ช้างศึก เฮ ศุภณัฏฐ์ ฟิตทันบู๊ อิรัก – นิชิโนะ ไม่สนผลเสมอสั่งลูกทีม เล่นเพื่อชนะ

ช้างศึก – “ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เตรียมลงสนามสนามศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คัดตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 รอบแรก กลุ่มเอ นัดสุดท้าย พบกับ อิรัก ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 14 มกราคม เวลา 20.15 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี (หมายเลข 35)

สำหรับสถานการณ์ในกลุ่มเอ ออสเตรเลีย นำเป็นจ่าฝูงจากผลงานชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนน ตามมาด้วยทีมไทย ที่ชนะ 1 แพ้ 1 มีอยู่ 3 คะแนน ส่วนอิรัก เป็นอันดับ 3 มี 2 คะแนน และบาห์เรน มีเพียง 1 คะแนนเท่านั้น ซึ่งเงื่อนไขในการเข้ารอบของทีมชาติไทย เกมนี้จะต้องมีผลชนะ หรือเสมอ เป็นอย่างน้อย จะตีตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ทันที โดยไม่ต้องลุ้นผลของอีกคู่หนึ่ง แต่ถ้าหากแพ้ให้กับอิรัก ก็จะตกรอบแรกทันทีเช่นกัน

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวญี่ปุ่น นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่สนามวินด์มิลล์ ฟุตบอลคลับ โดยที่ “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด ยังคงมีอาการบาดเจ็บอยู่และไม่ได้มาซ้อมร่วมกับทีม ขณะที่ “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา สามารถกลับมาซ้อมร่วมกับทีมได้แล้ว

นิชิโนะ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ของทีมชาติไทยตอนนี้ต่างจากตอนที่คุมทีมชาติญี่ปุ่นเมื่อฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา ครั้งนี้เราได้คุยกับนักเตะแล้วว่าเราจะลงเล่นเพื่อ 3 คะแนน ทุกคนเข้าใจตรงกัน อย่างที่บอกว่าเราเป็นรองทุกทีม อยากให้นักกีฬานั้นพยายามทดสอบตัวเองกับทีมที่ระดับเหนือกว่า ซึ่งทั้ง 2 นัดที่ผ่านมาทุกคนทำเต็มที่ เกมกับอิรักก็อยากให้ทำเต็มที่เช่นกัน

นิชิโนะ กล่าวอีกว่า เนื่องจากทีมไทยเป็นสไตล์การเล่นแบบเพรสซิ่ง ซึ่งต้องใช้พลังงานเยอะมาก ดังนั้นการเลือกนักเตะจะเน้นคนที่พร้อมลงสนาม อาจจะมีปรับเปลี่ยนบางตำแหน่ง และคิดว่าทุกคนจะทำงานได้ดีเช่นกัน ส่วนเรื่องของศุภชัยคงต้องรอดูสภาพร่างกายอีกครั้ง เพราะจะเห็นได้ว่าการขาดศุภชัยนั้นมีผลทั้งเกมรุกเกมรับ ถ้าไหวจะพยายามให้ลงสนามให้ได้

“จุดเด่นของอิรักนั้นได้มีการศึกษามาแล้ว การซ้อมก็จะเน้นเพื่อป้องกันจุดเด่นของอิรักด้วยเช่นกัน”
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การตกรอบของทีมชาติญี่ปุ่น จะส่งผลอย่างไรกับทีมชาติไทยบ้าง ในการคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งนิชิโนะ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ทีมไทยที่ต้องกังวล เพราะทีมอื่นๆ ก็ ต้องทำงานหนักเพื่อเป็น 1 ใน 3 ให้ได้ ส่วนไทยจะขอโฟกัสที่นัดต่อไปก่อน ถ้าเข้ารอบแล้วค่อยมากังวลเรื่องนี้อีกที

ด้านศุภณัฏฐ์ กล่าวว่า สภาพร่างกายตัวเองดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจ็บเหมือนวันแรกที่โดนมา รอดูวันนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนการขาดศุภชัยน่าจะมีผลกระทบ เพราะช่วยเก็บบอลได้ ถ้าไม่มีก็คงเล่นได้ยาก แต่ก็ต้องมีคนทดแทนได้ ส่วนความกดดันนั้นก็ไม่ได้กดดันอะไร แค่อย่าประมาทก็พอ เพราะอิรักมีเกมรุกที่ดี ยิงครึ่งหลังบ่อย ประมาทไม่ได้แน่นอน

สำหรับ 11 ตัวจริง ที่คาดว่าจะลงสนาม ยังคงยึดระบบ 4-2-3-1 นำมาโดย ผู้รักษาประตู กรพัฒน์ นารีจันทร์ เซนเตอร์แบ๊ก ชินภัทร์ ลีเอาะ (กัปตันทีม), ศฤงคาร พรหมสุภะ แบ๊กซ้าย ทิตาธร อักษรศรี แบ๊กขวา มีโชค มหาศรานุกูล กองกลางตัวรับ กฤษดา กาแมน, สรวิทย์ พานทอง กองกลางตัวรุกซ้าย อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ แนวรุกขวา เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เพลย์เมกเกอร์ สุภโชค สารชาติ และกองหน้าตัวเป้า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

ส่วนสถิติระหว่างทีมชาติไทยกับอิรัก ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เคยเจอกันมา 2 ครั้ง ครั้งแรกคือฟุตบอลชาย เอเชี่ยนเกมส์ 2014 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในนัดชิงอันดับ 3 ซึ่งไทยแพ้ไป 0-1 จากนั้นเป็นเกมอุ่นเครื่อง เมื่อปี 2017 เสมอกันไป 1-1

อ่านข่าว – ช้างศึก เหี่ยวปลาย พ่าย ออสเตรเลียศึกเอเชีย ยู-23

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน