หงส์แดง ยังยึดจ่าฝูงต่อหลังไล่ถล่มแตนอาละวาด แต่เรือใบก็เก็บชัยตามจี้ไม่ลดละ ด้านเชลซีชนะไก่แม้สั่งดร็อปเกปาเป็นสำรอง ส่วนผีแดง-ปืนใหญ่ต่างซิว 3 แต้ม ทำให้อันดับยังไม่เปลี่ยน

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง เปิดสนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “แตนอาละวาด”วัตฟอร์ด

เกมนี้เจ้าถิ่นจัด ดิว็อก โอริกี, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน ลงประสานงานกันในแดนหน้า ส่วนทีมเยือนนำโดย ทรอย ดีนีย์, เคราร์ด เดวโลเฟว, โรเบร์โต เปเรย์รา

เริ่มเกมมาเพียง 9 นาที ลิเวอร์พูลครองบอลทางฝั่งขวา ก่อนจะเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเข้ามาหน้าประตูให้ ซาดิโอ มาเน สอดมาโขกตุงตาข่าย เจ้าถิ่นนำเร็ว 1-0

นาที 20 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลให้ ซาดิโอ มาเน พักบอลคนเดียวในเขตโทษเหมือนจะไม่ดีแล้ว แต่มาเนยังอาศัยไหวพริบตัดสินใจตอกส้นผ่านมือนายทวารเข้าไปจนได้ สกอร์จึงกลางเป็น 2-0

นาที 37 เจ้าถิ่นเกือบบวกเพิ่ม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลุยเข้ามาทางฝั่งขวาแล้วยิงมุมแคบแบบไม่ถนัดนัก บอลแฉลบมือ เบน ฟอสเตอร์ ไปชนเสาหวุดหวิด ครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำอยู่ 2-0

ครึ่งหลังนาที 66 ลิเวอร์พูลถ่ายบอลออกทางซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายต่อให้ ดิว็อก โอริกี เลี้ยงตัดเข้าเขตโทษ ก่อนตัดสินใจสับไกยิงเข้าทางเสาแรก “หงส์แดง” ทิ้งห่างเป็น 3-0

นาที 80 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเข้ามาให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกไม่เหลือซาก สกอร์ห่างไปไกล 4-0

นาที 83 เกมรุกของลิเวอร์พูลยังเดินหน้าไม่หยุด คราวนี้เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดจากฝั่งซ้ายเข้าไปให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกเข้าไปอีกลูก “หงส์แดง” นำห่าง 5-0 และจบสกอร์นี้ไปในที่สุด

ทางด้าน “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม เฉือนชนะ “ขุนค้อน”เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 ได้ประตูชัยจาก เซร์คิโอ อเกโร นาที 59(จุดโทษ)

ส่วนศึกลอนดอนดาร์บีแมตช์ “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาชนะ “ไก่เดือยทอง”ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 เจ้าบ้านได้จาก เปโดร โรดริเกซ นาที 57, คีแรน ทริปเปียร์ นาที 84(ทำเข้าประตูตัวเอง)

ทั้งนี้เชลซีได้ส่ง วิลลี กาบาเยโร ลงสนามเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงแทนที่ เกปา อาร์ริซาบาลากา หลังจากนายด่านสแปนิชมีประเด็นพิพาทกับ เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือของทีม ในเกมคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ขณะที่ “ปราสาทเรือนแก้ว”คริสตัล พาเลซ พ่ายคารังต่อ “ผีแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3 ทีมเยือนได้จาก โรเมลู ลูกากู นาที 33 และ 52, แอชลีย์ ยัง นาที 83 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก โจเอล วอร์ด นาที 66

ส่วนทางฝั่ง “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล ไล่ถล่ม “เดอะ เชอร์รีส์”บอร์นมัธ 5-1 เจ้าถิ่นได้จาก เมซุต โอซิล นาที 4, เฮนริก มคิตาร์ยาน นาที 27, โลร็องต์ กอสเซียลนี นาที 47, ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมย็อง นาที 59, อเล็กซ็องดร์ ลากาแซตต์ นาที 78 ด้านทีมเยือนได้จาก ลีส์ มุสเซต์ นาที 30

สถานการณ์ล่าสุดในกลุ่มหัวตาราง 1.ลิเวอร์พูล 69 คะแนน 2.แมนฯซิตี้ 68 คะแนน 3. สเปอร์ส 60 คะแนน 4.อาร์เซนอล 56 คะแนน 5.แมนฯยูไนเต็ด 55 คะแนน 6.เชลซี 53 คะแนน โดยทุกทีมต่างเตะไปแล้ว 28 นัด ยกเว้นเชลซีที่เตะ 27 นัด

อีกคู่เป็นเกมหนีตาย “นักบุญ”เซาแธมป์ตัน เอาชนะ “เจ้าสัวน้อย”ฟูแลม 2-0 เจ้าถิ่นได้จาก โอริโอล โรเมว นาที 23, เจมส์ วอร์ด-เพราส์ นาที 40

หลังผ่านไป 28 นัด เซาแธมป์ตันเก็บเพิ่มเป็น 27 แต้ม ขยับขึ้นมาอันดับ 17 ส่วนฟูแลมมี 17 คะแนน รั้งรองบ๊วยอันดับ 19 เช่นเดิม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน