ภิญโญ นิโรจน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดแถลงข่าวเปิดตัวทีมงาน พร้อมคอนเซ็ปต์ “Change พัฒนาฟุตบอลไทยสู่บอลโลก ถึงเวลาคนฟุตบอลตัวจริงพาฟุตบอลไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก” หวังพัฒนาลูกหนังไทยในทุกด้าน
ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวทีมงาน และชูนโยบาย “Change พัฒนาฟุตบอลไทยสู่บอลโลก ถึงเวลาคนฟุตบอลตัวจริงพาฟุตบอลไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก” เพื่อแถลงนโยบายในการชิงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ตนเป็นสภากรรมการของสมาคมกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่สมัยที่ พ.อ.อนุ รมยานนท์ เป็นนายกสมาคม รวมทั้งในสมัย พล.อ.ชลอ เกิดเทศ, นายวิจิตร เกตุแก้ว, นายวรวีร์ มะกูดี ในปี 2557-2558 ฟุตบอลทีมชาติพัฒนาไปมาก เพราะฟุตบอลลีกดี แต่ตอนนี้นิ่งไป จึงนิ่งเฉยไม่ได้ อยากกลับมาพัฒนาให้ถูกทางและโปร่งใส
“นโยบายที่ต้องทำ คือฟุตบอลไทยลีก (ที1 – ที2) จะเพิ่มจาก 16 เป็น 18 ทีม เพราะเป็นหลักสากล รวมทั้งเพิ่มเงินรางวัลให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันแต่ละทีมใช้เงินมหาศาลในแต่ละปี แต่ได้แชมป์แล้วได้แค่ 10 ล้านบาท ถือว่าน้อยเกินไป”
ส่วนที3 – ที4 ต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นทีมที่เกิดมาจากภูมิภาค สร้างให้คนในท้องถิ่นรักฟุตบอล สร้างคนในจังหวัดให้โตมาเป็นนักเตะของจังหวัด สร้างอาชีพให้กับเยาวชนในอนาคต ต่อยอดสู่ทีมชาติ ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ ที3 – ที4 กลับมามีผู้สนับสนุนให้มากขึ้น ไม่ต้องดิ้นรนหาเงิน และขายสิทธิเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ
ขณะที่นโยบายในการพัฒนาทีมชาติไทยนั้น ดร.ภิญโญกล่าวว่า จะต้องพัฒนาทีมเยาวชนให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นรากฐานของทีมชุดใหญ่ จัดตั้งศูนย์พัฒนาฟุตบอลให้ครบ 5 ภาค ไม่ใช่แค่รวมอยู่ตรงกลางอย่างเดียว ซึ่งมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ทุกภาคแล้ว แล้วนำบุคลากรที่มีประสิทธิภาพเข้าไปสร้าง เน้นไปที่การพาฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้
“ขอยืนยันว่า ถ้าได้รับเลือกให้ทำงาน ซีเกมส์ 2 ครั้งข้างหน้า ฟุตบอลชายจะต้องได้แชมป์เท่านั้น ส่วนเอเชียนเกมส์จะต้องเข้าสู่รอบรองชนะเลิศให้ได้ ฟุตบอลหญิงจะต้องได้เล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกต่อเป็นสมัยที่ 3 และต้องมีฟุตบอลลีกหญิงที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งส่งนักเตะไปแข่งขันในลีกต่างประเทศด้วย”
ดร.ภิญโญกล่าวด้วยว่า มีคนวิจารณ์กันว่าการมาสมัครครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะอยู่ใต้ใคร แต่ตนมีวุฒิภาวะ เป็นอดีตรัฐมนตรี เป็นส.ส.มา 8 สมัย ไม่ได้อยู่ใต้ใครทั้งนั้น ต้องมาเป็นผู้นำเท่านั้น
“ฟุตบอลคิงส์คัพต้องหาทีมใหญ่ๆ แข็งๆ มาแข่งกับไทย ไม่ใช่หาทีมอ่อนๆ มาเตะ จุดนี้จะทำให้เราไปสู่ฟุตบอลโลกได้ เราไม่จำเป็นต้องเป็นแชมป์คิงส์คัพตลอดเวลา แต่ต้องทำให้ไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้”
สำหรับทีมงานของดร.ภิญโญในการชิงตำแหน่งครั้งนี้ ได้แก่ ดร.ปัญญา หาญลำยวง, พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์, พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์, นายสามารถ มะลูลีม, ดร.วิชัย ล้ำสุทธิ, นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล, ดร.จุฑา ติงศภัทย์, นายสุนทร มีสุวรรณ, นายชัยโชค พุ่มพวง, นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ, นายสมศักดิ์ อรุณสุรัตน์, นายอติพล สุวรรณดี, นายคณบดี แย้มชุติ, นายภีมเดช อมรสุคนธ์, นายอนุชา ไชยเทศ, นายสุพจน์ งดงาม
ทั้งนี้การเลือกตั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะมีวันที่ 12 ก.พ. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยนอกจากทีมดร.ภิญโญแล้ว ยังมี ทีมของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมคนปัจจุบัน ขณะที่ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี ที่ลงสมัครตำแหน่งนายกคนเดียว โดนตัดสิทธิ์ไปแล้ว
