แชมป์เก่าสุดบู่ ช้างศึก ทีมชาติไทย แชมป์เก่าฟุตบอลชายซีเกมส์ ประเดิมนัดแรกกลุ่มบี ได้อย่างน่าผิดหวัง ด้วยการโดน “อิเหนา”อินโดนีเซีย เชือดนิ่ม 2-0 ส่งผลให้ไทยต้องลุ้นเหนื่อยกับเกมที่เหลือในกลุ่มอีก 4 นัด เพื่อโอกาสเข้ารอบรองชนะเลิศ
แชมป์เก่าสุดบู่ – ฟุตบอลชาย ในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยแข่งหนุ่มไทยมีคิวประเดิมสนามกลุ่มบี พบ อินโดนีเซีย วันที่ 26 พ.ย. ที่ริซาล เมโมเรียล สเตเดียม กรุงมะนิลา ซึ่งขุนพล “ช้างศึก” เดินทางถึงกรุงมะนิลา ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา และเข้าพักที่โรงแรมเซ็นจูรี่ ปาร์ค มะนิลา ก่อนจะเริ่มฝึกซ้อมเบาๆ ในโรงแรมช่วงเย็นวันดังกล่าวทันที
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
อย่างไรก็ตามแข้งหนุ่มต้องพบปัญหาแรกทันทีที่มาถึง เมื่อฝ่ายจัดการแข่งขันแจ้งว่าไม่สามารถจัดห้องพักให้ได้ตามจำนวนที่ระบุมา ทำให้ต้องรอนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงจะได้ห้องพักครบทุกคน ส่วนเรื่องอาหารที่เจ้าภาพจัดมาให้นั้นไม่หลากหลาย และน้ำดื่มไม่เพียงพอ ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องจัดอาหารไทย อาทิ ไข่เจียว ผัดพริกแกงไก่ พะแนงเนื้อ ต้มจืด กระเพราไก่ และกระเพราเนื้อ ฯลฯ พร้อมผลไม้ ให้นักกีฬา
ด้านสนามซ้อมวันแรก (24 พ.ย.) เจ้าภาพได้จัดให้ทีมชาติไทยซ้อมที่สนามยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีปัญหาไม่พร้อมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห้องพักนักกีฬา ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ ที่ยังทำไม่แล้วเสร็จ รวมถึงต้องใช้เวลาเดินทางจากที่พักนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้วันแรกของการซ้อมทีมชาติไทยเดินทางไปถึงสนามซ้อมช้ากว่ากำหนดการถึง 20 นาที เป็นเหตุให้สมาคมกีฬาฟุตบอลต้องควักเงินเช่าสนามเซอร์กิต มากาติ บลู พิตช์ เป็นสนามซ้อมแทน เนื่องจากใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที ในการฝึกซ้อมวันที่ 25 พ.ย. แต่สภาพพื้นสนามค่อนข้างแย่เนื่องจากเป็นสนามหญ้าเทียมที่เก่ามากแล้ว
ขณะที่บรรยากาศก่อนการแข่งขันเมื่อ 26 พ.ย. ปรากฏว่าฟุตบอลไทยได้รับความสนใจน้อยกว่าที่คาดไว้เนื่องจากพบว่าจำนวนแฟนบอลชาวไทยเข้าสนามค่อนข้างบางตา โดยส่วนใหญ่เป็นกองเชียร์ชาวอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ปาร์ค ฮังซอ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติเวียดนาม ทีมร่วมกลุ่มบี นำทีมงานผู้ฝึกสอนทีมชาติเวียดนาม เข้ามาชมเกมการแข่งขันของทีมชาติไทยในเกมนี้ด้วย
ส่วน 11 ตัวจริงในเกมนี้ อากิระ ชินิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยจัดทัพระบบ 4-2-3-1 ส่ง นนท์ ม่วงงาม ยืนเฝ้าเสาในตำแหน่งผู้รักษาประตู เซ็นเตอร์แบ๊กใช้ ศฤงคาร พรมสุภะ จับคู่กับ ชินภัทร์ ลีเอาะ โดยมี ทิตาธร อักษรศรี และ ศรายุธ สมพิมพ์ วิงแบ๊กทั้งสองข้าง กลางรับใช้ ฉัตรมงคล ทองคีรี จับคู่กับ กฤษดา กาแมน ตัวรุกใช้ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ยืนฝั่งซ้าย ส่วน เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ยืนทางขวา หน้าตำเป็น ศุภชัย ใจเด็ด โดยมี ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
เริ่มเกมได้เพียง 4 นาทีอินโดนีเซีย ได้โอกาสบุกก่อนจากลูกเตะมุมและเล่นสั้นก่อนเปิดยัดเข้ากลางบอลชุลมุนหน้าปากประตูไทยก่อนที่ เมาลานา เอกี วิกรี จะได้ยิงจ่อๆ ตุงตาข่ายให้อินโดนีเซีย ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 หลังจากได้ประตูขึ้นนำขุนพลอิเหนาหันมาเล่นเกมรับเต็มรูปแบบ โดยทิ้งกองหน้าตัวเป้าไว้ข้างบนคนเดียวที่เหลือลงมาแพ็กเกมหน้าประตูตัวเอง ปล่อยให้ไทยครองบอลบุกเข้าใส่ แม้ว่า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะได้ยิงเต็มข้อในกรอบแต่ยังไม่ผ่านการป้องกันของผู้รักษาประตูอินโดนีเซีย
เกมส่วนใหญ่แม้ไทยจะครองบอลได้มากกว่าแต่แทบไม่มีโอกาสลุ้นประตูตีเสมอ ยังดีที่จังหวะโต้กลับของอินโดนีเซีย หลายครั้งขาดความเฉียบคมทำให้สกอร์ยังอยู่เท่าเดิม จากนั้นเกมกลับมาสูสีอินโดนีเซียครองบอลได้มากขึ้น แม้ว่าช่วงท้ายไทยจะพยายามเร่งเกมแต่ทำให้อะไรไม่ได้จบ 45 นาทีแรกยังตามหลังอินโดนีเซีย 0-1
ครึ่งหลัง อากิระ นิชิโนะ กุนซือใหญ่ปรับทัพทันทีด้วยการส่ง สุภโชค สารชาติ และสิทธิโชค ภาโส ลงเล่นแทน ฉัตรมงคล ทองคีรี และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และทันทีที่เริ่มเกมไทยดาหน้าบุกเข้าใส่ทันที และมีโอกาสยิงในเขตของ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ แต่หลุดกรอบออกหลัง
จากนั้นแม้ว่าไทยจะครองบอลมากกว่าอย่างชัดเจนแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของอินโดนีเซีย ที่เล่นเกมรับลึกหน้าปากประตูตัวเองเข้าไปลุ้นทำสกอร์ได้ เท่านั้นไม่พอนาที 86 โดนอินโดนีเซีย โต้กลับเร็ว บอลถึง อาร์ดิเลส ออสวัลโด ตัวสองรองที่ลงมาใหม่ ได้ยิงโล่งๆ คนเดียวส่งขุนพลอิเหนา หนีห่าง 2-0
ทำให้จบ 90 นาที ไทยแพ้ อินโดนีเซีย 0-1 ประเดิมการป้องกันแชมป์ซีเกมส์ด้วยความพ่ายแพ้
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของทีมชาติไทย ในกลุ่มบี จะพบกับ บรูไน วันที่ 28 พ.ย. ที่ริซาล เมโมเรียล สเตเดียม กรุงมะนิลา เวลา 15.00 น. (เวลาไทย)
