นครหลวงโปรโมชั่น เริ่มขยับโยนหินถามทางแล้ว เตรียมขอ แมตช์รูม ยูเอสเอ ต้นสังกัดอนุญาตให้ พี่แหลม ศรีสะเกษ ลับหมัดรอคิว ระหว่างผู้ชนะศึกล้มแชมป์ระหว่าง เอสตราด้า ปะทะ ยาไฟ ต้นปีหน้า
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เสี่ยฮุย สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น วางคิวให้ “เจ้าแหลม” ซ้อมยาวเพื่อเตรียมรอชิงไฟต์บังคับตามคำสั่งสภามวยโลก WBC หลังได้รับประกาศิต มีมติเด็ดขาดจากงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแคนคูน เม็กซิโก ไปเมื่อเร็วๆนี้
Credit: Melina Pizano/Matchroom Boxing USA
โดย “แบงค์” เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ซีอีโอ นครหลวงโปรโมชั่น ต้นสังกัด บินเดี่ยวเดินทางไปร่วมประชุมพร้อมลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิ์ให้ศรีสะเกษในฐานะรองแชมป์โลกอันดับ 1 ผู้ควรจะได้สิทธิ์ทวงแชมป์โลกคืนตามไฟต์บังคับ จนชนะใจที่ประชุมลงมติเอกฉันท์ ให้รองแชมป์โลกชาวไทยยืนรอจ่อคิวต่อไปทันที หลังจาก ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า เจ้าของตำแหน่งพิกัด 115 ปอนด์ WBC ทำศึกล้มแชมป์ข้ามสถาบันกับ คาลิด ยาไฟ แชมป์สมาคมมวยโลก WBA ซึ่งจะมีขึ้นราวต้นปี 2563 ผ่านพ้นเป็นที่เรียบร้อย
ความคืบหน้าล่าสุด ทางนครหลวงโปรโมชั่น โดยบอสใหญ่ “เสี่ยฮุย” พิสิฐวุฒินันท์ เดินเกมชิงเหลี่ยมทางมวยโลกต่อทันที ด้วยการทำหนังสือไปยัง แมตช์รูม ยูเอสเอ ต้นสังกัดผู้ถือสิทธิ์จัด ศรีสะเกษ ชกในต่างประเทศ 3 ไฟต์ ด้วยการขออนุญาตให้ ศรีสะเกษ ที่เรื้อสังเวียนมายาวนานเกือบครึ่งปีได้มีคิวอุ่นเครื่อง ซึ่งตนพร้อมจะจัดขึ้นเองในเมืองไทย
“จริงๆแล้ว แหลมจะไม่ชกอุ่นเครื่อง หรือเคลื่อนไหวการชกใดๆเลยแล้วรอสิทธิ์ชิงไฟต์บังคับเลยก็ได้ แต่เราต้องการให้แหลมนั้นมีสภาพพร้อมและไม่เรื้อเวทีจนเกินไป เพราะเราไม่ได้ชกมานานกว่าครึ่งปีแล้ว การอุ่นเครื่องครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก”
“ส่วนคู่ชกก็จะพยายามเลือกเฟ้นนักมวยที่มีสไตล์การชกใกล้เคียงกับเอสตราด้า และ ยาไฟ ให้มากที่สุด ซึ่งผมจะเจรจากับทาง แมตช์รูม ยูเอสเอ ต้นสังกัดในอเมริกา หากเขาไฟเขียว เราก็พร้อมจะจัดเองในเมืองไทย 1 ไฟต์ และวันชกก็อยากจะให้ใกล้เคียงกับ เอสตราด้า ปะทะ ยาไฟ ที่อเมริกา ซึ่งจะมีขึ้นราวๆเดือนม.ค.ต้นปีหน้า เพื่อเป็นการเทียบฟอร์มให้ดูกันอีกด้วย” เสี่ยฮุยกล่าว
โดยปกตินั้น แมตช์ รูม หรือ ซานเฟอร์ โปรโมชัน ซึ่งจัดมวยโลกในอเมริกาตลอดหลายปีที่ผ่านมา มักจะวางคิวว่าที่คู่ชกในไฟต์ต่อไปขึ้นชกเทียบฟอร์ม ต่อยร่วมประกอบรายการเดียวกับคู่เอกเป็นประจำ กรณีดังกล่าว เปรียบเสมือนเป็นการโยนหินถามทาง ถือเป็นเหลี่ยมธุรกิจเชิงมวยของฝ่ายไทยในระดับอินเตอร์เลยทีเดียว
