“รองตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส เผยมีโอกาสเป็นไปได้ที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย จะเพิ่มงบสนับสนุนการเดินทางให้แก่นักกีฬา แต่ทว่าต้องกลับไปดูงบประมาณที่มีว่าเพียงพอหรือไม่
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
“รองตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ และวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาในประเทศไม่ว่าจะเป็นกีฬาแห่งชาติ หรือกีฬาเยาวชนแห่งชาติ จะมีนักกีฬาที่จำเป็นต้องเดินทาง ใกล้บ้างไกลบ้าง ขึ้นอยู่กับจังหวัดที่ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน อย่างไรก็ตามครั้งนี้ ในกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 35 บุรีรัมย์เกมส์ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเจ้าภาพ จังหวัดที่เดินทางไกลคงหนีไม่พ้นจังหวัดภาคใต้ ซึ่งตามระเบียบแล้ว การกีฬาแห่งประเทศไทย เองจะมีการอุดหนุนงบประมาณในการเดินทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถสาธารณะ เช่น รถไฟ, รถบัส หรือบางจังหวัดบางชนิดกีฬาใช้วิธีเหมารถมาเอง รวมถึงโค้ชเป็นผู้ขับรถมาเองด้วย เป็นต้น
“อย่างไรก็ตามบางจังหวัดที่เดินทางไกลก็ยังมีปัญหาเรื่องระยะทางและใช้เวลาในการเดินทาง บางจังหวัดอาจมีการแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มงบประมาณในการเดินทางให้นักกีฬา ซึ่งก็เป็นการช่วงแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ดี ทั้งนี้ในอนาคตมีโอกาสเป็นไปได้ที่การกีฬาแห่งประเทศไทยจะมีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับบางอย่างเพื่อเพิ่มเงินสนับสนุนในการเดินทางมากขึ้น รวมถึงอาจมีการออกระเบียบเป็นการเฉพาะ เช่น จังหวัดที่ต้องเดินทางไกลกว่า 500 กิโลเมตร อาจพิจารณาเพิ่มงบประมาณให้เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องกลับไปดูงบประมาณด้วยว่าจะเพียงพอหรือไม่ เพราะในแต่ละปีมีนักกีฬา รวมถึงผู้ฝึกสอนเดินทางไปร่วมการแข่งขันกว่าหมื่นคนเลยทีเดียว” “รองตูน” กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายโฆษิต ขวัญศร ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท.จังหวัดนราธิวาส เผยว่า นักกีฬาจากจังหวัดนราธิวาส เดินทางกว่า 1,500 กิโลเมตร เพื่อมาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ใช้เวลามากกว่า 20 ชั่วโมง โดยใช้วิธีในการเดินทางต่างกันไป บางชนิดกีฬามาด้วยรถไฟ บางชนิดกีฬามาด้วยรถส่วนตัวของโค้ช ซึ่งชนิดกีฬาที่ต้องเดินทางไกลที่สุดคือกีฬาบริดจ์ ที่จะต้องเดินทางจากอำเภอ สุไหงโกลก ซึ่งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย แม้ว่าในการเดินทางครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ด้วยระยะทางที่ไกลก็มีโอกาสที่นักกีฬาจะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ส่งผลต่อผลงานในการแข่งขัน
