คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ระหว่าง 5-8 มิ.ย. ช้างศึก ทีมชาติไทย ประเดิมสนามนัดแรกพบคู่ปรับร่วมชาติอาเซียนอย่าง “ดาวทอง”เวียดนาม เจ้าของแชมป์ซูซูกิ คัพ 2018 ขณะที่ชุดแข่งพลพรรคเมืองสยามใช้เสื้อเหลืองคอนเซ็ปต์ทหารของพระราชา เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10

คิงส์คัพ หรือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 47 กำหนดจัดขึ้นระหว่าง 5-8 มิ.ย. ที่สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ โดยเมื่อ 8 พ.ค. มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่โรงแรมอัลมีรอซ ซึ่งมี “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย “โค้ชโต่ย”ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รวมถึงนักเตะทีมชาติไทยเข้าร่วม

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นที่สนามช้าง อารีนา เนื่องจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน มีกำหนดการปรับปรุง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทัวร์นาเมนต์สำคัญในช่วงต้นปีหน้า อย่างศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ถือเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้นำเกมฟุตบอลระดับชาติกระจายไปในภูมิภาค เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชน เกิดการกระตุ้นและการพัฒนาฟุตบอลในทั่วทุกภูมิภาค”

“อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือนโยบายของสมาคมจะเชิญทีมที่มีอันดับฟีฟ่า แรงกิ้ง สูงกว่าเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งในครั้งนี้มีสองทีมในทวีปเอเชียอย่าง อินเดีย และ เวียดนาม เข้าร่วมแข่งขัน พร้อมด้วยทีมจากโซนคอนคาเคฟ อย่าง กือราเซา ซึ่งทุกแมตช์ที่จะทำการแข่งขันได้รับการรับรองจาก ฟีฟ่า ในการเป็นแมตช์ระดับเอแมตช์ที่จะใช้ผลการแข่งขันวัดคะแนนจัดอันดับฟีฟ่า แรงกิ้ง”

“ต้องขอบคุณทางผู้สนับสนุนทุกท่านที่ช่วยให้การแข่งขันรายการนี้เกิดขึ้นมา และจัดได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง และทุกนัดที่แข่งขันจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 32 ให้แฟนบอลได้ติดตาม ฝากแฟนบอลทุกท่าน ติดตามและส่งกำลังใจให้กับทีมชาติไทย และหวังว่าฟุตบอลถ้วยศักดิ์สิทธิ์ถ้วยนี้จะอยู่ที่เมืองไทย หลังจากครั้งที่แล้วเราพลาดท่าแพ้ในเกมนัดชิงชนะเลิศ”

ด้าน โค้ชโต่ย กล่าวว่า “ตอนนี้ผมและทีมงานสต๊าฟโค้ชยังคงติดตามฟอร์มการเล่นของนักเตะอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นผมจะประกาศรายชื่อผู้เล่น 35 คนแรกในวันที่ 15 พ.ค. โดยจะแบ่งเป็นผู้รักษาประตู 5 คน ส่วน กองหลัง กองกลาง และกองหน้า จะแบ่งตามสัดส่วนตามความเหมาะสม จากนั้นจะติดตามดูฟอร์มการเล่นและตัดตัวนักเตะให้เหลือ 23 คนสุดท้าย”

“ผู้เล่นที่จะเรียกมาติด 35 คนแรก จะมีผู้เล่นหน้าใหม่แน่นอน หากเขาทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้ดีต่อเนื่องก็มีโอกาสติดไปเล่นคิงส์คัพ ส่วนผู้เล่นตัวหลักคนอื่นๆ ที่เล่นอยู่ต่างประเทศถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บจะถูกเรียกตัวเข้ามาร่วมทีม”

“ผมได้พูดคุยกับทีมงานสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เพื่อตกลงกันว่าจะใช้ผู้เล่นคนไหนบ้าง เพราะ อเล็กซานเดอร์ กามา เองจะเลือกผู้เล่นไปแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ในช่วงเดียวกันด้วย ซึ่งผมเลือก ศุภชัย ใจเด็ด เนื่องจากตัวเลือกในตำแหน่งกองหน้ามีตัวเลือกน้อย”

“ส่วน มุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) ที่จะลงแข่งขันให้ทีมชาติไทยเป็นเกมที่ 100 ถือเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ เป็นแบบอย่างที่ดีให้เพื่อนร่วมทีมและน้องๆ เยาวชน ผมคิดว่าคงเป็นแรงกระตุ้นให้เขาทำผลงานได้ดีในการแข่งขันครั้งนี้ เป้าหมายของผมคือการคว้าแชมป์ให้ได้”

“ขณะที่การเจอกับเวียดนาม ผมคิดว่าเวียดนาม ทำผลงานได้ดีในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นแรงบวกให้นักเตะของเรามีความกระหาย และต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าใครคือเบอร์ 1 ของอาเซียนตัวจริง”

สำหรับทีมชาติไทย จะใช้ชุดแข่งสีเหลือง ที่วอร์ริกซ์ผู้สนับสนุนหลักด้านชุดแข่งใช้คอนเซ็ปต์ “ทหารของพระราชา” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยโปรแกรมนัดแรก กือราเซา ตัวแทนจากคอนคาเคฟ จะลงสนามพบอินเดีย เวลา 15.30 น. ขณะที่ไทยจะพบกับเวียดนาม เวลา 19.45 น. ในวันที่ 5 มิ.ย. ผู้ชนะจะเข้าชิงชนะเลิศ และผู้แพ้จะชิงอันดับ 3 วันที่ 8 มิ.ย.

ทั้งนี้ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 47 จะเปิดขายบัตรเข้าชมสำหรับผู้ถือบัตรช้างศึกเมมเบอร์ สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ ตั้งแต่วันที่ 10-15 พ.ค. ทั้งระบบออนไลน์ และหน้าเคาน์เตอร์ ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ พร้อมส่วนลด 5% ส่วนบุคคลทั่วไป เปิดจำหน่ายบัตรในวันที่ 16 พ.ค. เป็นต้นไป โดยสามารถใช้ส่วนลดนี้กับตั๋วราคาแพคเกจได้เช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน