การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คู่สำคัญของวันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย. คาร์ดิฟฟ์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งลงเตะเป็นเกมที่ 35 และที่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมี 3 แต้มเพื่อทวงจ่าฝูงคืนจากแมนฯซิตี้ ที่เอาชนะ สเปอร์ 1-0 เมื่อวันเสาร์ ขณะที่คาร์ดิฟฟ์ เองก็ต้องมีแต้มเพื่อดิ้นรนหนีการตกชั้น
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
รูปเกมนัดนี้ คาร์ดิฟฟ์ ตั้งเกมรับและพยายามหาโอกาสสวนกลับ จน ลิเวอร์พูลเองไม่สามารถเจาะเข้าถึงเขตโทษได้เลย และครึ่งแรกมีเพียงโอกาสของ โรแบร์โต ฟิร์มิโน่ ที่หลุดเข้าไปชิบบอลหลุดกรอบออกไป
ลิเวอร์พูล ต้องรอถึงนาที 57 จากจังหวะ เตะมุม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดเข้ามาให้ จอร์จินิโอ ไวจ์เนดุม ที่ไม่มีคนประกบวิ่งเข้ามาซัดเน้นๆ ขึ้นนำ 1-0 และเป็นแอสซิสต์ที่ 8 ในฤดูกาลของเทรนต์แล้ว
จากนั้นนาที 71 เจอร์เกน คล็อปป์ ส่งฟาบินโญ่ ลมาแทนนาบี เกอิตา แต่เล่นได้แค่ 4 นาที ก็โดนปะทะหนักได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะอย่างรุนแรง ต้องถอดออกและส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงไปแทน
นาที 80 ฌอน มอร์ริสัน กองหลังคาร์ดิฟฟ์ ไปเหนี่ยว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ เจมส์ มิลเนอร์ สังหารไม่พลาดปิดกล่องให้ ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 2-0 เก็บ 3 แต้ม มีเพิ่มเป็น 88 คะแนน จาก 35 นัด กลับไปรั้งจ่าฝูง โดยมีแต้มเหนือ แมนฯซิตี้ 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด โดยกลางสัปดาห์วันพุธ แมนฯซิตี้ มีโปรแกรมลงสนามนัดตกค้างกับ แมนฯยู ซึ่งหลังจบเกมนี้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนฯซิตี้ จะลงเตะ 35 นัดเท่ากันเสียที ส่วน คาร์ดิฟฟ์ ลงเตะ 35 นัดมี 31 แต้ม อยู่อันดับ 18 ตามหลังไบรตัน อันดับ 17 ซึ่งเป็นอันดับที่จะอยู่รอดอยู่ 3 คะแนน โดย ไบรตัน มีคิวเตะกับ สเปอร์ในวันอังคารนี้
ขณะที่ อาร์เซนอล เล่นในบ้าน โดนคริสตัล พาเลซ เล่นงาน 2-3 ทำให้ ปืนใหญ่ รั้งอันดับ 4 มี 66 แต้มเท่าเดิม โอกาสลุ้นท็อปโฟร์ กับ เชลซี ที่มีแต้มเท่ากัน แมนฯยู ที่ตามหลัง 2 แต้ม ยังเปิดกว้าง
