สงครามจิตวิทยาก้าวแรกก่อนขึ้นสังเวียน สำหรับศึกป้องกันแชมป์ สภามวยโลก (WBC) รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีการล้วงลึกเปิดโผท่านเปาผู้ทำหน้าที่ห้ามศึก ปรากฏมี เม็กซิกันโอนสัญชาติ สอดไส้ 1 ท่าน ขณะเดียวกัน แฟนมวยฝรั่งโพสต์ทวิตภาพ เหมือนเยาะเย้ย พี่แหลม แชมเปี้ยนโลกชาวไทยเปิบ “หนู” เป็นอาหารเช้า
ความคืบหน้า ศึกป้องกันแชมป์ สภามวยโลก (WBC) พิกัด 115 ปอนด์ ระหว่าง “พี่แหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของตำแหน่งชาวไทย กับ ฮวน “เอล กัลโล” ฟรานซิสโก้ เอสตราดา รองอันดับหนึ่ง ภาคบังคับ ชาวเม็กซิกัน ซึ่งจะขึ้นฟาดปาก ในการป้องกัน ครั้งที่ 4 สมัยที่ 2 ของฮีโร่ขวัญใจชาวไทย ในช่วงค่ำตามเวลาท้องถิ่น ที่ ฟอรัม อิงเกิ้ล วู้ด ในมหานครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา คืนวันศุกร์ที่ 26 เม.ย. 62 ซึ่งจะขึ้นเวทีราวๆสองทุ่มเศษเป็นคู่เอก และจะตรงกับ เช้าวันเสาร์ที่ 27 เม.ย.ตามเวลาไทย ติดตามชมถ่ายทอดสด ทางช่อง 23 ได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป
รายงานข่าวจากแอลเอ. (ลอสแองเจลิส) แจ้งว่า หลังผ่านตาชั่งอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันที่ 25 เม.ย. โดย ศรีสะเกษ ชั่งได้ 114.2 ปอนด์ และ เอสตราด้า ชั่งได้ 114.6 ปอนด์ ซึ่งต่ำกว่าพิกัด 115 ปอนด์ทั้งคู่ ต่างฝ่ายรีบแยกย้ายเดินทางกลับโรงแรมที่พัก และบำรุงกำลังพักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อให้ร่างกายเรียกความฟิตกลับคืนมาให้เร็วที่สุด
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
ทางด้านทีมงานฝ่ายไทยนั้น โดยเฉพาะ “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการมีความตื่นเต้นไม่น้อยกว่าตัวแชมป์โลก ที่พักผ่อนเข้านอนแต่หัวค่ำ ทว่าเสี่ยฮุยเองกว่าจะนอนหลับจริงๆกินเวลาเข้าไปถึง 04.00 น. เลยทีเดียว ผู้ใกล้ชิดให้เหตุผลว่า แม้เสี่ยฮุยจะเคยพานักมวยของตนทำศึกใหญ่ในต่างแดนมากมายหลายครั้ง รวมทั้งเคยพาศรีสะเกษมาชกเองด้วยในไฟต์สำคัญๆมากมาย แต่ก็ยังอดเป็นห่วงนักมวยของตนไม่ได้ เพราะเสี่ยฮุยนั้นเป็นผู้หนึ่งที่ทุ่มเท และเอาใจใส่ต่อนักมวยของตนเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นในช่วงเช้าวันชก มีข่าวจากสื่อรายงานให้ทราบว่า โผคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งมี ปีเตอร์ อับดุล ชาวกูยาน่า เป็นสักขีพยาน มี เอ็ดวาร์ด คอลเลนเตส (สหรัฐ) เป็นผู้ห้ามบนเวที และ กรรมการให้คะแนน 3 ท่านคือ,เคร็ก เมตคลาฟ์ (แคนาดา),เจอร์รัล ริทเธอร์ (สหรัฐฯ) และ อเลจันโดร โรชิน (สหรัฐ)
แต่ปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับทีมงานฝ่ายไทยก็คือ อเลจันโดร โรชิน ผู้ให้คะแนนชาวสหรัฐนั้น เดิมเป็นชาวเม็กซิกันแต่โอนสัญชาติมาอยู่ในแคลิฟอร์เนีย อีกทั้งยังมีประวัติการให้คะแนนแบบค้านสายตาแฟนมวย อย่างไฟต์ที่ ไทสัน ฟิวรี่ ยอดมวยผู้ดีอังกฤษ เสมอกับ ดีออนเตย์ ไวลเดอร์ มวยดังอเมริกัน ในศึกชิงแชมป์รุ่นเฮฟวี่เวต สภามวยโลก เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งกรณีดังกล่าว สร้างความหนักใจให้ เสี่ยฮุย ไม่น้อย และก็หวังว่า มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานใหญ่สภามวยโลก จะเดินทางมาชมศึกครั้งนี้ พร้อมทั้งตนจะขอคำยืนยันจากมัวริซิโอ ถึงการทำหน้าที่อย่างยุติธรรมของโรชิน และกรรมการชุดนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน เสี่ยฮุยเผยว่า เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องการให้คะแนนซึ่งอาจยืดเยื้อ ตนก็จะเน้นให้ ศรีสะเกษ นั้นทำหน้าที่ให้เด็ดขาด ต่อยให้จะแจ้ง หากมีโอกาสน็อกเอสตราดาได้ก็ให้รีบเผด็จศึกไปเลย
ไม่เพียงเท่านั้น นายบรรฑูรย์ บุตรบำรุง ตัวแทนกลุ่มคนไทยในอเมริกา รายงานอีกว่า
ยังมีข่าวในโลกโซเชียล จากทวิสเตอร์ ของแฟนมวยต่างชาติ อาทิ ข้อความของ “โดโนแวน แคสป์” (Donovan Kasp) ได้นำภาพเก่าของแชมป์โลกชาวไทย กำลังเปิปข้าวกับ หนูย่าง พร้อมข้อความว่า “อาหารเช้าแชมป์โลกชาวไทย !!”
รวมทั้งยังมี แฟนมวยรายอื่นๆ นำภาพไฟล์เก่าๆ ตามรายงานข่าวจาก บ๊อกซิ่งซีน เว็ปหมัดมวยชื่อดัง โพสต์รูป เมื่อครั้ง ศรีสะเกษเดินทางกลับเมืองไทยถึงสนามบินหลังคว้าชัยชนะในการป้องกันแชมป์โลก โดยมีภาพ มารดา นำ หนูย่าง อาหารโปรดมารอต้อนรับลูกชายของตน ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการให้ฉายา ศรีสะเกษ แชมป์โลกชาวไทยว่า “ราชา หนู” (The Rat King) เป็นที่ขบขันและน่ารังเกียจด้วย เนื่องจากตามธรรมเนียมของชาวยุโรปและอเมริกานั้น มักจะดูถูกว่า หนู เป็นสัตว์สกปรกที่น่ารังเกียจ ซึ่งเรื่องดังกล่าว แชมป์โลกชาวไทย เมื่อตื่นขึ้นมาได้ทราบข่าว ให้เหตุผลสั้นๆกับทีมงานในเรื่องนี้ว่า ตนไม่สนใจว่า พวกฝรั่งแฟนมวยเจ้าถิ่นจะดูถูกอย่างไร แต่จะคว้าชัยชนะอย่างเด็ดขาด เป็นการหุบปากพวกที่ชอบดูถูกเหล่านี้ให้ได้เลยทีเดียว
“การชกครั้งนี้ มีความหมายกับผมมาก นอกจากเป็นความรับผิดชอบต่อพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศแล้ว ผมยังต้องการจะทำเพื่อพิสูจน์ให้กับตัวเองอีกด้วย ว่าถึงวันนี้ ผมมีครอบครัวแล้ว อยากทุ่มเทการชกให้เต็มที่สุดชีวิต เมื่อกลับเมืองไทยถึงสนามบิน ก็อยากให้จ๋า (ภรรยาสาว พรพิมล สารแก้ว) มารับที่สนามบิน พร้อมกับพี่น้องชาวไทยที่เป็นกำลังใจให้กับผม ได้ร่วมชื่นชมกับเข็มขัดแชมป์โลก ที่ผมจะต้องนำกลับมาให้จงได้อีกด้วย” ศรีสะเกษ เปรยกับ ผู้ใกล้ชิดคนสนิทระหว่างอยู่กันตามลำพัง
