นายกลูกหนัง ประกาศชัดเจนให้ “โค้ชโต่ย”ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เป็นคนตัดสินใจเลือกนักเตะลุยฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” แม้ก่อนหน้านี้ “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ขอความร่วมมืออย่าเรียกผู้เล่นในสังกัดเข้าแคมป์ทีมชาติเนื่องจากอยู่ในช่วงฟอร์มตก เกรงว่าจะกระทบภาพรวมช้างศึก
นายกลูกหนัง อย่าง “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เผยถึงความคืบหน้าและความพร้อมสำหรับการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 ซึ่งทีมชาติไทย จะลงประเดิมสนามพบกับทีมชาติเวียดนาม ในวันที่ 5 มิ.ย. เวลา 19.45 น. ที่สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ โดยก่อนหน้านี้ “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ขอให้ทีมชาติงดเลือกใช้นักเตะในสังกัด เนื่องจากมองว่าผู้เล่นกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตกจนอันดับทีมในลีกตกต่ำ หวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อทีมชาติ
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 มิ.ย. ที่สนามช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ทางสมาคมได้รับผิดชอบในการทำหน้าที่เรื่องของการจัดการแข่งขัน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสนามช้าง อารีนา ของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีความพร้อม เชื่อว่าการจัดการแข่งขันจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้”
“สำหรับทีมชาติไทย เรามีการเตรียมความพร้อม โดยสมาคมได้แต่งตั้งให้ โค้ชโต่ย (ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) และโค้ชโชค (โชคทวี พรหมรัตน์) เป็นผู้รับผิดชอบในการเตรียมทีม เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าว”
“กรณีที่มีข่าวในสื่อต่างๆ รายงานว่าทางสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่ต้องการให้ทางสมาคมประกาศรายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทยมีนักเตะในสังกัดของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดนั้น ในส่วนตัว ผมมองว่าสมาคมมีความรับผิดชอบในส่วนหนึ่ง ส่วนเรื่องผู้เล่นการเตรียมทีมหรือการฝึกซ้อมนั้น เป็นความรับผิดชอบของโค้ชและทีมงาน สมาคมไม่เคยก้าวก่ายในส่วนนี้ อยากให้โค้ชและทีมงานมีอิสระในการตัดสินใจที่จะเลือกตัวผู้เล่นหรือจะทำการฝึกซ้อมอย่างไร สมาคมมีหน้าที่สนับสนุน เพราะฉะนั้นอยากให้โค้ชใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจ ซึ่งโค้ชได้ออกไปดูตัวของนักฟุตบอล โค้ชย่อมมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการตัดสินใจ มากกว่าสมาคม ส่วนโค้ชจะตัดสินใจเลือกนักเตะในสังกัดเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หรือไม่ อยู่ที่ โค้ชโต่ย และโค้ชโชค จะตัดสินใจ”
“กรณีของมุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) ส่วนตัวผมมองว่า นักกีฬาหลายคนเคยทำหน้าที่รับใช้ชาติ เคยทำหน้าที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ถ้าเขายังคงมีความสามารถที่จะทำหน้าที่แทนคนไทยทั้งชาติได้ อยากให้โอกาสเขาได้แสดงฝีมือ พิสูจน์ตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นการเรียกฟอร์มที่ดีกลับมาได้ ซึ่งมันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติไทยเองและเป็นประโยชน์แก่สโมสรด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมในฐานะนายกสมาคมไม่อยากจะพูดอะไร เพื่อให้มีผลกระทบกับสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรต้นสังกัดของนักกีฬา”
“สมาคมรับผิดชอบเรื่องทีมชาติ แต่นักกีฬาเป็นทรัพย์สมบัติของสโมสร ตราบใดที่ทางสโมสรและสมาคมมีความขัดแย้งกัน หรือไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นผมยังเคารพในความคิด เชื่อว่าทางสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คงมีเหตุผล”
