระยะ จบครึ่งแรก ทีมชาติไทย นำ จีน 1-0
ครึ่งหลังจีน แก้เกมมาดุดันขึ้นและมีจังหวะทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษหลายครั้ง นาที 60 หยู ตาเปา ได้โอกาสชาร์จเหน่งๆบริเวณจุดโทษ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังแสดงความยอดเยี่ยมเซฟช่วยช้างศึกไว้ได้
หลังจากนั้นจีนยังโหมบุกอย่างไม่ลดละ จนได้ประตูตีเสมอสำเร็จ 1-1 นาที 67 จากจังหวะโหม่งจ่อๆระยะ 5 หลาของ เซียว จี ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาในนาที 64 โดยจังหวะแรกไปติดเซฟของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่ดาบสองยังตามไปซ้ำเข้าประตู
หลังสกอร์กลับมาเท่ากันเกม จีนที่กำลังได้ใจโหมบุกต่อเนื่อง ก่อนที่ 3 นาทีต่อมาจะได้จุดโทษ สุดท้ายเป็น เกา หลิน รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้จีน แซงนำไทย 2-1 ช่วงเวลาที่เหลือไทย พยายามเปิดเกมบุกบ้างแต่ไม่สามารถสร้างโอกาสพังประตูได้ ขณะที่จีน มีเกมสวนกลับที่น่ากลัว รอตัดบอลและได้บุกมาถึงแดนไทยหลายรอบ จบ 90 นาที ไทย พ่าย จีน 1-2 ตกรอบอย่างน่าเสียดาย ส่วนจีนผ่านเข้าไปรอพบ ผู้ชนะระหว่าง อิหร่าน กับ โอมาน วันที่ 24 ม.ค.
