ชลบุรี โอด โควิด ทำ ขาดความต่อเนื่อง-ท่าเรือ เชื่อ อัดโปรแกรมช่วงท้ายไม่กระทบ
หลังจากที่บริษัท ไทยลีก จำกัด มีมติเห็นชอบให้ฟุตบอลลีกอาชีพทุกระดับ รวมถึงฟุตบอลรายการอื่นๆ เลื่อนการแข่งขันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยจะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ในวันที่ 18 เม.ย. ทำให้ระหว่างนี้จะไม่มีกิจกรรมกีฬาในประเทศนานกว่า 40 วัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายจีระศักดิ์ โจมทอง ผอ.ฝ่ายการประชาสัมพันธ์และการตลาด “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ในศึกโตโยต้า ไทยลีก ยอมรับว่าการเลื่อนเกมฟุตบอลลีกทำให้ทุกอย่างชะงักไปหมด เหมือนตลอดช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมาซึ่งชลบุรีเป็นสโมสรต้นๆ ที่มีการเตรียมตัวเข้าแคมป์ฝึกสอนเพื่อสู้ศึกฤดูกาลใหม่สูญเปล่า ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด
“ก่อนอื่นต้องบอกถึงสถานการณ์ของทีมว่าได้รับผลกระทบพอสมควรกับการที่เกมฟุตบอลลีกต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป อย่างที่ทราบคือเราเตรียมทีมค่อนข้างเร็วกว่าทุกครั้ง นักเตะค่อนข้างพร้อม แต่พอทุกอย่างหยุดหมดทำให้นักเตะขาดความต่อเนื่อง เมื่อซ้อมมาอย่างต่อเนื่องแล้วไม่ได้ลงแข่งทำให้ผู้เล่นขาดความกระตือรือร้น แต่สิ่งนี้โทษใครไม่ได้เพราะเป็นเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ส่งผลกระทบกับชีวิตของประชาชน เราต้องให้ความร่วมมือเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม”
“เมื่อไม่มีเกมให้เล่นเราจึงต้องวางแผนสำหรับเกมอุ่นเครื่องเพื่อไม่ให้นักเตะห่างเกมในสนามมากเกินไป โดยเบื้องต้นเราจะปล่อยให้นักเตะได้พักผ่อนช่วงสั้นๆ จากนั้นจะเรียกทุกคนกละบมาเข้าแคมป์ และวางเกมอุ่นเครื่องไว้ 2 นัด แต่คาดว่าจะมีเกมอุ่นเครื่องมากกว่านี้เนื่องจากกำลังเจรจากันอยู่ ซึ่งนัดแรกเราจะอุ่นเครื่องกับอุทัยธานี ฟอเรสต์ ในวันที่ 13 มี.ค. ที่ชลบุรี สเตเดียม ส่วนเกมอื่นๆ เราจะให้แฟนบอลได้รับทราบอีกครั้ง”
ขณะเดียวกันนายใหญ่ฉลามชล ยอมรับว่าการเปิดซีซั่น 4 นัดแรก ผลงานยังไม่เป็นไปตามที่บอร์ดบริหารต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฟอร์มการเล่นเกมนอกบ้าน
“ผลงานในช่วงออกสตาร์ตต้องยอมรับว่าเรายังไม่พอใจกับการที่อยู่อันดับ 9 ของตารางคะแนน โดยเฉพาะการเล่นเป็นทีมเยือน เนื่องจากเกมการเล่นในบ้านเราเล่นดีมากมีความกระหายอยากที่จะเอาชนะ ทุกคนช่วยกันวิ่งไล่บอล ต่างจากเกมเยือนที่ตรงกันข้าม ซึ่งผมเชื่อว่าโค้ชเตี้ย (สะสม พบประเสริฐ) เห็นปัญหาตรงนี้แล้วน่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นก่อนฟุตบอลลีกจะกลับมาเตะอีกครั้ง”
“จริงอยู่ที่เราไม่ใช่ทีมร่ำรวยมีเงินในการทำทีมมากมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมฟุตบอลลีกไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังอันดับเราสมควรที่จะดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเราคาดหวังถึงการลุ้นแชมป์เพราะเราต้องยอมรับความจริงว่าเรายังห่างกับการมองถึงแชมป์ลีก แต่สิ่งที่เป็นตอนนี้ไม่ใช่อันดับที่เราคาดหวัง”
ส่วน “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี หนึ่งทีมเต็งแชมป์ เปิดเผยว่า การพักเบรกนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว เพราะว่าถ้าหากแข่งแบบไม่มีแฟนบอลมันก็ไม่ควรเท่าไหร่ ขณะที่สโมสรนั้นมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ถ้ายังเตะต่อไปก็จะหนักกับสโมสรแทน ส่วนโปรแกรมที่อาจจะแน่นขึ้นคิดว่าคงไม่ได้รับผลกระทบหนักมาก เพราะทีมชาติเองก็เลื่อนเช่นกัน
ขณะที่ผลงานของทีมซึ่งเปิดฤดูกาลมา รั้งอันดับ 3 ของตาราง มี 10 คะแนน จากผลงานชนะ 3 เสมอ 1 นั้น นั้น โค้ชโชค กล่าวว่า เป็นผลงานที่โอเค โชคดีที่ทีมมีปรีซีซั่นเยอะ ทำให้ปรับการเล่นของนักเตะให้เข้ากันได้ แต่ปัญหาคือเรื่องของอาการบาดเจ็บ มีหลายคนเจ็บโดยเฉพาะตัวจริง ยังดีที่ตัวที่ลงไปสามารถทดแทนกันได้ อย่างก่อนเกมไปเยือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็กังวลเพราะว่าเอเลียส ดอเลาะ บาดเจ็บกระดูกเท้าแตก แต่ทศพล ลาเทศ ลงไปก็เล่นได้ดี เก็บผลเสมอซึ่งถือว่ายากเวลาไปเยือนบุรีรัมย์ได้ นับเป็นคะแนนที่สำคัญทีเดียว
โค้ชโชค กล่าวต่อว่า ตอนนี้การเตรียมทีมต้องกลับไปเหมือนปรีซีซั่นอีกครั้ง จะปล่อยนักเตะพักแค่ไม่กี่วันเท่านั้น แล้วก็ต้องวางโปรแกรมฝึกซ้อมใหม่ หาเกมอุ่นเครื่องแล้วลงทีมแบบปิด เพื่อไม่ให้ห่างเกมนานไป
“ตอนนี้ศิวกร (จักขุประสาท) ก็กลับมาแล้วเพียงแต่ยังไม่ฟิตเต็มที่ เช่นเดียวกับ ธนบูรณ์ (เกษารัตน์) ที่เพิ่งหายจากการผ่าตัด ก็ยังไม่ฟิตเช่นกัน คนอื่นๆ ที่ลงเล่นถือว่าระบมเช่นกัน เพราะตอนปรีซีซั่นเล่นหนัก 6 นัดใน 10 วัน ดังนั้นช่วงนี้เป็นเรื่องดีที่นักเตะจะได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับมา”
โค้ชโชค ปิดท้ายว่า เป้าหมายของทีมยังเหมือนเดิม แต่ก็จะดูกันไปทีละนัด แต่คู่แข่งนั้นก็ยังมองไม่ออกเพราะว่าเพิ่งผ่านมา 4 เกมเท่านั้น จ่าฝูงอย่างแบงค็อก ยูไนเต็ด แม้จะเปลี่ยนผู้เล่นน้อย แต่ระบบเขาดีอยู่แล้ว ขณะที่ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ก็มีความแข็งแกร่ง วิ่งสู้ฟัดทุกนัดเช่นกัน
