‘บิ๊กต้อม’ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย ออกปากชมโอลิมปิกเกมส์ 2020 “โตเกียว 2020” พร้อมสุดๆ หลังเข้าร่วมประชุม กับเจ้าภาพ และหัวหน้านักกีฬาจาก 192 ประเทศ
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
ความเคลื่อนไหว การเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว 2020” ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.-9 ส.ค.ปีหน้า ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ‘บิ๊กต้อม’ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมร่วมกับเจ้าภาพ และหัวหน้านักกีฬาจาก 192 ประเทศ เผยว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานความพร้อมและความคืบหน้าในด้านต่าง ๆ อย่างละเอียด โดยฝ่ายจัดฯได้นำหัวหน้าคณะนักกีฬาจากทุกชาติ ไปเยี่ยมชม สนามแข่งขัน และหมู่บ้านนักกีฬา ในแห่งต่าง ๆ ด้วย ซึ่งต้องบอกว่า ทุกอย่างมีความพร้อมเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่เหลือเวลาเตรียมการอีก 1 ปีด้วยซ้ำ
“ในที่ประชุมได้มีการสอบถามถึงจำนวนนักกีฬาของแต่ละชาติ ที่คาดว่าจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายโตเกียวเกมส์ ซึ่งในส่วนของไทย ทางเจ้าภาพขอให้เราทบทวนจำนวนนักกีฬา มาใหม่ โดยขอให้อ้างอิงตามความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งจะได้กลับไปสอบถามสมาคมกีฬา อีกครั้งถึงโอกาสของนักกีฬาไทย โดยทางญี่ปุ่น จะมาขอคำตอบ ในการประชุมร่วมกับชาติในภูมิภาคอาเซียน ที่ไทย ในเดือนพ.ย.นี้
“ส่วนปัญหาอากาศร้อน ที่คาดว่าจะเข้าขั้นร้อนเป็นอย่างมาก ในช่วงที่มีการแข่งขัน เหมือนที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทางเจ้าภาพญี่ปุ่น ได้วางมาตรการเอาไว้แล้ว มีทั้งการจะปรับเวลาแข่งขันในแต่ละวันให้เร็วขึ้น มีการเพิ่มน้ำเย็น เพิ่มไอน้ำ ในสนามแห่งต่าง ๆ และมีอ่างน้ำแข็ง เตรียมไว้ให้นักกีฬา เป็นต้น ส่วนเรื่องของอาหาร เจ้าภาพยืนยันว่า จะเป็นไปตามมาตรฐานของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ที่กำหนดไว้ จึงไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด” นายธนา กล่าว
ขณะที่ ร็อบ วัดเดิล หัวหน้าคณะนักกีฬานิวซีแลนด์ ยกย่องว่า ญี่ปุ่น เตรียมการจัดการแข่งขันได้เหนือกว่า “ริโอ 2016” หลายช่วงตัวมากๆ เช่นเดียวกับ คิตตี้ ชิลเลอร์ หัวหน้าคณะนักกีฬาออสเตรเลีย ที่ประทับใจกับความพร้อมของญี่ปุ่น โดยเฉพาะหมู่บ้านนักกีฬา ซึ่งแตกต่างจากประสบการณ์จากบราซิลเมื่อ 3 ปีก่อนที่ไม่ปลอดภัย และยังไม่มีความพร้อมแม้แต่น้อย จนต้องยกโขยงนักกีฬาทีมชาติไปพักโรงแรมด้านนอก
“เราเจอเรื่องต่างๆมากมายในริโอ การก่อสร้างและการเตรียมการเป็นไปอย่างลวกๆ เรากลับไปอีกครั้งใน 6 เดือนต่อมา ทุกอย่างก็ยิ่งแย่ แต่กับญี่ปุ่น พวกเขาเหนือกว่า ริโอมากในช่วงเวลาเดียวกัน
