ท็อปโฟร์ ยังผลัดกันทิ้งโอกาส "ผีแดง-เชลซี" ได้แค่จบเจ๊าอีก

ท็อปโฟร์ ของศึกพรีเมียร์ลีกดูเหมือนไม่มีทีมไหนอยากได้ ล่าสุดผีแดงเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอเชลซี ส่งผลให้ต้องลุ้นขับเคี่ยวกันต่อในช่วง 2 นัดสุดท้าย

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 28 เมษายน “ผีแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี โดยเกมนี้มีผลต่อการลุ้นท็อปโฟร์ของทั้งคู่

เจ้าถิ่นส่ง 3 เด็กเก่าเชลซีอย่าง โรเมลู ลูกากู, ฆวน มาตา, เนมานยา มาติช ลงตัวจริงทั้งหมด ส่วนทีมเยือนนำโดย กอนซาโล อิกวาอิน, เอเดน อาซาร์, วิลเลียน

เริ่มเกมมาแค่ 4 นาที แมนฯยูไนเต็ดวางบอลยาวไปแดนหน้าให้ โรเมลู ลูกากู วิ่งแซงแนวรับแล้วพักบอลลงได้ก่อนพาเข้าไปเผชิญหน้านายทวาร แต่จังหวะยิงทำได้ไม่ดีพอเลยติดเซฟน่าเสียดาย

นาที 11 โรเมลู ลูกากู ตักบอลข้ามแนวรับให้ ลุก ชอว์ หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนที่ชอว์จะตบให้ ฆวน มาตา ได้บอลแล้วยิงเข้าไป แมนฯยูไนเต็ดจึงนำก่อน 1-0

นาที 29 แมนฯยูไนเต็ดได้เตะมุมฝั่งซ้าย แอชลีย์ ยัง เปิดเข้ามาตรงกลาง เอริก ไบญี ขึ้นโขกเฉียดเสานิดเดียวเท่านั้น

นาที 43 แฟนเจ้าถิ่นต้องเซ็งกันถ้วนหน้า อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ตะบันจากระยะกว่า 30 หลา ดาบิด เด เคอา พยายามตะครุบแต่เอาไม่อยู่ บอลกระฉอกออกมาเป็นโอกาสให้ มาร์กอส อลอนโซ ตามซ้ำดาบสองไม่เหลือ เชลซีจึงตีเสมอ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังทั้งคู่แทบไม่มีจังหวะลุ้นยิงแบบจะแจ้ง กระทั่งนาที 90+3 แมนฯยูไนเต็ดได้เตะมุมฝั่งซ้าย แอชลีย์ ยัง เปิดเข้ามาถึง มาร์กอส โรโฮ ขึ้นโหม่งจะเข้าอยู่แล้ว แต่ยังถูก เปโดร โรดริเกซ โหม่งสกัดจากปากประตูเสียอีก

นาที 90+7 ทีมเยือนเกือบได้ประตูชัย เปโดร โรดริเกซ งัดบอลผ่านแนวรับให้ กอนซาโล อิกวาอิน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ยังถูก ดาบิด เด เคอา ออกมาปิดมุมและเซฟได้ทันการณ์ จบเกมจึงเสมอกันไป 1-1

ทำให้ผ่านไป 36 นัดเท่ากัน แมนฯยูไนเต็ดเก็บเพิ่มเป็น 65 แต้ม ยังอยู่ที่ 6 แต่โอกาสลุ้นท็อปโฟร์เหลือน้อยลง ด้านเชลซีมี 68 แต้ม รั้งอันดับ 4 ตามเดิม

ผลคู่อื่น

เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 อาร์เซนอล

เบิร์นลีย์ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้