เจมส์ มาสเตอร์ส แห่งสำนักข่าว CNN ทำสกู๊ปน่าสนใจในหัวข้อเรื่อง Champions League: How ‘Little Seoul’ fell in love with its favorite Son ว่าด้วยความชื่นชมหลงใหลในตัว ซน ฮึง-มิน ของชุมชนชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ โดย “ข่าวสดกีฬา” นำมาแปลให้อ่านกันดังนี้
(ภาพประกอบโดย Sarah Tilotta)
ณ ร้านทำผมที่พ่อ-แม่ ของเจ้าหนู มิน-เคียว เป็นเจ้าของ ขณะนี้เด็กชายกำลังนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่อย่างผ่อนคลาย…ในชุดฝึกซ้อมฟุตบอลเต็มยศ ด.ช.จี มิน-เคียว วัย 11 ขวบ จมอยู่ในหน้าจอเกมในบรรยากาศร้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นสเปรย์ฉีดผม
ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน New Malden (นิว มัลเดน) เป็นชุมชนชานเมือง อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เด็กน้อยหูผึ่งทันทีเมื่อได้ยินชื่อ คุณซน “Mr. Son” จากปากของนักข่าวผู้มาสัมภาษณ์…
ซน ฮึง-มิน ถือเป็นนักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ที่ดังที่สุดแห่งยุค ศูนย์หน้าจอมยิงประตูของทีมท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ผู้นี้ คือความภูมิใจของคนในชาติ ไม่ว่าพี่น้องชาวโสมจะอาศัยอยู่ที่ใดบนโลกก็ตาม…กับจี มิน-เคียว ก็เช่นเดียวกัน
“ผมอธิบายไม่ถูกเหมือนกันครับ แต่สำหรับผม เขาทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาอย่างมากเลยครับ” มิน-เคียว พูดถึง ซน ฮึง-มิน
“ผมรู้ว่ามันยากมาก ที่จะได้เป็นนักบอลอาชีพ แต่ดูอย่างคุณซนสิ เขาก็เริ่มต้นที่เกาหลีใต้ ก่อนข้ามน้ำข้ามทะเลไปเล่นที่เยอรมนี แล้วก็มาที่อังกฤษ ซึ่งที่นี่เขากลายเป็นนักเตะชั้นยอดไปแล้วครับ ผมว่าเขาคือนักเตะเกาหลีที่เก่งที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา ปาร์ก จี-ซอง ก็เก่ง แต่คุณซนเป็นอีกเลเวลที่เหนือกว่า เขาทำงานหนัก ฝึกหนักเพื่อเอาชนะพวกคนที่มีพรสวรรค์ เวลาผมเห็นเขาทำได้ดี ตัวผมเองก็มีพลังใจขึ้นมาครับว่าผมเองก็สามารถทำได้บ้าง ถ้าผมมีความพยายามมากพอ” มิน-เคียว ร่ายยาว
ซน ฮึง-มิน ปัจจุบันอายุเพียง 26 ปี แต่เดิมเป็นนักเตะของเอฟซีโซล ก่อนที่จะเข้าร่วมกับสโมสรเยาวชนฮัมบูร์ก เขาลงเล่นในบุนเดสลีกาลีกเยอรมนีเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.2010 และในปี ค.ศ. 2013 ได้ย้ายเข้าสู่ทีมไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร และเล่นให้แก่สโมสรในรายการยูฟ่ายูโรปาลีกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สองปีถัดมาเขาได้เซ็นสัญญากับสเปอร์ ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะเอเชียที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
สำหรับเขตนิว มัลเดนของลอนดอนนี้ ชาวเมืองใกล้เคียงส่วนใหญ่เรียกแทนด้วยชื่อเล่น ๆ ว่า “Little Seoul” เนื่องด้วยมีคนเกาหลีมาอาศัยอยู่เยอะ และมีร้านค้า ร้านอาหารสไตล์เกาหลีตั้งอยู่หลายร้านด้วยกัน
มิสเตอร์ แจซอง ฮา สมาชิกสภาเมืองเชื้อชาติเกาหลี ผู้ได้เข้าสู่เส้นทางการเมืองท้องถิ่นของอังกฤษ ได้รับเชิญให้มาพูดถึง Little Seoul ด้วยว่า “ผมเลือกมาอยู่ที่นี่เพราะมันง่ายต่อการปรับตัวครับ ในนิว มัลเดนคุณสามารถสื่อสารด้วยภาษาเกาหลี และหาของกินสไตล์บ้านเกิดได้ง่ายดายเลย”
เช่นเดียวกับ ชาวเมืองผู้สูงอายุมากมายในชุมชนเกาหลี โดยแจซอง ย้ายมาอยู่อังกฤษตั้งแต่ยุค 80 โดยเหตุผลแรก ๆ ที่ทุกคนคิดเหมือนกันก็คือการหาที่อยู่อาศัยให้อยู่ใกล้เคียงกับสถานทูตเกาหลีใต้นั่นเอง ทว่า แถบวิมเบิลดัน อันเป็นที่ตั้งของสถานทูตนั้นมีราคาแพงเกินไป ตัวเลือกรองลงมาจึงเป็นนิว มัลเดนไปโดยปริยาย
เวลาล่วงเลยมาสองทศวรรษ สุดท้ายย่านนี้ก็คราคร่ำไปด้วยร้านรวงและบ้านเรือนของคนเกาหลี
หลังจากเดินทอดน่องไปทั่วพื้นที่เขตนี้ ก็เป็นไปตามที่คุณแจซองว่าไว้ เพราะร้านอาหารเกาหลีมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่างก็แปะโชว์เมนูหน้าร้านเป็นอาหารเกาหลี แถมเสนอลดราคาพิเศษให้กับคนเกาหลีด้วยกันอีกด้วย
และไม่ใช่แค่ร้านอาหารเท่านั้น เพราะที่นี่มีบริการครบทุกความต้องการขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน โรงหนัง บริษัททัวร์นำเที่ยว โรงเรียนสอนภาษา ผับบาร์ ซึ่งทั้งหมดล้วนดำเนินงานด้วยภาษาเกาหลี
เราลองเข้าไปเยี่ยมร้านอาหารร้านหนึ่งชื่อว่า ยูมี (You Me) ตั้งชื่อเพื่อเลียนเสียงนามของเจ้าของร้าน คุณ You Mie
เมื่อเข้าไปในร้านเราก็พบกับรูปนักฟุตบอลเกาหลีใต้ชื่อดังมากมาย ที่เคยมาเป็นแขกคนสำคัญของร้านนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามี คุณซน รวมอยู่ด้วย
“เสียดายมากเลยค่ะ! ตอนที่คุณซนมารับประทานอาหาร ฉันไม่อยู่ที่ร้านพอดี แต่พ่อฉันบอกว่า เขาชมว่าบาร์บีคิวร้านเราอร่อยด้วย!”
ยูมี เล่าว่า ร้านนี้เป็นของพ่อกับแม่ของเธอ โดยเธอจะอยู่ช่วยงานทุกครั้งเมื่อมีเวลาว่าง แต่เธอยังมีงานอีกอย่างที่เธอรักมาก นั่นก็คือ เป็นผู้สื่อข่าววงการฟุตบอลเกาหลี โดยเธอจะหาเวลาเขียนข่าว เขียนสกู๊ป เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวแบบนักข่าวที่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะสกู๊ปเกี่ยวกับซน ฮึง-มิน นักเตะคนดังของชาติ
ยูมี เสริมประเด็นเกี่ยวกับ “คุณซน” ไว้อย่างน่าคิดว่า “สิ่งหนึ่งที่ฉันสังเกตได้ชัดเจนเลยว่า ความสำเร็จของซน ฮึง-มิน กำลังสร้างความฮึกเหิม และจุดประกายความฝันให้กับเด็กหนุ่มเกาหลีในนิว มัลเดน อย่างมีนัยยะสำคัญ มีการตื่นตัวด้านการเล่นฟุตบอลอย่างไม่เคยมีมาก่อน”
“หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นจะมีรายงานข่าวซนแทบทุกวัน ฉันมักได้รับโทรศัพท์จากบรรดาผู้ปกครอง ที่ช่วยขอร้องให้แนะนำช่องทางการพาบุตรหลานเข้าสู่วงการฟุตบอล เด็ก ๆ ล้วนใส่เสื้อสเปอร์สที่ด้านหลังมีชื่อของซน เดินไปมาทั่วเมือง”
“คนที่นี่อยากให้ลูกของตัวเองเดินตามอย่างซน ฮึง-มินค่ะ”
ความเจิดจรัสของซน ยังส่งผลไปถึงธุรกิจท่องเที่ยว โดย ดาเนียล คิม เอเย่นต์ทัวร์ท้องถิ่น เล่าว่า มันก็มีค่าใช้จ่ายราว 700 ปอนด์ (ตกประมาณ 29,000 บาท) ในการเดินทางจากเกาหลีใต้เพื่อมาดูสเปอร์เตะซัก 1 นัด
“คนเกาหลีส่วนใหญ่เลยครับ เลือกจะเดินทางด้วยงบประมาณตามที่กล่าวไป ซึ่งมันจะเป็นทริประยะสั้น คือบินมาถึงเพื่อดูฟุตบอลเตะวันนึง แล้วก็เดินทางทางกลับ”
“ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องเงินหรือที่พัก แต่เป็นตั๋วดูเกมในสนามมากกว่า ลูกทัวร์ส่วนใหญ่ชอบให้บริษัททัวร์อย่างผม หาตั๋วให้ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมา แต่ก็มีบางรายเหมือนกันที่ไปเสียรู้ให้กับพวกโก่งราคาตั๋วตามเว็บไซต์ ซึ่งต้องจ่ายเกินราคาจริงประมาณ 3 เท่าเลยทีเดียว”
“สมัยก่อนธุรกิจท่องเที่ยวเคยบูมมาแล้วครั้งนึงสมัย ปาร์ก จีซอง จากนั้นก็เงียบไปนานจนมาถึงยุคของซนนี่แหละครับ ถึงได้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง”
“ผมเชียร์แมนฯ ยูไนเต็ดนะ เพราะปาร์กเลยครับ แต่ตอนนี้ลูกทัวร์ผมเกือบทั้งหมดเป็นแฟนท็อตแนม…ถ้าถามว่าวันนึงเกิดซนย้ายไปอยู่ทีมอย่างเชลซี แล้วผมจะทำไง …ผมตอบเลย ผมก็จะเป็นแฟนเชลซีสิครับ!”
ต่อมาเราได้พูดคุยกับ คุณบย็อง ปาร์ก บาทหลวงซึ่งพ่วงตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลคนเกาหลีในชุมชนแห่งนี้ แถมยังเป็นตัวแทนของสมาคมกีฬาแห่งชาติเกาหลีประจำอังกฤษด้วย โดยเขาเล่าว่า ซนนำความภูมิใจมาสู่ชุมชนลิตเติลโคเรีย และชี้ว่า ความสำเร็จดังกล่าว เกิดจากการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เด็ก โดยมีบิดานักกีฬาเก่า เป็นคนผลักดันอย่างเข้มข้น
“ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า วิถีนักกีฬาอาชีพที่พ่อของซน ฮึง-มิน วางแผนไว้ให้กับบุตรชายนั้นมีผลอย่างมาก ซึ่งถ้าใครอยากเอาอย่าง อยากเป็น ซนคนที่สอง ที่สาม ก็ต้องพยายามทำให้ได้แบบนั้นครับ แต่ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกคนจะทำได้ มันต้องเริ่มต้นตั้งแต่ภาษาเลยด้วยซ้ำ”
กลับมาที่ร้านตัดผมของครอบครัวมิน-เคียว คุณแซม มิน-เคียว พ่อของเจ้าหนูนักเตะ ยืนยิ้มดูลูกชายโชว์ทักษะกับลูกฟุตบอล ก่อนกล่าวว่า ตนเองก็เคยอยากเป็นนักฟุตบอลมาก่อนสมัยเด็ก แต่สุดท้ายก็เดินทางมาอังกฤษ เรียนต่อด้านการทำผม แล้วได้พบกับ ซันนี่ ภรรยา แล้วจึงช่วยกันก่อตั้งร้านแห่งนี้ขึ้น
“ลูกชายผมบ้าบอลมากเลยครับ แต่มันยากมากที่ผมจะสนับสนุนเขาแบบเต็มร้อย เพราะมีงานหนักต้องทำ”
“มิน-เคียว ติดลูกฟุตบอลมาก กินข้าวก็ยังนั่งกินบนลูกฟุตบอล”
“สำหรับพวกเรา ซน ฮึง-มิน คือปาฏิหาริย์ เขาเป็นอัจฉริยะ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กชายทั้งหลาย”
“ผมเชื่อว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของลูกชายผม ซึ่งจะได้ผลกับลูกผมแค่ไหน ก็ต้องดูกันต่อไปครับ”
ที่มา
Champions League: How ‘Little Seoul’ fell in love with its favorite Son