บิ๊กอ๊อด นายกสมาคมมั่นใจสมาคมฟุตบอลจะชนะทุกคดีทั้งฟ้องร้องทางเข้าสู่ศูนย์ฝึกหนองจอก เรื่องสยามสปอร์ตฟ้องยกเลิกสัญญาไม่ถูกต้อง ฟ้องสยามสปอร์ตละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการไม่จ่ายเงินค่าสิทธิประโยชน์
บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีความในช่วงระยะเวลาที่เข้ามารับตำแหน่ง 3 ปี ว่าปัจจุบันสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีคดีความที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องอยู่ 4 คดี
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
“คดีแรกคือคดีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฟ้อง คุณวรวีร์ มะกูดี ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี หมายเลขคดีดำ พ.1978/2561 เพื่อขอให้เปิดทางเข้าศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติหนองจอก เพราะว่าศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล ดังกล่าวนั้นไม่มีทางเข้า หรือไม่มีทางสาธารณะเชื่อมโยงกับถนนจำเป็นที่จะต้องฟ้องร้องให้ศาลพิพากษาให้ วรวีร์ เปิดทางเข้า-ออก เพราะฉะนั้นเราจะไม่สามารถใช้ศูนย์ฝึกที่หนองจอกได้”
“คดีที่ 2 คือบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ฟ้องสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง หมายเลขคดีดำ ทป.79/2560 เรียกค่าเสียหาย 1,400 ล้าน จากสาเหตุที่บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคทฯ มองว่าสมาคมยกเลิกสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์มิชอบ ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งศาลนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 11 ก.ค. เวลา 13.30 น.”
“คดีที่ 3 เป็นคดีที่สมาคมกีฬาฟุตบอล ฟ้อง คุณวรวีร์ มะกูดี และ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่ศาลแขวงปทุมวัน หมายเลขคดีดำ อ.4/2562 ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ คดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ไปเมื่อวันที่ 27 พ.ค.”
“คดีที่ 4 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฟ้อง บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง หมายเลขคดีดำ ทป.179/2561 ในกรณีที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ไม่ได้จ่ายค่าสิทธิประโยชน์ให้กับสมาคม ซึ่งสมาคมมองว่าสมาคมเสียหาย ไม่ได้รับเงินค่าสิทธิประโยชน์ตามสัญญา จึงฟ้องเรียกเงินในส่วนนั้น คือเรียกค่าเสียหายประมาณพันกว่าล้าน คือเงินที่สมาคมสมควรจะได้รับ”
“จริงๆ ส่วนตัวผมไม่มีความขัดแย้งกับคุณวรวีร์ ไม่เคยรู้จักกัน ไม่มีข้อขัดแย้ง กับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผมเข้ามาทำหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และอาสาเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งมันไม่ถูกต้องหรือเห็นว่าไม่ถูกต้อง อยากทำให้ถูกต้อง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาคม มันคือการรักษาผลประโยชน์ให้แฟนบอลและประชาชนชาวไทย”
“สำหรับการต่อสู้คดี ผมเชื่อมั่นว่าพยานหลักฐานที่เรามี หรือสิ่งที่เราได้ดำเนินการไปนั้น มันมีเหตุผลและเชื่อว่าหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีหรือเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือคู่กรณีได้ พวกเขาไม่ต้องการแน่นอนที่จะให้ผมอยู่ในตำแหน่งนี้ เหมือนที่ผมเคยพูดกับสื่อมวลชน พูดกับแฟนบอลว่าผมจะไม่ลาออกจากตำแหน่งนี้เด็ดขาดจนสิ้นวาระ แล้วจะอยู่ทำคดีให้สิ้นสุดก่อนหมดวาระ ต้องฝากแฟนบอลชาวไทยทุกคนไทยด้วยว่า ติดตามเรื่องนี้ให้ดีๆ เพราะคดีต่างๆ อาจมีการแก้ไขบิดเบือนได้”
