นักวิ่งเคนยา เปิดใจยอมรับการใช้สารกระตุ้นในรูปแบบต่างๆเป็นที่แพร่หลายในวงการวิ่ง มาราธอน เสียจนหลายคนที่ต้องการเอาชนะด้วยฝีมือตัวเองเริ่มถอดใจ และหันเข้าสู่ด้านมืดเพื่อเอาชนะคู่แข่งให้ได้

ปัจจุบันนักวิ่งเคนยาอยู่ในท็อป 100 ถึง 38 คน แต่สมาคมกรีฑาเคนยากำลังประสบปัญหานักวิ่งแอบใช้สารกระตุ้นกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น อเล็กซ์ นักวิ่งแถวหน้าของเคนย่าชื่อสมมุติ ยอมรับว่าใช้สารกระตุ้นจากการฉีด อีพีโอ หรือ อีริโทรโพอิติน (Erythropoietin) ซึ่งเป็นยาประเภท ฮอร์โมน ที่
สังเคราะห์ขึ้นเพื่อเร่งสร้างเม็ดเลือดแดง ถูกใช้รักษาในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ใช้แก้ไขภาวะโลหิตจาง แต่หากใช้ในนักกีฬาจะถูกใช้กระตุ้นเม็ดเลือดแดงในกีฬาที่ใช้ความอึดมากกว่าปกติ

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ผมใช้มันเพื่อหาเลี้ยงชีพ คุณไม่สามารถแข่งกับคนที่ใช้มัน แล้วคิดว่าผลลัพธ์ที่ออกมามันจะสมเหตุสมผลกับคุณได้หรอก” อเล็กซ์ ซึ่งใช้อีพีโอมาตั้งแต่ปี 2017 กล่าวกับเอเอฟพี “กีฬาวันนี้มันไม่ได้สะอาดอีกแล้ว ในชีวิตจริงคุณต้องเสี่ยงเพื่อให้ชนะไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม”

ชาวเคนยา เอาดีในการวิ่งระยะไกลเพื่อล่าเงินรางวัลมาหาเลี้ยงครอบครัว เพราะอย่างน้อยก็สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ “คุณไม่ต้องเป็นนักวิ่งระดับอีลิต หรือเป็นนักกีฬาทีมชาติ แค่ไปแข่งแล้วหาเงินให้ได้” แพทย์รายหนึ่งในเอโดเรซ กล่าว

โดยเขาสามารถขาย อีพีโอ ให้กับนักวิ่งได้ราวๆ 20 เหรียญสหรัฐต่อหน่วย หรือประมาณ 610 บาทเท่านั้น และ ยอมรับว่าขายฮอร์โมนเหล่านี้ให้กับนักกีฬาโดยไม่มีใบสั่งยามาเป็นเวลาหลายปี โดยหน้าฉากเป็นการนำเข้าอย่างฮอร์โมนอย่างถูกกฏหมายจากอินเดีย เพื่อรักษาโรคโลหิตจาก แต่ลูกค้าตัวจริงคือนักวิ่งที่ต้องการฮอร์โมนมาเร่งปฏิกิริยาเพื่อเพิ่มอ็อกซิเจนในกระแสเลือด

“ไม่มีใครที่นั่น ไม่มีใครควบคุม มันง่ายจะตายหากคุณมีใบอนุญาติ”

แพทย์คนเดิม ยอมรับว่าขาย EPO ให้กับนักกีฬาโดยไม่ต้องมีใบสั่งยาเป็นเวลาหลายปีนำเข้าฮอร์โมนจากประเทศอินเดียเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโลหิตจางอย่างถูกกฎหมาย แต่ลูกค้าที่แท้จริงของเขาคือนักวิ่งที่กำลังมองหาเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ถูกพาไปด้วยเลือดของพวกเขา แม้จะเสี่ยงต่อภาวะโรคหัวใจเฉียบพลัน หรือความดันโลหิตสูง แต่นักกีฬาไม่มีใครใส่ใจ

“ยังไงพวกเขาก็ทำมัน พวกเขาต้องการการมีตัวตน เราทำมันเพื่อเงิน ในเคนย่า เราทำทุกอย่างเพื่อเงินทั้งนั้นแหละ”

นักวิ่งเคนย่า เริ่มถูกจับตามองเรื่องการใช้สารกระตุ้นมากขึ้น โดยนักวิ่งระดับเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 เจมิม่า ซัมกอง ก็โดนลงโทษ 8 ปี จากข้อหาใช้ อีพีโอ และเริ่มมีการตรวจมากขึ้นเป็นสิบเท่า รวมทั้งการตรวจหาสารกระตุ้นด้วยเลือดตามนโยบายของ องค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก(วาดา) ที่นักกีฬาจะต้องมีพาสปอร์ตชีวภาพติดตัวเสมอ

โทนี่ อีกหนึ่งนักวิ่งที่ใช้ชื่อสมมุติ กล่าวว่า ในการวิ่งท้องถิ่นบางงานไม่ได้มีการตรวจหาสารกระตุ้น ซึ่งนั่นทำให้นักวิ่งเลือกที่จะโกงกันอุตลุด เพื่อเงินรางวัล

“ถ้าคนอื่นเลิกโกง ผมก็เลิก ผมโกงเพราะคนอื่นโกงผม สักวันผมอาจจะตาย แต่ผมยอมที่จะเสี่ยง เพราะนั่นทำให้ผมดูแลตัวเอง พี่ชาย และน้องสาวได้ ในเคนย่า คนโกงกินกันมากมาย จะกำจัดการโด๊ป หรือนักกีฬาจะโกง คุณก็ต้องเจอเรื่องคอร์รัปชั่นก่อนทั้งนั้น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน