คืนวันอังคารนี้ มีฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรกให้ติดตาม 2 คู่”เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ ทีมเงินหนาในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดบ้านต้อนรับ โมนาโก จ่าฝูงลีกเอิง ฝรั่งเศส อีกคู่ “ตราหมี”แอตฯมาดริด ไปเยือนเลเวอร์คูเซ่น ทีมไหนจะเก็บชัยได้ก่อน แฟนบอลไม่ควรพลาด
วันอังคารที่ 21 ก.พ.2560
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โมนาโก เจ้าถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ ทีมรองจ่าฝูงของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษดวลกับทีมโมนาโก จ่าฝูงของลีกเอิง ฝรั่งเศส
ในรอบแบ่งกลุ่ม แมนฯซิตี้ คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม ซี ส่วน ทีมโมนาโก แชมป์กลุ่ม อี
ความพร้อมเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือทีมแมนฯซิตี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน กาเบรียล เชซุส กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิเลียน และ แวงซองต์ ก็องปานี กองหลังกัปตันทีมชาติเบลเยียม ที่บาดเจ็บ
แนวรุกเกมนี้น่าจะส่ง เซร์คิโอ อเกโร่ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกตัวเก่ง, ดาวิด ซิลบา, ยาย่า ตูเร่ ที่มีชื่อติดทำศึกถ้วยใหญ่ของยุโรปอีกครั้ง หลังจากในรอบแบ่งกลุ่ม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือใหญ่ไม่ใส่ชื่อลงเล่น นอกจากนี้ยังมี เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม
ขณะเดียวกัน ต้องรอเช็กความฟิตของกาแอล กลิชี่ แบ๊กซ้ายชาวฝรั่งเศส

ด้านโมนาโก ภายใต้การคุมทัพของเลโอนาร์โด ยาร์ดิม มีแนวรุกที่อันตราย โดยเฉพาะราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าทีมชาติโคลัมเบีย, โทมัส เลอมาร์ กองกลางดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส, แบร์นาร์โด ซิลวา, คามิล กลิค, คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้าดาวรุ่ง

ราดาเมล ฟัลเกาพร้อมยิงเรือใบ(เอเอฟพี)

ฤดูกาลนี้ ราดาเมล ฟัลเกา ฟอร์มร้อนแรงยิง 13 ลูก จาก 14 นัดที่ลงเล่นในทุกรายการ นอกจากนี้ยังมีดาวรุ่งฟอร์มร้อนแรงนั่นคือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่พร้อมจะสร้างปัญหาให้กับแนวรับของแมนฯซิตี้
แต่เกมนี้จะไม่มี กาเบรียล บอสชิเลีย กองกลางชาวบราซิล บาดเจ็บ ส่วงเจอร์เมสัน กองหลังชาวบราซิลติดโทษแบน

ขณะเดียวกัน ต้องเช็กความฟิตของกีโด คาร์ริโญ่ และเตมูเอ้ บากาโยโก
ผลงานการมาเยือนอังกฤษของโมนาโกนั้น ชนะ 4 นัด เสมอ 2 นัด แพ้ 2 นัด
“เรือใบสีฟ้า” เคยผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมถ้วยใหญ่ยุโรปได้ครั้งแรก เมื่อปี 2016
ผลงานของโมนาโกเจอกับทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในการเตะเหย้าเยือนนั้น ทำได้ดีกว่า เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด 6 นัด
เกมรุกของแมนฯซิตี้ยามเล่นในบ้าน ค่อนข้างไว้ใจได้ แต่แนวรับยังค่อนข้างมีปัญหา ทั้งกองหลังและผู้รักษาประตู
การได้เล่นในถิ่น ได้เปรียบเสียงเชียร์ น่าจะทำให้นักเตะเรือใบสีฟ้าฮึดเก็บชัยได้ก่อน
เลเวอร์คูเซ่น – แอตฯมาดริด เจ้าถิ่น “ห้างขายยา” เลเวอร์คูเซ่น รองแชมป์กลุ่ม อี เจอศึกหนัก ต้อนรับ”ตราหมี” แอตฯมาดริด แชมป์กลุ่ม ดี
เกมนี้ เลเวอร์คูเซ่น ไม่มี ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ดาวดังทีมชาติตุรกีที่ติดโทษแบนจนจบฤดูกาลนี้ หลังถูกฟีฟ่าลงโทษ ส่วนโยนาธาน ทาห์ และ อเล็กซานเดอร์ ดราโกวิช บาดเจ็บ
ขณะเดียวกัน ต้องเช็กความฟิตของลาร์ส เบนเดอร์
ส่วนตัวหลักอื่นพร้อมลงสนาม ทั้ง ยูเลียน บรันด์ต, ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ, คาริม เบลลาราบี้, เควิน โฟลลันด์, สเตฟาน คีสลิ่ง
ผู้รักษาประตูน่าจะใช้ แบร์นด์ เลโน่

ด้านทีมเยือน จะไม่มีดิเอโก้ โกดิน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวแกร่งชาวอุรุกวัย เนื่องจากบาดเจ็บโคนขาหนีบ เช่นเดียวกับ ฮวนฟราน, ออกุสโต เฟอร์นันเดซ, ติอาโก้ ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่จะได้ แยน โอบลัก ผู้รักษาประตูมือ 1 ฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนาม หลังจากบาดเจ็บหัวไหล่ตั้งแต่เดือนธ.ค. ตอนนี้หายดีแล้ว

นักเตะแอตฯมาดริดบุกถิ่นเลเวอร์คูเซ่น(รอยเตอร์)

ส่วนแนวรุกน่าจะนำทัพโดยอองตวน กรีซมันน์, เฟอร์นันโด ตอร์เรส, เควิน กาเมโร่

แอตฯมาดริดเคยยิงจุดโทษชนะ เลเวอร์คูเซ่น รอบ 16 ทีม เมื่อฤดูกาล 2014-2015
ทีมจากเยอรมนีทีมนี้แพ้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ แต่แอตฯมาดริดก็มีสถิติไม่ดีกับการมาเตะที่เยอรมนี โดยแพ้ 3 นัดหลังสุด
ผลงานในบ้าน 10 นัดในถ้วยยุโรปของเลเวอร์คูเซ่นมีสถิติที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่แพ้ใครเลย
เลเวอร์คูเซ่นได้เปรียบในถิ่น แต่แอตฯมาดริดก็มีเกมรุกที่เด็ดขาด และเฉียบคม มองแล้ว มีโอกาสออกเสมอ
////

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน