การแข่งขัน ฟอร์มูล่า วัน หรือ เอฟวัน สนามที่ 2 “กัล์ฟ แอร์ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 2019” ที่มานามา ประเทศบาห์เรน เมื่อ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 5 สมัย จากอังกฤษ ของทีม เมอร์เซเดซ แก้ปัญหาเครื่องยนต์เบียดคว้าแชมป์สนามแรกของฤดูกาลมาครองด้วยเวลา 1:34:21.295 ชม. เฉือน วัลเตรี่ บอตตาส นักแข่งฟินแลนด์ เพื่อนร่วมทีมเมอร์เซเดส เพียง 2.980 วินาที

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ส่วน ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับจากโมนาโกวัย 21 ปี จากทีมเฟอร์รารี่ ซึ่งคว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่น ต้องรอแชมป์แรกต่อไปหลังเข้าป้ายเป็นอันดับ 3

อ่าน – อัลบอน เผยขอนำเลข ๙ ติดบนหมวกกันน็อกสู้ศึก เอฟวัน
อ่าน – “อัลบอน” นักซิ่งลูกครึ่งไทย-อังกฤษคว้าแชมป์ฟอร์มูล่า 2
อ่าน – โตโร รอสโซ่ เซ็น อัลบอน ขับเอฟวันปีหน้า – คนไทยคนแรกรอบ 64 ปี
อ่าน – คอนเฟิร์ม เวียดนาม จัดรถแข่ง ฟอร์มูล่า วัน สตรีตเรซ กลางกรุง ฮานอย
อ่าน – เอฟวัน: พระองค์พีระ ราชนิกูลผู้ชูธงไทยในสนามโลกก่อน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน
อ่าน – “อลอนโซ่” อดีตแชมป์โลกเอฟวันผันตัวคว้าแชมป์รถยนต์ทางไกล

“ชาร์ลส์ โชคไม่ดีเท่าไร เขาขับได้ดีมากๆ เราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อกันพวกเขาให้อยู่ด้านหลัง” แฮมิลตันที่คว้าแชมป์รายการที่ 74 กล่าว ตามหลัง มิชาเอล ชูมักเกอร์ เจ้าของสถิติตลอดกาลอยู่ 17 กรังด์ปรีซ์

โดย ชาร์ลส์ เลอแคร์ ซึ่งขึ้นโพเดี้ยมแรกได้แต้มพิเศษจาการทำเวลาต่อรอบสูงสุดที่ 1:33.411 นาที ในรอบที่ 38

ส่วนนักแข่งสายเลือดไทย อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ซึ่งเพิ่งจะฉลองวันเกิด 23 ปีหมาดๆ จากทีมสคูเดอเรีย โตโร่ รอสโซ่ ฮอนดา จบอันดับ 9 มี 2 แต้มแรกในการลงแข่งขันเอฟวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน