นาตาลี ปัญญาวัน ควง ยลธนันท์ พลกล้า คว้าเพิ่มอีก 2 เหรียญทอง ให้ทัพจักรยานไทย ในการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 26

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 26 และการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 12 ที่ตำบลท่าข้าวเปลือก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เป็นการแข่งขันวันที่สาม ที่บริเวณดอยม่อนกระถาง มีชิงชัย 4 เหรียญทองจาก ประเภทครอสคันทรี่ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง และเยาวชนหญิง พร้อมด้วยครอสคันทรี่ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย และเยาวชนชาย โดยมี มร.ออการ์ ซิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์จักรยานเอเชีย (เอซีซี) ชาวอินเดีย พร้อมด้วย “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, น.ส.ละออง ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย มาร่วมให้กำลังใจนักกีฬาถึงขอบสนามเช่นเคย

เริ่มจากการแข่งขันรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ทีมสองล้อไทยส่ง 3 นักปั่นลงชิงชัย ได้แก่ น.ส.นาตาลี ปัญญาวัน, น.ส.สุรัตติยา บุบผา, น.ส.วราภรณ์ วายุภาพ โดยในรุ่นนี้จะปั่นกัน 4 รอบสนาม ความยาวรอบละ 4.8 กม. รวมระยะทาง 19.2 กม. เกมการปั่นในรอบแรก อูราวะ คาวากูชิ จากญี่ปุ่น ปั่นนำไปก่อน โดยมี นาตาลี ไล่ตามไปติด ๆ แต่พอเข้ารอบสอง คาวากูชิ หล่นไปอยู่ที่ 3 แล้ว นาตาลี แซงขึ้นไปเป็นผู้นำแทน โดยมี สุรัตติยา ขึ้นไปอยู่ที่ 2 จากนั้นรอบที่ 3 คาวากูชิ ฮึดแซง สุรัตติยา ได้สำเร็จ แล้วพยายามจะไล่แซง นาตาลี แต่ไม่ทัน ครบ 4 รอบ นาตาลี ปัญญาวัน จึงปั่นเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 1.29.25 ชั่วโมง ผงาดคว้าแชมป์เอเชียไปครอง ส่วนที่ 2 อูราวะ คาวากูชิ เวลา 1.30.07 ชั่วโมง, ที่ 3 สุรัตติยา บุบผา เวลา 1.32.54 ชั่วโมง

รุ่นเยาวชนหญิง มีนักปั่นสาวไทย ลงแข่งขัน 2 คน ได้แก่ น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า, น.ส.จริญญา สืบจากถิ่น ซึ่งในรุ่นนี้จะปั่นกัน 3 รอบสนาม รวมระยะทาง 14.4 กม. ผลปรากฏว่า 2 สาวไทย ทำผลงานสุดเจ๋ง คว้าแชมป์และรองแชมป์เอเชียมาครองสำเร็จ โดยแชมป์ตกเป็นของ ยลธนันท์ พลกล้า เวลา 1.08.52 ชั่วโมง และ จริญญา สืบจากถิ่น ปั่นเข้ามาเป็นที่ 2 ด้วยเวลา 1.15.11 ชั่วโมง, ที่ 3 ซารินา บิคมาเยว่า จากคาซัคสถาน เวลา 1.17.34 ชั่วโมง

รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ปั่น 5 รอบสนาม รวมระยะทาง 24 กม. มีนักกีฬาไทยลงแข่งขัน 3 คน ได้แก่ นายพูนศิริ ศิริมงคล, นายเดชธนสิทธ์ ไกรสิงห์, จ่าอากาศตรี อธิชนัน กล้าหาญ แต่ยังสู้ความแข็งแกร่งของนักกีฬาต่างชาติไม่ได้ ผลปรากฏว่า แชมป์ตกเป็นของ เซียง จิง หลิว จากจีน เวลา 1.24.51 ชั่วโมง, ที่ 2 เดนนิส เซอร์กิเยนโก้ จากคาซัคสถาน เวลา 1.26.44 ชั่วโมง, ที่ 3 โคทาโร่ คิตาบายาชิ จากญี่ปุ่น เวลา 1.30.05 ชั่วโมง

รุ่นเยาวชนชาย ปั่น 4 รอบสนาม รวมระยะทาง 19.2 กม. มีนักกีฬาไทยลงแข่ง 2 คน ได้แก่ นายอธิพงษ์ สุวรรณสิงห์, นายพงษ์สิน พลกล้า ซึ่ง 2 นักปั่นไทยยังสู้ความแข็งแกร่งนักกีฬาต่างชาติไม่ได้เช่นกัน โดยแชมป์ตกเป็นของ อ เซอิ มัตซึโมโต จากญี่ปุ่น เวลา 1.12.41 ชั่วโมง, ที่ 2 ซุง ซู เฮโย จากเกาหลีใต้ เวลา 1.12.58 ชั่วโมง, ที่ 3 อายูมิ นากาจิมา 1.13.56 ชั่วโมง

หลังการแข่งขัน นาตาลี เปิดเผยว่า ดีใจมากที่คว้าแชมป์ได้ ดีใจแทนพ่อแม่ ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว ขอขอบคุณท่านนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ พลเอกเดชา เหมกระศรี ที่ผลักดันและดูแลตนเองด้วยดีมาตลอดจนกระทั่งประสบความสำเร็จในวันนี้ ขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชและเพื่อนร่วมทีม ขอบคุณกองเชียร์ชาวไทยทุกคน รวมทั้งแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจกันตลอดมา ส่วนการที่นักกีฬาญี่ปุ่นอันดับร่วงไปอยู่ที่ 3 ตอนปั่นในรอบที่ 2 อาจเป็นเพราะรอบแรกเขาแรงเต็มที่ แต่ด้วยความว่าเขาไม่ชินกับอากาศร้อนในเมืองไทย เลยทำให้หมดแรง

นาตาลี กล่าวอีกว่า การคว้าแชมป์เอเชียในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิงหนนี้ นับเป็นครั้งแรกของตนเอง ที่ผ่านมาเคยได้แชมป์เอเชียรุ่นเยาวชนหญิง เมื่อปี 2016 ที่ จ.ชัยนาท สำหรับเป้าหมายในอนาคตยังบอกไม่ได้ อยู่ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะพิจารณาตามความเหมาะสม แต่หลังจากนี้ขอกลับไปตั้งใจเรียนก่อน ซึ่งตนเองกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ส่วน ยลธนันท์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ก่อนแข่งตนก็แอบหวังไว้ลึก ๆ เหมือนว่าอยากจะได้แชมป์ เพราะการแข่งขันชิงแชมป์ปีที่แล้ว ที่ประเทศเลบานอน ได้แค่เหรียญทองแดง คราวนี้จึงเป็นแชมป์เอเชียครั้งแรกของตน ขอขอบคุณกองเชียร์ชาวไทยทุกคน ขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ให้การสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยด้วยดีมาโดยตลอด และขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชทุกคน

ด้าน พลเอกเดชา กล่าวว่า ก่อนการแข่งขัน เราตั้งเป้าหวังเหรียญทองจากประเภทดาวน์ฮิล ประชาชนชาย และประชาชนหญิง ส่วนครอสคันทรี่ ก็หวังจากรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ส่วนรุ่นเยาวชนหญิง หวังว่าจะมีเหรียญใดเหรียญหนึ่ง แต่นักกีฬาของเราทำได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนการแข่งขันครอสคันทรี่ รุ่นประชาชนหญิง โอกาส 50-50 คอยลุ้นจาก สิบโทหญิง ศุภักษร นันตะนะ ว่าจะติด 1 ใน 3 ส่วนรุ่นประชาชนชาย โอกาสคงค่อนข้างยาก เพราะคู่แข่งมีทั้งระดีบแชมป์โลก แชมป์เอเชีย หลายคน นอกจากนี้ก็หวังว่าจะมีเหรียญเพิ่มจากการแข่งขันวันสุดท้ายในประเภทครอสคันทรี่ อิลิมิเนเตอร์ ตอนนี้เราทำได้ตามเป้าหมายแล้ว

ในพิธีมอบเหรียญรางวัล พลเอกเดชา ได้มอบเงินรางวัลพิเศษให้แก่นักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลทุกคน โดยผู้ที่ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท, อันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท, อันดับ 3 ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท สรุปยอดรวมที่นักกีฬาครอสคันทรี่ได้รับไปทั้งหมด 150,000 บาท

สำหรับโปรแกรมวันอังคารที่ 4 ก.พ. เวลา 09.00-11.30 น. แข่งขันครอสคันทรี่ ประชาชนหญิง รอบชิงชนะเลิศ เวลา 14.00-16.30 น. แข่งขัน ครอสคันทรี่ ประชาชนชาย รอบชิงชนะเลิศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน