เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ห้องเมต้า ชั้น 2 ราชพฤกษ์คลัย ถนนวิภาวดี รังสิต “สารวัตรต้น” พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬา ชรักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานแถลงข่าวการผลักดันแผนกีฬารักบี้ฟุตบอลของสมาคมฯ ผ่านคณะกรรมาธิการการศึกษาและกีฬาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรักบี้
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
พ.ต.ท.กุลธน กล่าวว่า หลังจากที่เราพยายามผลักดันให้กีฬารักบี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในวิชาฝึกสอนของสถาบันการศึกษาต่างๆ ขณะนี้คณะกรรมาธิการการศึกษา และกีฬา ให้ความกรุณาผลักดันแผนงานนี้ของสมาคมฯ ผ่านความเห็นชอบของสมาชิกสภาฯ และเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำไปเป็นแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งสมาคมฯจะพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้รักบี้บรรจุเป็นหลักสูตรในสถาบันศึกษาต่างๆให้ได้
“ทุกวันนี้กีฬารักบี้ เริ่มได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่ในระดับมัธยมยังไม่มีโรงเรียนไหนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทำความรู้จัก เหตุเพราะไม่มีคนรู้กติกา หรือไม่ก็ขาดแคลนสนามภายในโรงเรียน ซึ่งตรงนี้สมาคมฯยินดีให้ความรู้ และส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปเป็นครูพละไปสอนวิธีการเล่น รวมถึงจัดสรรพื้นที่ของโรงเรียนที่มีอยู่อย่างไรให้เล่นกีฬารักบี้ได้”
พ.ต.ท.กุลธน เผยอีกว่า สมาคมฯได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรักบี้ฟุตบอล 15 คน รายการ “เอเชีย รักบี้ แชมเปี้ยนชิพ ดิวิชั่น 2” ระหว่างวันที่ 13-19 พ.ค. ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับเตรียมส่งรักบี้ทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันที่ต่างประเทศ ประกอบด้วย ทีมชาย รายการ บอร์เนโอ เซเวนส์ 2019 วันที่ 23-24 มี.ค. ที่มาเลเซีย, รายการ เอเชีย เซเวนส์ โทรฟี่ วันที่ 10-11 ส.ค. ที่อินโดนีเซีย ส่วนทีมหญิง เข้าร่วมรายการ เอเชีย รักบี้ วูเมนส์ เซเวนส์ ซีรีส์ แบ่งเป็น 3 เลก โดยเลกที่ 1 วันที่ 31 ส.ค.-1ก.ย. ที่เกาหลีใต้, เลก 2 วันที่ 14-15 ก.ย. ที่จีน และเลก 3 วันที่ 28-29 ก.ย. ที่ศรีลังกา ก่อนที่จะมีคิวเข้าร่วมซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ฤ วันที่ 30 พ.ย.-10 ธ.ค.
“เรามีการเตรียมทีมอย่างดี ถึงตรงนี้มีความมั่นใจว่าในซีเกมส์ 2 เหรียญทองต้องได้ ขณะที่การควอลิฟายไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่นนั้น โอกาสมีราว 70 เปอร์เซนต์ เพราะโอลิมปิกเกมส์ เอาตัวแทนจากเอเชีย 2 ที่นั่ง โดยมีญี่ปุ่น เป็นตัวยืนอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ไทยที่เป็นอันดับ 4 ในเอเชีย เหลือคู่แข่งเพียงจีน กับ คาซัคสถาน ที่เราต้องล้มให้ได้เท่านั้น”
