(1 มิ.ย.62) เนื่องด้วยวันที่ 1 มิถุนายนของทุกปีตรงกับ “วันเด็กนานาชาติ (International Children’s Day)” จึงอยากนำเสนอเรื่องราวของเด็กไทยมากความสามารถคนหนึ่งให้ทุกคนได้รู้จัก เขาคือนักมวยดาวรุ่งน้องใหม่จากจังหวัดตรัง “เดชญฤทธิ์ ศ.เดชดำรงค์” ซึ่งเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของพ่อผู้เป็นระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจของวงการศิลปะการต่อสู้ “ครูรงค์” เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค
นักมวยน้อยวัย 9 ขวบชื่อเล่นว่า “โตเกียว” ด.ช.บุญญฤทธิ์ ทองใย ที่กำลังเดินตามรอยของพ่อ ได้มีโอกาสเปิดตัวบนเวทีมวยครั้งแรก ในศึกวันมวยไทย ศ.เดชดำรงค์+ทีมพลังใหม่ เพื่อการกุศล มอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดี เมื่อค่ำวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ เวทีมวยชั่วคราว โรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ ถนนตรัง-สตูล ตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง อันเป็นบ้านเกิดของครูรงค์
ในจำนวนคู่มวยทั้ง 14 คู่ในค่ำคืนนั้น ส่วนใหญ่เป็นนักมวยอาชีพในเขตภาคใต้ บางคนเคยผ่านการชกในกรุงเทพฯ มาบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นมวยบ้านๆ ในละแวกใกล้เคียง และมีชาวต่างชาติซึ่งเป็นลูกศิษย์ของครูรงค์จาก Evolve MMA บินตรงมาจากประเทศสิงคโปร์เพื่อมาร่วมการแข่งขันด้วยความเต็มใจโดยปฏิเสธไม่ขอรับค่าตัว
นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันมวยเด็กซึ่งเป็นมวยสร้าง โดยครูรงค์มีความปรารถนาที่จะส่งเสริมและจุดประกายให้เด็กๆ เกิดความรักและหวงแหนในกีฬาศิลปะป้องกันตัวประจำชาติไทย ซึ่งหากเป็นรายการใหญ่เด็กๆ จะไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีมือเลย
สำหรับ “เดชญฤทธิ์ ศ.เดชดำรงค์” มีโอกาสได้เรียนมวยจากพ่อตั้งแต่เด็ก แม้ครูรงค์จะไม่ได้อยู่เมืองไทยเป็นประจำเพราะต้องทำงานเป็นเทรนเนอร์ที่ Evolve MMA ประเทศสิงคโปร์ แต่เมื่อใดที่กลับมาบ้านก็จะถ่ายทอดวิชามวยไทยให้ลูกชายคนนี้อยู่เรื่อยๆ
“การเตรียมตัวเพื่อขึ้นชกครั้งนี้ ช่วงเดือนสุดท้ายก่อนแข่งขัน เขาไปซ้อมที่ค่าย ศ.ธนกร โดยมีเพื่อนของลูกไปซ้อมด้วยกัน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาขึ้นชกบนเวที เขาบอกว่าเขาตื่นเต้น แต่พอเริ่มชก ผมดูเขาเป็นมวยใจสู้ เดินหน้าไม่กลัว ถ้ามีโอกาสก็อยากให้เขาสั่งสมกระดูกมวยไปเรื่อยๆ ที่สำคัญคือการชกมวยจะฝึกให้เขาเป็นคนมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ รู้จักแบ่งเวลาทั้งการเรียนและการฝึกซ้อม”
“ผลการชกเขาชนะน็อกยกที่ 2 พอลงมาก็มีคนชื่นชมเขา ได้ค่าตัว 500 บาทแต่ได้เงินอัดฉีดอีก 6,000 ซึ่งเขาก็ชอบและเริ่มรู้ว่าหาเงินได้เองซึ่งมันเป็นความภาคภูมิใจของเขา ในขณะเดียวกันเมื่อได้เงินแล้วก็ต้องรู้จักเก็บออมและรู้จักมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อ่านให้เป็นด้วย”
“เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” และเป็นเรื่องที่ดีหากมีเด็กรุ่นใหม่ช่วยสืบสานศิลปะการต่อสู้ประจำชาติ “มวยไทย” ให้มีชื่อเสียงต่อไปในอนาคต
