เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น กรุงโตเกียว “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และนายทาชิมะ โคโซ นายกสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง เพื่อร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและร่วมกันสนับสนุนผลักดันวงการฟุตบอลของทั้งสองประเทศ โดยมีนายวิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค และนายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ ร่วมด้วย
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ขอขอบคุณสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น สำหรับการต้อนรับที่แสนจะอบอุ่น และเต็มไปด้วยมิตรภาพที่ดี เป็นที่ทราบกันดีสำหรับประชาชนชาวญี่ปุ่น และประชาชนชาวไทย ว่าทั้งสองประเทศที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีต่อกันกว่า 130 ปี ซึ่งตั้งแต่ที่ได้รับเลือกมาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลไทย ตนได้พยายามเรียนรู้และมองฟุตบอลญี่ปุ่นเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด เพราะญี่ปุ่นใช้เวลากว่า 20 ปี ในการพัฒนาฟุตบอลขึ้นมา จนกลายเป็นทีมอันดับ 1 ของเอเชีย และผลิตนักเตะไปเล่นยังยุโรปและอเมริกาใต้เป็นจำนวนมาก และหวังว่าในอนาคตฟุตบอลไทยจะทำได้เช่นเดียวกันบ้าง
“เมื่ออยากประสบความสำเร็จเหมือนทีมชาติญี่ปุ่น ต้องนำพวกเขามาเป็นแบบอย่าง หลังจากผมเข้ามารับงานได้ 1 ปี ความสัมพันธ์เป็นมาอย่างดีโดยตลอด และได้ทราบว่าทั้งต่อหน้าและลับหลังนายกสมาคมฟุตบอลของญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนไทยเช่นกัน”
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวปิดท้ายว่า ที่ผ่านมามีการช่วยเหลือกันระหว่างสโมสร แต่วันนี้ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์สำหรับวงการกีฬาระหว่าง 2 ประเทศ เชื่อว่าภายใต้ข้อตกลงนี้จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป และหวังว่าสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนทุกด้านอย่างดี
ขณะที่ ทาชิมะ โคโซ กล่าวว่า ตอนนี้มีนักเตะญี่ปุ่นค้าแข้งในเมืองไทยกว่า 70 คน ต้องขอบคุณสโมสรและแฟนบอลที่ดูแลเป็นอย่างดี ส่วนปีนี้มีนักเตะไทยมาเล่นที่ญี่ปุ่น 2 คน หวังว่าในอนาคตจะมีมากกว่านี้ ส่วนการลงนามบันทึกข้อตกลงนั้นรู้สึกยินดีอย่างมาก เพราะต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีหลายๆ ด้าน เพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลระหว่างประเทศ ซึ่งพล.ต.อ.สมยศ เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดีและมีทัศนคติในการพัฒนาประเทศด้วย
ทั้งนี้รายละเอียดในบันทึกข้อตกลงนั้นประกอบด้วย 1.การดำเนินงานฟุตบอลลีก 2.การพัฒนาทีมชาติ (แลกเปลี่ยนความรู้ และช่วยเหลือด้านเทคนิค) 3.แลกเปลี่ยนความรู้ (อบรมโค้ช, พัฒนาเยาวชน, การจัดการแข่งขัน ฯลฯ) 4.พัฒนาแลกเปลี่ยนผู้ตัดสิน 5.ศึกษาโปรเจ็คแลกเปลี่ยนในด้านเทคนิค, บุคลากร และสโมสรพาร์ทเนอร์ของสองประเทศ
