‘ธีราทร-ชนาธิป’ ความภาคภูมิ วงการลูกหนัง

กราบขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้สวัสดีปีใหม่ แฟนหนังสือพิมพ์ข่าวสด ที่ติดตามกันมาตลอด ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง มีความสุขตลอดปีที่กำลังจะมาถึง คิดสิ่งใดขอให้สมมาดปรารถนา

ตลอด 1 ปีเต็มที่ผ่านมาในวงการกีฬามีเรื่องราวมากมายให้ติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมลูกหนัง ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งของไทย รวมถึงของโลก ย่อมมีคนสนใจมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมลูกหนังทีมชาติไทย

กีฬา

ธีราทร บุญมาทัน ฉลองแชมป์เจลีก ญี่ปุ่น คนแรกของไทย

ฟุตบอลทีมชาติไทย ตลอดปีพ.ศ.2562 ตกต่ำซบเซาอย่างต่อเนื่องหาความสำเร็จให้แฟนบอลชื่นใจแทบจะนับครั้งได้ เริ่มที่ทีมชุดใหญ่ไทยประเดิมปีด้วยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ จั่วหัวนัดแรกแพ้อินเดียขาดลอย เป็นเหตุให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สั่งปลด มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซิร์บกลางอากาศ พร้อมให้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ขึ้นคุมทัพแทน และแน่นอนไทยไปได้ไกลสุดแค่รอบสอง

ถัดมาอีกไม่กี่เดือนไทยต้องลงสนามในฟุตบอล ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 แน่นอน “ช้างศึก” ต้องการเรียกศรัทธากลับมาอีกครั้ง แต่ผลงานที่ออกมาอย่างที่รู้กันดี เราแพ้เวียดนามในรอบรองชนะเลิศ ได้ชิงอันดับ 3 กับอินเดีย ก่อนจะแพ้ 0-1 ได้อันดับสุดท้าย และเป็นการทำงานกับทีมชาติเป็นครั้งสุดท้ายของ “โค้ชโต่ย”

กีฬา

แฟนคลับชาวญี่ปุ่นตามให้กำลังใจ ชนาธิป สรงกระสินธ์

จากนั้นสมาคมลูกหนังไทยพยายามเฟ้นหาหัวหน้าโค้ชคนใหม่อย่างเข้มข้น หวังเอาคนที่ดีที่สุดเข้ามา “ลดกระแส” การก่นด่าจากแฟนบอล ก่อนจะมาจบที่ อากิระ นิชิโนะ อดีตโค้ช ทีมชาติญี่ปุ่น ชุดลุยรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งค่อนข้างได้ผล เมื่อกระแสการโจมตีเริ่มลดลง โดยทำผลงานคุมทีมชาติไทย ฟอร์มกระเตื้องขึ้นชนะทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ชนะอินโดนีเซีย มีโอกาสเข้ารอบสองฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แม้จะแผ่วในช่วงปลายด้วยการแพ้มาเลเซีย และเสมอเวียดนาม แต่โดยรวมนิชิโนะทำผลงานส่วนตัวได้น่าพอใจ

กีฬา

อากิระ นิชิโนะ ความหวังฟื้นศรัทธาบอลไทย

ส่วนฟุตบอลหญิงถือเป็นปีแห่งความผิดหวัง อย่างแท้จริงแม้ว่าจะได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2 สมัยติด แต่ครั้งล่าสุดนี้ แพ้เละทุกนัดกลับบ้านมือเปล่า แถมซีเกมส์ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ หมายมั่นปั้นมือจะเอาเหรียญทองกลับมา สุดท้ายได้แค่รองแชมป์

 

ด้านระดับเล็กลงไปทั้งชายและหญิงต่างไม่ ทำให้แฟนบอลได้ยิ้มออก 19 ปีชายเพียงรองแชมป์อาเซียน แถมแพ้ทีมที่ขี่มาตลอดอย่างกัมพูชา ฟุตบอลเยาวชนหญิงได้เพียงรองแชมป์อาเซียนทั้งที่เล่นในบ้านเราเอง ส่วนทีมชายรุ่นไม่เกิน 23 ปีต้องอาศัยความเป็น เจ้าภาพรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย จึงได้สิทธิ์เล่น เพราะแพ้เวียดนามเละเทะตกรอบคัดเลือก ตามด้วยฟอร์มสุดบู่กับการตกรอบแรกฟุตบอลชายในซีเกมส์ครั้งแรกรอบ 8 ปี

กีฬา

ทีมชาติไทยยังเหลือโปรแกรมแข่งฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

ลูกหนังไทยยังมีโปรแกรมให้ลุ้นต่อ ในปีใหม่นี้นั่นคือ 23 ปีชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายที่จะคัด 3 ทีมไปโอลิมปิก และฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก อีก 3 นัดที่เหลือ ภายใต้การนำของอากิระ นิชิโนะ ทั้งหมด หวังว่ากุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้จะสร้างรอยยิ้มให้แฟนบอลชาวไทยได้บ้าง

จบจากเรื่องของทีมชาติ หันมาดูเรื่องฟุตบอลลีกอาชีพในประเทศกันบ้าง ตลอดปีที่ผ่านมาตะกุกตะกักไม่น้อย เริ่มจากการที่สมาคมบอลประกาศจะใช้เทคโนโลยีวิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) แต่พอจะใช้จริงกลับโดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งเบรกหัวทิ่ม เพราะยังไม่ผ่านมาตรฐานต้องปรับต้องแก้กันเป็นปี กว่าจะได้ใช้ต้องรอถึงฤดูกาลหน้า แต่ยังดีกว่าไม่มี เนื่องจากตลอดซีซั่นที่ผ่านมา ผู้ตัดสินโดนร้องเรียนแทบจะทุกสัปดาห์ มีการสั่งพักงานไปหลายรายจนกรรมการแทบไม่พอใช้ตัดสิน

กีฬา

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ฮึดสู้บุกเชือดสุพรรณบุรี เอฟซี

ขณะที่การลุ้นแชมป์ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่ ไม่ใช่ของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เต้ยเบอร์หนึ่งฟุตบอลอาชีพ ในประเทศ เพราะหลังจาก ที่ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประกาศว่าจะคว้าทุกแชมป์ในประเทศ ผ่านมาไม่กี่วันกลับกระเด็นตกรอบเอฟเอ คัพ ปล่อยให้การท่าเรือ เอฟซี ผงาดแชมป์รายการนี้อีกครั้งในรอบ 10 ปีอย่างยิ่งใหญ่ เท่านั้นไม่พอ รอบชิงชนะเลิศโตโยต้า ลีกคัพ กลับแพ้จุดโทษให้กับ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ได้เพียงรองแชมป์ แต่ที่เจ็บใจสุดๆ คือนัดสุดท้ายโตโยต้า ไทยลีก ขอเพียงแค่ชนะเชียงใหม่ เอฟซี ที่ตกชั้นไปแล้วจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 8 แถมยังขึ้นนำอยู่ แต่กลับโดนตีเสมอช่วงท้ายเกม ขณะที่เชียงราย ยูไนเต็ด ถล่มสุพรรณบุรี เอฟซี ทำแต้มเท่ากันที่ 58 คะแนน แต่ผลการพบกัน ปรากฏว่าเชียงราย ดีกว่าบุรีรัมย์ จึงปาดหน้าคว้าแชมป์ไปครองเป็นประวัติศาสตร์แรกของสโมสร

กีฬา

สุภโชค สารชาติ แจ้งเกิดเต็มตัวในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

แม้ฟุตบอลไทยจะไม่ค่อยมีเรื่องให้ได้ยิ้ม อย่างที่เกริ่นก่อนหน้านี้ แต่มีอยู่ 2 คนที่สามารถสร้างความสุขให้กับคนไทยได้ยืดอกคุยกับใครเขาได้ นั่นคือความสำเร็จของ 2 นักเตะไทยอย่าง “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน และ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ รายหลังไม่พูดอะไรมาก เจ้าตัวพิสูจน์ตัวเองได้ตั้งแต่ครึ่งฤดูกาลหลังเจ-ลีก ญี่ปุ่น เมื่อ 3 ปีก่อน จนกลายเป็น ตัวหลักให้กับคอนซาโดเล ซัปโปโร จนโดนซื้อขาดจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แถมตั้งค่าตัวการย้ายทีมไว้สูงถึง 200 ล้านบาท หากใครอยากได้ตัว

กีฬา

อากิระ นิชิโนะ กุนซือได้แค่มองเวียดนามผ่านเข้ารอบซีเกมส์

ตลอดปีที่ผ่านมาชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้รับเลือกลงสนามเป็นตัวจริงในเกมทุกครั้ง หากไม่มีอาการบาดเจ็บ และจังหวะการกระชากลากเลื้อย รวมถึงการจ่ายบอลทะลุช่องสร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นประตูอยู่ตลอด แต่ช่วงปลายฤดูกาลโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจนทำให้พลาดไปหลายเกม สุดท้ายตลอดทั้งปี “เจ” ลงเล่นให้ทีมทั้งหมด 20 นัด ยิงได้ 4 ประตู พาทีมจบอันดับ 10 ของตารางคะแนน พร้อมกับคว้ารองแชมป์ลูวาน คัพ

ด้านธีราทรเคยไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่นก่อนหน้า นี้แล้วเมื่อปี 2018 ด้วยการเล่นให้กับวิสเซล โกเบ แม้จะได้ลงสนามอยู่บ่อยครั้ง มีโอกาสลงสนามทุกรายการถึง 35 นัด แต่ส่วนใหญ่เป็นตัวสำรอง กระทั่งปีนี้เจ้าตัวได้รับโอกาสจากโยโกฮามา เอฟ มารินอส และฉายแววแกร่งทันที มีส่วนสำคัญให้ทีมออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม และเติมขึ้นไปทำประตูหลายครั้ง โดยนัดสุดท้ายขึ้นไปยิงประตูสุดสวยให้ต้นสังกัดขึ้นนำเอฟซี โตเกียว ก่อนจะชนะ 3-0 ผงาดคว้าแชมป์ลีกไปครอง ทำสถิติเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดของญี่ปุ่น

กีฬา

ขุนพลซีเกมส์แค่เสมอเวียดนามตกรอบแรกในรอบ 8 ปี

ท่ามกลางความผิดหวังของฟุตบอลทีมชาติไทย แต่ความสำเร็จของชนาธิป และธีราทร สร้างความสุขให้แฟนบอลไทย อย่างแท้จริง

ต้องรอลุ้นว่าปีใหม่ที่จะถึงนี้ทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อ เช่นเดียวกับฟุตบอลทีมชาติ และฟุตบอลอาชีพของแดนสยาม จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง สร้างร้อยยิ้มให้คนทั้งประเทศได้บ้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน